สถานเอกอัครราชทูตไทยในสิงคโปร์ จัดใหญ่ ใช้ซอฟท์พาวเวอร์ 5F ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี

ในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์ ในปี 2568 สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ โดย นางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ จัดงานเฉลิมฉลอง ด้วยสองกิจกรรม ได้แก่ งานเฉลิมฉลอง 60 ปี แห่งการเดินทางร่วมกันของไทยและสิงคโปร์ "Celebrating  60 Years Shared Journey of Thailand and Singapore" ณ สถานเอกอัครราชทูต และ นิทรรศการกล้วยไม้ไทย "Orchids from the Land of Smiles" ณ Gardens by the Bay  ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเปิดตัว (Kick-Off) ของการเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี 2568 โดยงานดังกล่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญ ภาคธุรกิจ และประชาชนจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง  

โดยภายในงาน นางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ได้นำการ SOFT POWER 5F เสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย  ได้แก่  F – FIGHTING ศิลปะการต่อสู้มวยไทย  F – FOOD อาหารไทย ​F – FILM ภาพยนตร์  ​F – FASHION แฟชั่นผ้าไทย  ​F – FESTIVAL เทศกาลประเพณีไทย  ที่ทำให้ทุกคนได้เปิดรับวัฒนธรรมไทยนำไปสู่การเดินทางไปท่องเที่ยวหรือดึงดูดให้ซื้อสินค้าและบริการของไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง นักธุรกิจ และประชาชนชาวไทยในสิงคโปร์เป็นอย่างมาก

เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ กล่าวในงาน เฉลิมฉลอง 60 ปี แห่งการเดินทางร่วมกันของไทยและสิงคโปร์ "Celebrating 60 Years Shared Journey of Thailand and Singapore" ณ สถานเอกอัครราชทูตฯ  ถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งของไทยและสิงคโปร์ในทุกมิติ “แม้ความสัมพันธ์ทางการทูตของเราจะมีอายุเพียง 60 ปี แต่สายสัมพันธ์ของไทยและสิงคโปร์ยาวนานกว่านั้นมาก และทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม หรือระหว่างประชาชนกับประชาชน

“ประเทศไทยและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี พ.ศ. 2508 แต่เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์จะพบว่ารากฐานความสัมพันธ์ไทยและสิงคโปร์ เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายตัน กิม เจ็ง ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน เป็นกงสุลใหญ่คนแรกของไทยประจำสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2406 และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสิงคโปร์ พร้อมพระราชทานช้างสำริดให้กับสิงคโปร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสิงคโปร์เป็นครั้งแรก และทรงซื้อที่ดิน พร้อมอาคาร Hurricane House โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้สืบทอดมาเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในปัจจุบัน” เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ กล่าว

โอกาสนี้ นายลอย ฮุย เซียน อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ในฐานะแขกเกียรติยศ กล่าวว่า ไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ให้การรับรองเอกราชของสิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2508  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ และต่อมาทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ในปี พ.ศ. 2510 ภายใต้ปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ที่พระราชวังสราญรมย์ กรุงเทพฯ  ในปฏิญญาดังกล่าว ประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน รวมถึงไทยและสิงคโปร์ ได้ให้คำมั่นว่า "จะร่วมกันสร้างมิตรภาพและความร่วมมือ" และ "เสริมสร้างสันติภาพ เสรีภาพ และความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนและคนรุ่นหลัง" ความร่วมมือนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยผลักดันให้อาเซียนเติบโตจนกลายเป็นประชาคมที่เข้มแข็งในปัจจุบัน  ซึ่งในวันนี้ไทยและสิงคโปร์มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและดิจิทัลที่แน่นแฟ้น อาทิ โครงการ PromptPay-PayNow ซึ่งเป็นระบบชำระเงินข้ามพรมแดนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้งสองประเทศ และเป็นโครงการต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค  

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงาน คือการแสดงหุ่นละครเล็กจากโรงละครอักษรา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การแสดงอันวิจิตรตระการตานี้ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าผ่านศิลปะการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย  "Orchids from the Land of Smiles" เปิดฉากการเฉลิมฉลอง 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งมิตรภาพและวัฒนธรรม

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ได้ร่วมมือกับ Gardens by the Bay จัดนิทรรศการดอกไม้ "Orchids from the Land of Smiles" ณCloud Forest ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ โดยมีนางอินดรานี ราชา (Ms. Indranee Thurai Rajah) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนที่สองของกระทรวงการคลังและกระทรวงการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์เป็นแขกเกียรติยศ  

เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ กล่าวในพิธีเปิดงานว่า นิทรรศการนี้ไม่เพียงเป็นการจัดแสดงความงามของกล้วยไม้ไทย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสิงคโปร์ ซึ่งหยั่งรากลึกและเติบโตอย่างมั่นคงตลอดหกทศวรรษ อีกทั้ง กล้วยไม้ ยังเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและสิงคโปร์และเป็นตัวแทนของความงาม ความแข็งแกร่ง และความสง่างาม ซึ่งสะท้อนถึงสายสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

นิทรรศการนี้จัดแสดงกล้วยไม้ไทยกว่า 60 สายพันธุ์ รวมถึงกล้วยไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย อาทิ Rhyncholaeliocattleya หรือที่เรียกชื่อสามัญว่า “Amazing Thailand” ซึ่งภายในงาน เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ฯ และ รัฐมนตรีอินดรานีฯ ได้ร่วมกันปลูกกล้วยไม้สายพันธุ์ Paphiopedilum exul ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบได้เฉพาะบริเวณชายฝั่งตะวันออกของอ่าวภูเก็ตและกระบี่ในภาคใต้ของประเทศไทยเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงงานของช่างฝีมือไทย ถ่ายทอดเป็นสถาปัตยกรรมและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย อาทิ ช้างเผือกทรงคชาภรณ์ และพญานาคเจ็ดเศียร โดยมีฉากหลังเป็นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกของพระบรมมหาราชวัง ที่น่าสนใจคือพระบรมมหาราชวังนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษผู้ประจำอยู่ที่สิงคโปร์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสิงคโปร์ของพระองค์ในปี พ.ศ. 2414 โดยนิทรรศการ "Orchids from the Land of Smiles" จะจัดแสดงต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568  

อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ กล่าวว่า งานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์ มิใช่เพียงการย้อนรำลึกถึงอดีตอันยาวนาน แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการร่วมกันวางรากฐานสู่อนาคตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ มีกำหนดจัดกิจกรรมสำคัญตลอดทั้งปีนี้ รวมถึงงานเสวนาวิชาการ "Thailand and Singapore @60: Echoing the Past, Envisioning the Future" ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2568 และนิทรรศการเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกันยายน 2568 

“แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสิงคโปร์จะได้รับการขับเคลื่อนจากความร่วมมือในระดับภาครัฐ แต่สิ่งที่ทำให้สายสัมพันธ์นี้แข็งแกร่งและยั่งยืนคือมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศซึ่งเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีชาวสิงคโปร์เดินทางเยือนไทยมากกว่า 1 ล้านคน ขณะเดียวกัน คนไทยจำนวนมากก็เลือกสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในการท่องเที่ยว ศึกษาต่อ และทำงาน นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เช่น เทศกาลไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ กล่าว

ท้ายสุด เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ เจริญโต  ย้ำว่า 60 ปีที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางของไทยและสิงคโปร์ ด้วยพื้นฐานของความร่วมมือที่แข็งแกร่ง ไทยและสิงคโปร์พร้อมที่จะก้าวไปสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม พลังงานสีเขียว และการพัฒนาอย่างยั่งยืน  จึงมั่นใจว่า เราจะยังคงมุ่งมั่นสานต่อความร่วมมือ แสวงหาโอกาสใหม่ๆ และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มิตรภาพที่หยั่งรากลึกของไทยและสิงคโปร์จะยังคงเติบโตเหมือนต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดีและพร้อมที่จะออกดอกออกผล เพื่อประชาชนของทั้งสองประเทศและคนรุ่นต่อไป