พบนายทุนว่าจ้างชาวบ้านนำรถขุดเจาะลักลอบขุดแร่พลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต อ้างมีเอกสารสิทธิ์ แต่ตรวจสอบพบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แถมตัดไม้หวงห้าม โดนไปหลายคดี
ภายใต้การอำนวยการของ นายจิระ ทรงพุฒิผู้อำนวยการสำนักฯ ,นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.17(แม่มอกตอนขุน) ประสานงาน นายปิยะวุฒิ พิทักษ์บริบาล นายอำเภอแม่พริก ส่งกำลังปลัดอำเภอ และ อส.แม่พริก พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. ร.ต.ท.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ประสานงาน นายประทีป ปัญญาบุตร ผอ.ศูนย์ป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ นายเจษฎา เอนกคณา หน.สายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) นำกำลังเข้าตรวจสอบการลักลอบขุดดิน เจาะดิน และตัดไม้หวงห้ามเหตุเกิดที่ ป่าห้วยหลวง ท้องที่บ้านปางอ้า หมู่ที่ 4 ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง
เบื้องต้นไปถึงที่เกิดเหตุ พบพื้นที่ถูกขุดเจาะบริเวณกว้าง มีการนำแร่พลวงที่ขุดได้ในกระสอบเตรียมขนย้ายออกนอกพื้นที่ พบแบ็คโฮ 2 คัน รถยนต์กระบะดัดแปลงเป็นรถเจาะ รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกระท่อม 1 หลัง พบชาย 2 คน ในที่เกิดเหตุ คือ นายเคลือบ อายุ 70 ปี และนายเจริญ อายุ 50 ปี (ขอสงวนนามสกุล) ทั้ง 2 คนเป็นชาวบ้าน ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง ส่วนผู้ร่วมขบวนการหลบหนีไปได้จำนวนหนึ่ง
โดยทั้งสองอ้างว่า ที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง เอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 2384 เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นำมาแสดงเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่มอก ถูกบุกรุกแผ้วถาง จำนวน 1 แปลง รวมพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 8-0-67 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐพึงได้รับเป็นเงิน 557,384 บาท พบไม้หวงห้าม(ไม้สัก) ถูกตัดจำนวน 26 ท่อน ปริมาตร 1.53 ลบ.ม.คิดค่าเสียหายของรัฐพึงได้เป็นเงิน 91,800 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.เวียงมอก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ทันที
ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจับกุมได้รับร้องเรียนจากผู้ประสงค์ดี (ขอปิดนาม) ว่าได้มีกลุ่มนายทุนต่างชาติ ได้ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่มอก ป่าห้วยหลวง ท้องที่บ้านปางอ้า หมู่ที่ 4 ต.เวียงมอก อ.เถิน จว.ลำปาง เพื่อขุดเอาหิน ซึ่งเป็นลักษณะ แร่พลวง จึงร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบว่าเป็นจริงตามที่รับแจ้งจึงดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ พบว่าช่วงนี้ทางทุนจีนเทาได้เข้ามาลงทุนในลักษณะผิดกฎหมายหลายรูปแบบ แต่ยังไม่สามารถสืบสวนตามจับกุมตัวนายทุนต่างชาติรายนี้ได้สักที
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น