เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 24 ม.ค.68 นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร จังหวัดลำปาง
มอบหมายให้ นายจตุรงค์ ไชยเชียงของ
ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศเมืองเขลางค์นคร พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ได้นำป้ายมาปิดประกาศบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ ชุมชนบ้านฟ่อน หมู่ 2 ต.ชมพู
อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ที่อยู่ติดริมแม่น้ำวัง
โดยพื้นที่ได้มีการฝังเสาปูนและนำรั้วลวดหนามมาล้อมรอบไว้
เป็นการครอบครองโดยผิดกฎหมาย ขณะเจ้าหน้าที่เทศบาลมาถึง มีชาวบ้านฟ่อนกว่า
100 คน มารวมตัวกัน หลังทราบข่าวจะมีการนำป้ายประกาศรื้อถอนมาติด
เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการเสร็จ
ชาวบ้านต่างพากันปรบมือแสดงความดีใจ
โดยประกาศดังกล่าว
เป็นประกาศเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เรื่อง ห้ามบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินอันเป็นสารณสมบัติของแผ่นดิน
(พื้นที่สาธารณประโยชน์บ้านฟ่อน)
โดยข้อความระบุว่า
ด้วยปรากฏว่ามีการบุกรุก
ยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้างเพิงพักและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ บริเวณที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
(พื้นที่สาธารณประโยชน์บ้านฟ่อน) ตำบลชมพู จังหวัดลำปาง ซึ่งการกระทำจะมีความผิดฐานเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ.2557 และข้อ 6 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแล รักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นที่สาธารถสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
พ.ศ.2553
จึงประกาศห้ามมิให้ผู้ใดบุกรุก
ยึดถือ ครอบครองที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (พื้นที่สาธารณประโยชน์บ้านฟ่อน)
โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งให้รื้อถอนเพิงพักและสิ่งปลูกสร้างใด ๆ
ออกจากพื้นที่ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่รับประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
หากมีผู้ผ้าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม 2568
ลงนามโดย นายจำเปียร พรหมเพชร รองนายกเทศมนตรี ปฏิบัติราชการแทน นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร
นายจตุรงค์
ไชยเชียงของ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า
ทางเทศบาลเมืองเขลางค์นครได้รับการร้องเรียนจากชุมชนบ้านฟ่อนว่ามีบุคคลได้บุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์และยื่นคำร้องไปที่เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ในฐานะที่ปรึกษานายกฯ นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง
ได้มาติดตามและมาเจรจาให้บุคคลดังกล่าวรื้อถอนเสาล้อมลวดหนามพื้นที่สาธารณประโยชน์ออกไป แต่บุคคลดังกล่าวไม่ยอมจะขอใช้สิทธิ์ทางกฏหมาย
ทางเทศบาลตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะชาวบ้านใช้ประโยชน์มานานหลายสิบปี
แต่พบว่ามีการล้อมรั้วลวดหนาม วันนี้เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
จึงนำใบประกาศมาติดให้รื้อถอนภายใน 30 วัน หากยังไม่มีการรื้อถอนหรือดำเนินการใดๆ ทางเทศบาลต้องดำเนินคดีตามกฏหมาย
นายสมนึก
เตชะสาย อายุ 69 ปี ชาวบ้านฟ่อน
เปิดเผยว่า พื้นที่ตรงนี้มีประมาณ 3 ไร่เศษ
เป็นที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์มานาน แต่มีบุคคลมาล้อมรั้วลวดหนาม
ทำให้ชาวบ้านร้องเรียนไปที่เทศเมืองเขลางค์นครัก่อนจะมีเจ้าหน้าที่นำป้ายติดให้รื้อถอนดังกล่าว
ส่วนบุคคลที่ถูกกล่าวหา ทราบว่าไม่ใช่คนพื้นเพบ้านฟ่อน แต่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงมานานหลายสิบปีแล้ว โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศักพ์ ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น