กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น, พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์, พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ หาญสันเทียะ ว่าที่ พ.ต.ต.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุม นายอนุสรณ์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ม.9 ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา โดยกล่าวหาว่า
1.ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ.2515มาตรา 4
2. เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560
3. ใช้บัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มของผู้อื่นเพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
4. ทิ้งหรือแจกใบปลิว/นามบัตรในที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
5. มีไว้ในครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ.2561 (ห้ามนำเข้าและมีไว้ในครอบครอง) พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242, 244
สืบเนื่องจาก วันที่ 21 มี.ค.68 เวลาประมาณ 06.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง ที่ ค 29/2568 ลงวันที่ 20 มี.ค.2568 ทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ม.3 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น มาถึงบ้าน พบชายไทยแสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง ทราบชื่อภายหลังคือนายอนุสรณ์ จากการสอบถามนายอนุสรณ์ฯ ให้การว่า ตนได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการเรียกดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้ ในอัตราร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยให้ลูกค้ากู้ยืมเงินจำนวน 5,000 บาท มีกำหนดชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นคืนภายใน 24 วัน และต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยวันละ 250 บาท จนกว่าจะครบวันที่กำหนด หากผู้กู้เงินผิดนัดชำระจะมีการทวงหนี้โดยวิธีการข่มขู่ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย
ผลการตรวจค้นพบ นามบัตรเงินกู้นอกระบ กว่า 80 ใบ, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ระบุยอดเงินหมุนเวียนกว่า 77 ล้านบาท สมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม หลายรายการเป็นชื่อบุคคลอื่น ตรวจพบภาพและแชทการทำร้ายลูกหนี้จากโทรศัพท์มือถือและพบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง หัวพอต และอุปกรณ์อื่นกว่า 30 รายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจึงนำตัว นายอนุสรณ์ มาทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง
จากการสอบถาม นายอนุสรณ์ ให้การว่ากระทำความผิดจริง รับว่าเคยทำงานอยู่กับเว็บไซต์พนันออนไลน์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเมื่อ 2 ปีก่อน และได้นำเทคนิคการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางการเงิน เช่น การใช้บัญชีผู้อื่น บัตรเอทีเอ็ม มาปรับใช้กับธุรกิจเงินกู้นอกระบบที่ตนดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นได้นำตัว นายอนุสรณ์ส่งให้ พงส.สภ.เขลางค์นครดำเนินคดีต่อไป
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุม นายธเนศ อายุ 36 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 13 ต.ต้นธงชัย อ.มืองลำปาง จ.ลำปาง โดยกล่าวหาว่า ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่58 พ.ศ. 2515 มาตรา 4 ได้ที่บ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง ที่ ค 28/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ขณะเข้าทำการตรวจค้น พบนายธเนศ สังข์ทรัพย์ อยู่ภายในบ้าน โดยแสดงตนเป็นผู้ครอบครองและให้ความร่วมมือในการตรวจค้น จากการสอบถามเบื้องต้น นายธเนศให้การว่า ตนได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเงินกู้นอกระบบ โดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 20 ต่อระยะเวลา 24 วัน เช่น กู้เงิน 10,000 บาท จะต้องชำระคืนเป็นรายวันวันละ 500 บาท รวมยอดชำระทั้งสิ้น 12,000 บาท ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 304 ต่อปี
ผลการตรวจค้น พบของกลาง ดังนี้ นามบัตรโฆษณาเงินกู้นอกระบบ จำนวน 34 ใบ (โปรยตามร้านค้า/บ้านเรือน) สมุดบัญชีธนาคาร + บัตรเอทีเอ็ม มากกว่า 1 รายการ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง (ซึ่งมีข้อมูลการพูดคุยเรื่องเงินกู้) คอมพิวเตอร์แบบพกพา (Laptop) จำนวน 1 เครื่อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายธเนศ สังข์ทรัพย์ พร้อมของกลาง มาทำบันทึกการจับกุม ที่ สภ.ทุ่งฝาย อ.เมืองลำปาง และส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนเป็นผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบจริง โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย และเป็นผู้โปรยใบปลิวโฆษณาด้วยตนเอง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น