ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
กก.4.บก.ปทส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในจังหวัดลำปาง
เปิด ยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
หลังรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มทุนต่างพื้นที่ว่าจ้างคนไม่หวังดีเข้าไปแผ้วถางป่าในรูปแบบไร่ข้าวโพดแซมในป่าก่อนที่จะทยอยโค่นต้นไม้ภูเขาหายเป็นลูกๆหวังยึดครองพื้นที่และไม้หวงห้าม
ภายใต้การอำนวยการการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส.พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ท.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ประสานงาน นายประทีป ปัญญาบุตร ผอ.ศูนย์ป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ นายเจษฎา เอนกคณา หน.สายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง อำนวยการโดย นายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร่วมกันเข้าตรวจสอบหลังจากที่ได้การร้องเรียน ว่ามีกลุ่มนายทุน ว่าจ้างคนไม่หวังดีในพื้นที่ เข้าไปแผ้วถางป่า เพื่อปลูกข้าวโพดแซมในป่า แล้วทยอยตัดต้นไม้ขนาดเล็ก และกานต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ยืนต้นตายโดยไม่เกรงกลัวกกหมาย ทำให้ผืนป่าเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
เหตุเกิดที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางตอนขุน
ป่าเหนือหมู่บ้าน บ้านปงแท่นหมู่ 1 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์
ซึ่งการเข้าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างลำบากมีเส้นทางเข้าออกเส้นทางเดียวและต้องผ่านหมู่บ้านเท่านั้น
โดยมีชุดรถจักรยานยนต์ล้วงหน้าเข้าพื้นที่ไปก่อนแล้วขบวนรถยนต์เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างกระชั้นชิดเพื่อหวังที่จะรวบตัวการให้ได้
แต่เนื่องด้วยสภาพการเข้าถึงพื้นที่ทำให้กลุ่มที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงเพียงไม่กี่นาทีเพราะพบร่องรอยการเผาป่า
สร้างกระท่อมและยังมีของใช้หลงเหลือในกระท่อม โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทั้งหมด 4
แปลงโดยแต่ละแปลงพบว่ามีการตัดต้นไม้แผ้วถางและเผาพื้นที่กันบริเวณกว้างภูเขาหายไปลูกๆ
นอกจากนี้ยังพบว่าป่าใกล้เคียงถูกแผ้วถางโค้นล้มอีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางพบว่ามีทั้งหมด 91 ไร่
มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 6 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดดำเนินคดีทันทีพร้อมที่จะเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด
แต่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่เชิงเขาใกล้เคียง พบรถยนต์กระบะสีแดงป้ายทะเบียน
จังหวัดลำปาง จอดซุกอยู่ในแปลงที่ถูกตรวจยึด เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบ
สองสามีภรรยา กำลังเก็บผลผลิตข้าวโพด ซึ่งแปลงข้าวโพดอยู่อีกฝั่งกับแปลงที่ตรวจยึด
โดยทั้งสองคน ชายอายุ 63 ปี หญิงอายุ 58 ปี ชาวบ้าน ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ
จังหวัดลำปาง
ทั้ง 2 คนให้การว่า ได้เข้ามาทำไร่ข้าวโพดในพื้นที่แห่งนี้ได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณเกือบ 2 ไร่ ซึ่งหลังจากเสร็จทำนาแล้ววันนี้จึงเข้ามาเก็บผลผลิตข้าวโพดและก็มาเจอกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติฯ แต่ก็ได้เชิญตัวมาให้การ ที่ศูนย์ป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) เพื่อที่จะตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังและมาเปรียบเทียบในแปลงปัจจุบันเพื่อความเป็นธรรมแก่ ทั้ง 2 คน เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายกรณีให้เกษตรกรเข้าใช้พื้นที่ป่าได้ตามประกาศ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ(ฉบับที่ 4)ปี 2559 และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่าแปลงที่ปลูกข้าวโพดไม่ได้เข้าข่ายยกเว้น เพราะมีร่องรายทำกินเมื่อประมาณปี 2560 เป็นต้นมาซึ่งเป็นการกระทำผิดกฏหมาย จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
สำหรับผืนป่าแห่งนี้ถือว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเป็นป่าต้นน้ำมีไม้หวงห้ามไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ชาวบ้านที่รักษผืนป่าทนไม่ไหวที่กลุ่มทุนเข้ามาว่าจ้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้ามาแผ้วถางป่าแล้วเอาไม้ออกไปและยึดผืนป่าจนป่าเสียหายจำนวนมากหหากไม่มาดำเนินการใดๆป่าจะเสื่อมโทรมและจะส่งผลกระทบกับขาวบ้านในพื้นที่อีกจำนวนมาก
ซึ่งกลุ่มทุนนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อสาวให้ถึงตัวการต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น