วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567

‘ได้ออกนอกบ้าน!’ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ กรมสมเด็จพระเทพฯ

 


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงถ่ายทอดมุมมองจากสายพระเนตรที่ทรงประสบพบเห็นสิ่งที่ทรงสนพระราชหฤทัยผ่านภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ประจำปี 2567 ที่พสกนิกรเฝ้าติดตามชื่นชมพระอัจฉริยภาพ  ปีนี้สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพ ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานเอกชนอื่นๆ จัดงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ หัวข้อ ได้ออกนอกบ้าน! : Free at Last!” ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี  โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดงาน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

 


ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายภาพถ่าย  ฝีพระหัตถ์ ประจำปี 2567 ความว่า ก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้าน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เขาไม่ให้ไปไหน ให้ไปแต่โรงพยาบาล ซึ่งก็ได้ไปโรงพยาบาลแยะจริงๆ บังเอิญก็ป่วยเป็นโรคที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ได้ออกไปดูภูมิประเทศนอกบ้าน  พอใครๆ เขาก็เลิกเป็นโควิดกันกันแล้วตอนจบ ก็กลับเป็น ก็ให้ยาเป็นเวลาห้าวัน ได้เป็นโควิดกับเค้าเหมือนกัน ใครๆ บอกว่า  ส่วนตัวจะทำให้ภูมิคุ้มกันส่วนตัว  ส่วนคนเป็นก็รู้สึกว่าไม่ดี 

 


ภาพ “ตามหามาจองหรือไพ่นกกระจอก ที่สมเด็จย่าโปรดเล่นเป็นเกมอย่างหนึ่งที่ภาษาไทย เรียกว่า ไพ่นกกระจอก  มาจากเมืองจีน คริสต์ศตวรรษที่ 19 ร่วม 200 ปีมาแล้ว จีนเรียกว่า หมาเจี้ยน  ฝรั่งเรียกว่า มาจอง ตอนเด็กๆ เคยเห็นสมเด็จย่าเล่น  ตอนหลังไม่เห็นท่านเล่นแล้ว เมื่อดูแล้วก็ยังเล่นไม่เป็น  คุยกับครูจีนก็พยายามสอน อธิบายเท่าไหร่ไม่เข้าใจอยู่ดี  ตอนหลังท่านเล่นเปตอง เวลาเสด็จฯ ต่างจังหวัดได้เข้าเฝ้า เห็นท่านเล่นเปตองอยู่ ท่านก็ชวนเล่น เคยลองบ้าง ต้องโยนลูกกลมๆ ให้ลูกชนกับแท่ง ให้มันล้ม แต่เท่าที่ลองดูไม่โดนอะไรเลย   แสดงว่าไม่มีทักษะเรื่องความแม่นยำ  มาจองก็ไม่ได้ เปตองก็ไม่ได้ เป็นอันว่าไม่สำเร็จ

 

ภาพ อาหารเช้า  ปาท่องโก๋ไดโนเสาร์ ปาท่องโก๋พิเศษหน่อย เป็นปาท่องโก๋รูปไดโนเสาร์ เป็นอาหารเช้าตอนอยู่ที่เชียงใหม่  เราจะเห็นแบคกราวน์เป็นน้ำปลามาจากวังรื่นฤดีของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว แต่ยังมีพวกคุณข้าหลวงอยู่ ทำเป็นรายได้ น้ำปลาชนิดนี้หมอคงชอบ เพราะตอนนี้หมอดุเรื่องกินหวานๆแต่ไม่ดุมาก  ตอนนี้หมอมาดุเรื่องกลิ่นเค็ม กลัวเป็นโรคเกี่ยวกับโรคไต ช่วงนี้ต้องระวังสุขภาพ น้ำปลานี้ก็ดีมาก แต่แขกไปใครมา พวกผู้สูงอายุจะโกรธเอาน้ำปลาชนิดนี้มาให้ทาน หมอไม่ให้ทานเค็ม เค้าบอกว่ากินน้ำเปล่าซะยังจะดีกว่า ต้องใช้วิธีชวนให้รับประทานผลไม้ ตอนนี้เป็นน้ำปลาสุขภาพ โฆษณาให้เค้าเสร็จ

 


ภาพ เตรียมฮาโลวีน  ภาพนี้เป็นภาพเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ก็ยังใช้คุณคนนี้อยู่ แล้วก็มีฟักทองที่แกะสลัก ไปงานอะไรก่อนฮาโลวีนก็ต้องบอกว่า เดี๋ยวต้องรีบกลับแล้ว เพราะมีธุระสำคัญ แต่ไม่ได้บอกว่าธุระสำคัญอะไร สิ่งที่ต้องทำประจำก่อนวันฮาโลวีน ไม่ทำการทำงาน แกะฟักทองเป็นรูปผี มีดอกไม้ประดับเพื่อความสวยงาม

 


ภาพ ไข่ที่คิงชาร์ลส์ที่ 3 ทรงขาย มาจากไก่ป่าที่มีนักสัตวศาสตร์ ชื่อ Clarence Ellliott  มาจาก Patagonia มาผสมพันธุ์” เป็นไข่ที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีฟาร์ม มีไก่ ขายราคาแพงกว่าไข่ไก่ปกติ  ตามประวัติมีนักสัตวศาสตร์และสัตววิทยา จริงๆ  คือ นักสำรวจ ไปสำรวจดินแดงต่างๆ เอาไก่ป่ามาจากเมืองพาตาโกเนีย ปัจจุบันคือ อาร์เจนตินา  ยังไม่เคยไปตรงนี้สักที อยากไป  ตามประวัติได้อ่านปี 1928 เอามา 4 ตัว รวมถึงเอาสัตวประหลาดๆ ที่นั่น แล้วนำมาที่อังกฤษ ให้นักวิชาการขยายพันธุ์สัตว์ ทดลองผสมกับไก่พื้นเมืองของอังกฤษ จนกระทั่งเป็นพันธุ์ที่นิ่งและดี  ไข่ไก่ในกล่องมีทั้งหมด 4 ชนิด  8 ฟอง ไข่แดงจะแดงมากและมีคุณค่าทางอาหารมากมาย ในประวัติมีเรื่องเศร้า ระหว่างที่นำไก่มาประคบประหงมอย่างดี พ่อครัวไปเจอเข้าเอาตัวหนึ่งมาย่างเลยเหลือสามตัว ตอนนี้ต้องดูแลไม่ให้พ่อครัวมาเห็น ไก่พวกนี้ชื่อ Clarence Court ไข่เหลืองสวย รสชาติดี  นานกินที เพราะค่อนข้างแพง นักสำรวจพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์พวกนี้หน้าที่อีกอย่างเป็นสปายส่งไปเพื่อแย่งชิงดินแดนต่างๆ ตอนเด็กๆ ก็อยากเป็นนักสำรวจพวกนี้จริงๆ นะ เหมือนที่เขียนไว้ในคำนำหนังสือว่า แม่ถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ก็บอกว่า อยากจะเที่ยวรอบโลก เดินทางไปยังเมืองต่างๆ แม่บอกว่า เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ควรจะคิดว่าอยากจะทำประโยชน์ช่วยเหลือคนอื่น แต่จริงๆ คิดว่าเป็นการช่วยเหลือคนอื่นอยู่เหมือนกันดูหนังญี่ปุ่นเรื่องอัศวินม้าขาว เค้าก็ออกไปตามที่ต่างๆ เจอคนตกทุกข์ได้ยาก มีปัญหาก็ไปแก้ไข และเมื่อแก้ไขปัญหาก็ไม่หยุดอยู่ที่นั่น ก็ได้เดินทางต่อไปก็อยากจะเป็นแบบนั้น  แต่ว่าป่วยการจะเถียง ทรงพระสรวลแล้วรับสั่งต่อว่า ก็คงจะไม่เข้าท่าเหมือนกัน เพราะว่าเป็นหนังในทีวีสมัยก่อน แต่การเดินทางจะได้เห็นอะไรต่างๆ มากมาย

 


ภาพ “เต่าที่เตรียมถวายพระเจ้าอยู่หัววันเฉลิมพระชนมพรรษา อันนี้เป็นธรรมเนียมอยู่เหมือนกัน มีผู้ใหญ่ชื่อ คุณยายปุ่นเป็นคนเริ่ม เวลาวันประสูติ วันเฉลิม ต้องถวายเต่า จับเต่าไปถวายรัชกาลที่ 10 ให้ท่านเจิมเต่าและพรมน้ำมนต์  ปกติจะเป็นเต่าตัวเล็กๆ หลายตัว แต่เที่ยวนี้หาเต่าตัวเล็กๆ ไม่ได้ ได้เต่าตัวค่อนข้างโต 3 ตัว


ภาพ ปากพนัง ได้พาผู้ที่ได้รับรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลไปทัศนศึกษาที่ จ.นครศรีธรรมราช บริเวณที่สมัยก่อนเกิดเหตุการณ์แหลมตะลุมพุก ตอนที่เกิดเหตุยังเล็กๆ อยู่ แต่ที่จำได้ คือ ไปช่วยเขาบรรจุสิ่งของต่างๆ นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำได้ว่าครั้งแรกในชีวิตที่เห็นปลาเค็มมีหนอน ตื่นเต้นมาก แต่คนบอกว่าปลาเค็มมีหนอนดี ปลอดภัย ไม่ได้ฉีดยา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ปกติทรงดนตรี อ.ส. วันศุกร์ มีการขอเพลงได้ แล้วก็บริจาค แต่สงสัยว่าเป็นคนในวังเหมือนกัน บริจาคเพื่อร้อง แล้วอีกคนบริจาคเพื่อให้คนนั้นหยุดร้อง ก็ไม่ว่ากัน เพราะได้เงินตั้งเป็น 1,000,000 บาท เอาไปช่วยกลุ่มผู้ประสบภัยที่แหลมตะลุมพุก ผู้ประสบภัยบางคนกลายเป็นคนพิการนั่งรถเข็น เวลาไปใกล้ๆ แหลมตะลุมพุก จะมาเฝ้าฯ ทุกปี ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว

 


ภาพสุดท้ายทรงบรรยาย ดูขบวนเรือที่มูลนิธิชัยพัฒนา เมื่องานเสด็จพระกฐินที่วัดอรุณราชวราราม โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคได้ไปดูตอนซ้อมและวันจริงด้วย แต่ว่าไม่ได้ลงไปข้างล่าง  อยู่ที่ชัยพัฒนา ถ่ายรูปเรือต่างๆ จำไม่ค่อยได้เรืออะไรกันบ้าง ภาพนี้จะเป็นภาพเรือสุพรรณหงษ์ มีเรือลำหนึ่งมีการเล่นดนตรี เป็นข้าราชการกรมศิลปากรและทหารเรือ ถวายพระเกียรติยศ

 


ช่วงสุดท้ายเป็นตัวอักษรขึ้นจอว่า  เชิญถ่ายภาพตามสบาย แล้วมีรับสั่งว่า  ก่อนนี้ตามงานต่างๆ ที่มีรูปถ่าย เค้าจะบอกว่าห้ามถ่ายภาพ แต่งานเราไม่ชอบกดดัน ไม่ชอบทำให้เครียด ก็เลยเขียนว่า เชิญถ่ายภาพตามสบาย บางคนเค้ากลัวว่า จะมีคนไปถ่ายแล้วลงหนังสือแล้วบอกว่าตัวเองถ่าย แต่ก็ไม่เคยมีใครมาฟ้องว่า เอารูปภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ไปใช้ ก็ไม่เป็นไร ดีเสียอีก คนที่ไม่มีโอกาสมางานจะได้เห็นตามอินเตอร์เน็ต ได้ดูภาพเพื่อความเบิกบานร่าเริง

 


เชิญร่วมชื่นชมพระอัจฉริยะภาพด้านการถ่ายภาพในนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ปี 67ได้ออกนอกบ้าน! : Free at Last!”  ซึ่งเปิดโอกาสให้คนไทยร่วมตามรอยเสด็จฯ และชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพผ่าน 150 ภาพ ซึ่งโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทรงบันทึกไว้ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ  ในระหว่างปี 2567 เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการ แต่ละภาพที่นำมาจัดแสดง นอกจากเป็นภาพที่สวยงามทรงคุณค่าทางศิลปะการถ่ายภาพแล้ว ยังให้คนไทยได้มาชมภาพเสมือนการเล่าเรื่องผ่านภาพถ่ายของพระองค์ เปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่  16 มี.ค. 2568 (หยุดทุกวันจันทร์)   และมีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ได้ออกนอกบ้าน! : Free at Last!” เล่มละ 900 บาท    ห้องนิทรรศการ ชั้น 9  หอศิลป์กรุงเทพฯ และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย



กอบแก้ว แผนสท้าน..เรื่อง

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์