วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้ายึดพื้นที่ป่าคืน 24 ไร่เศษ พบตาวัย 67 ปี อ้างได้รับตกทอดจากญาติที่เสียชีวิต แต่ไม่มีเอกสารแสดง ตรวจพิกัดพบอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน

 


เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง พร้อมด้วยส่วนที่เกี่ยวข้องนำหมายศาลไปตรวจค้นตรวจสอบจุดที่ได้รับการร้องเรียนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติฯในพื้นที่ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง พบชายวัย 67 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่อ้างรับกรรมสิทธิ์จากญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครอง พบรุกป่าจริงเจ้าหน้าที่คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ภายใต้การอำนวยการของ นายจิระ  ทรงพุฒิผู้อำนวยการสำนักฯ ,นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าฯสั่งการให้ นายสหรัฐ  แก้วมุกดา ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.4 (แม่เสริม) ประสาน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ลำปาง 3 เจ้าหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ประสานงาน ตำรวจ กก.4 บก. ปทส.(จว.ลำปาง) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัตน์  เอกกุล   สว.กก.4 บก.ปทส.ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการ/หน่วยปฏิบัติการ ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม  จว.ลำปาง นำโดย ร.ต.ท.วสุอนันต์ สารีพันธ์  ตำแหน่ง รอง สว. (ป) กก.4 บก. ปทส.(จว.ลำปาง) หัวหน้าชุด สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเสริมงาม พร้อมด้วยสารวัตรกำนันตำบลเสริมงาม และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

นำหมายศาลของจังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบแปลงบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯในพื้นที่เขตป่า ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เสริม เมื่อไปถึงได้พบชายวัย 67 ปี ทราบชื่อต่อมาคือนายแก้วมา (ขอสงวนนามสกุลและที่อยู่) ชาวบ้านพื้นที่ ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม แห่งนี้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากพื้นที่แปลงดังกล่าวที่มีรั้วรอบขอบชิดอย่างแน่นหนา และแสดงตนว่าเป็นเจ้าของแปลงพื้นที่ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและแสดงหมายค้นของศาลจังหวัดลำปาง เพื่อเข้าตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆในสิทธิ์ครอบครองที่ดินผืนนี้ แต่ทางนายแก้วมา ไม่มีเอกสารมาแสดง อ้างว่าได้รับสิทธิ์สืบทอดให้ดูแลมาจากญาติที่เสียชีวิต เพื่อที่ทำการเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ ก่อนที่จะนำพาไปตรวจสอบพื้นที่และชี้จุดต่างๆ

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเหตุเกิดป่าห้วนสันหนองห้า ท้องที่บ้านเหล่ายาว  หมู่ที่ 4 ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง เบื้องต้นตรวจสอบแล้วมีสิ่งปลูกสร้างถาวร เป็นบ้านพัก 1 หลัง คอกเลี้ยงสัตว์  1 หลัง ยุ้งฉาง โรงจอดรถและอื่นๆ พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นที่ราบสลับเนินเขา ด้านทิศเหนือมีร่องรอยการใช้เครื่องจักรกลไถปรับพื้นที่ ด้านทิศตะวันออกติดกับลำห้วยธรรมชาติ ด้านทิศใต้ติดเส้นทางสัญจรเข้าป่า โดยมีประตูโลหะแบบตาข่ายลักษณะเป็นสองบานปิด/เปิดเข้าหากัน ด้านทิศตะวันตกติดป่าธรรมชาติ โดยมีแนวรั้วเสาทำด้วยไม้ ขึงด้วยลวดหนามตามแนวขวาง จำนวน 4 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันใช้เครื่องมือระบบกำหนดตำแหน่งบนผิวโลก (GNSS) โดยสัญญาณผ่านดาวเทียม ในระบบพิกัดกริด (UTM)  ระบบ WGS 1984 ตรวจวัดค่าพิกัดโดยรอบแปลง ได้ค่าพิกัดจำนวน 22 จุด

เมื่อนำไปตรวจสอบกับแผนที่และแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ปรากฏว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เสริม บริเวณดังกล่าวยังไม่ได้เพิกถอนสภาพพื้นที่จากการเป็นป่าสงวนแห่งชาติ และไม่มีผู้ใดขอเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่แปลงดังกล่าวอยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ไม่อยู่ในโครงการฯ คทช. ตามมติ คณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2541 และไม่อยู่ในกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ทุกประเภท ตามมติ คณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 พบพื้นที่ถูกบุกรุก รวมเนื้อที่ จำนวน 24 – 1 – 94 ไร่ คิดค่าเสียหายที่รัฐประมาณ 1.6 ล้านบาทเศษ





Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์