วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

วิศวกรหนุ่มแม่เมาะ ปั้น"สวนลุงสิงห์"สู่โมเดลธุรกิจยั่งยืน ด้วย"ฮิวมิค"นวัตกรรมจากเหมืองแม่เมาะ

 

สวนลุงสิงห์ผลลัพธ์ของความกล้าหาญในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของ นายสิงหราช จันทร์ยอด อดีตมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิด เพื่อเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในวงการเกษตร แม้ไร้พื้นฐานมาก่อน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและสายตาอันเฉียบคม ในการมองเห็นโอกาสในตลาดเมล่อนและได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ให้เนรมิตพื้นที่เล็กๆ ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ บ้านใหม่นาแขม เป็นฟาร์มเมล่อนที่วันนี้ลูกค้าต้องจองผลผลิตล่วงหน้าเป็นเดือน

  • เริ่มจากศูนย์ สู่ฟาร์มคุณภาพ

สิงห์ สิงหราช จันทร์ยอด วิศวกรหนุ่มที่จบปริญญาตรีวิศวกรรมระบบ เครื่องมือวัด และปริญญาโท ฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ มาหลายปี สิงห์ รู้สึกเบื่อหน่ายกับวงจรชีวิตแบบเดิม ๆ จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปางเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

วิศวกรหนุ่ม ผันตัวมาเป็นเกษตรกรทำฟาร์มเมล่อนที่อำเภอแม่เมาะ แม้จะไม่มีความรู้ด้านการเกษตรมาก่อน โชคดีที่คุณแม่ของสิงห์เป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในศูนย์การเรียนรู้อันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านใหม่นาแขม หมู่ 7 ตำบลแม่เมาะ จังหวะที่พอดีคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้เข้ามาอบรมการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แก่สมาชิก ทำให้ สิงห์ คว้าโอกาสนี้ไว้ และก้าวเข้าสู่วงการเกษตรอย่างเต็มตัวในปี 2561 และได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่ ม.ราชมงคลล้านนา  ขณะนั้นอาจารย์ได้ให้ลองชิมเมล่อน ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานความหวานและรสชาติที่เขาตั้งเป้าหมายว่า “สวนลุงสิงห์” ของเขาจะต้องปลูกเมล่อนแบบนี้ให้ได้!!

  • เบื้องหลังเมล่อนหอมหวานฉ่ำ คือความอดทนและเรียนรู้

เส้นทางเกษตรกรที่เริ่มจากการปลูกเมล่อนของ สิงห์ ไม่ได้ราบเรียบตามที่คิดไว้ ในปีแรกๆเขาเจออุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องโรคแมลง การประสบปัญหาเรื่องฤดูกาล ที่ทำให้เมล่อนไม่ได้ผลผลิตดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว  สภาพอากาศที่ลำปางเปลี่ยนแปลงกะทันหัน จากอากาศที่หนาวจัดในช่วงเช้า และร้อนในช่วงกลางวัน ทำให้ผลเมล่อนแตกออก เกือบทั้งโรงเรือน สิงห์ จึงต้องหาทางแก้ปัญหาโดยการปรึกษากับอาจารย์มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา จนสามารถปรับและปลูกเมล่อนได้

นอกจากเรื่องการดูแลสวนแล้ว สิงห์ ยังเป็นพนักงานเพียงคนเดียวของ สวนลุงสิงห์ ที่ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างด้วยตนเอง ตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว การขาย การรับออเดอร์  การแพ็คสินค้า และการส่งของ ทำให้ในช่วงแรกของการทำสวนเมล่อน ทุลักทุเลพอสมควร  กระทั่งช่วง3ปีหลังจึงได้น้องชายเข้ามาช่วยเหลือ จึงแบ่งเบาภาระลงไปได้บ้าง


  • ฮิวมิค เคล็ดลับความหวานฉ่ำจากเหมืองแม่เมาะ นวัตกรรมเพื่อการเกษตร

ผลผลิตของสวนลุงสิงห์ไม่ได้เกิดจากความมุ่งมั่น และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังมี “ฮิวมิค” ซึ่งเป็นสารปรับปรุงดินคุณภาพสูงเข้ามาเป็น “พระเอก” เสริมให้ผลผลิตดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หลังจากสวนลุงสิงห์ปลูกเมล่อนเข้าปีที่ 5 ในปี 2565 สิงห์ ได้รู้จักพี่ฉลองและพี่สตางค์ จากแผนกปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพเหมืองแม่เมาะ เข้ามาติดต่ออยากให้ทดลองนำฮิวมิคไปใช้ในการบำรุงดินสำหรับปลูกเมล่อน จำนวน 40 ต้น  แบ่งพื้นที่ปลูกเมล่อนเป็นสองโซนเพื่อเทียบผลผลิตที่ได้  พันธุ์ที่ปลูกคือ พอท ออเรนจ์ (Pot Orange) มาดาม ออเรนจ์ (Madame Orange)  ฮาร์มี่ (Harmi) และกรีนเน็ต (Green Net) เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับอากาศของเมืองไทย ทนต่อโรคพืชได้ดี ทำความหวานได้ง่าย และหวานกว่าสายพันธุ์อื่น

พบว่าเมล่อนที่ใช้ฮิวมิคมีได้ผลผลิตที่ดีกว่าอย่างชัดเจน จากเดิมมีน้ำหนักเฉลี่ย 1.5 กก. เพิ่มเป็น 2-2.4 กก.  ความหวานเพิ่มจาก 15 บริกซ์ เป็น 17 บริกซ์  สามารถลดการใช้ปุ๋ยลงได้ถึง 20%   และเพิ่มคุณภาพโดยรวมของผลผลิตโดยไม่ต้องเพิ่มราคาขายต่อกิโลกรัม

ฮิวมิคจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ


  • รายได้มั่นคง ลูกค้าจองล่วงหน้า

ตอนนี้สวนลุงสิงห์ ประกอบด้วยโรงเรือน 2 หลัง ซึ่งในแต่ละครอปการปลูกใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ให้ผลผลิตประมาณ 100-130 ผลต่อแปลง  สร้างรายได้ต่อครอปการปลูกประมาณ  20,000 – 25,000 บาท ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ราว 10,000 บาท สร้างผลกำไร 15,000 บาท สามารถทำได้ถึง 8 ครอปต่อปี  นั่นหมายถึงสวนลุงสิงห์สามารถสร้างรายได้จากการปลูกเมล่อนประมาณ 120,000 บาทต่อปี

ราคาขายเมล่อน อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 120 บาท ขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก สวนลุงสิงห์  โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดกลาง ลูกค้าส่วนใหญ่รู้จักกันผ่านการบอกต่อ และมีความต้องการสูงถึงขั้นต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับสินค้า

นอกจากนั้น กฟผ.แม่เมาะยังเป็นตลาดใหญ่ที่คอยช่วยซัพพอร์ต “สวนลุงสิงห์” มาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเมล่อนจากสวนลุงสิงห์  ร่วมวางจำหน่ายในงานกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ อ.แม่เมาะ และ เมล่อน ยังเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ ในการเสิร์ฟเป็นอาหารว่าง ให้กับแขกผู้ใหญ่ ที่เข้ามาร่วมประชุม หรือดูงานที่ กฟผ.แม่เมาะอยู่เป็นประจำ  ซึ่งต่างได้รับคำชื่นชมว่า เมล่อนมีรสชาติดี หอม หวาน กรอบ อร่อย

  • ขยายสู่การปลูกองุ่น ไชน์มัสแคท

 ความสำเร็จของสวนลุงสิงห์ไม่ได้หยุดอยู่แค่เมล่อน เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา สิงห์ ยังได้นำฮิวมิคไปทดลองปลูกองุ่นเขียวไชน์มัสแคท และองุ่นดำอิสราเอลเออร์ลี่ อะดอร่า (Early Adora) ผลผลิตที่ได้มีความหวานฉ่ำที่สูงถึง 15-16 บริกซ์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของฮิวมิคที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพืชได้หลากหลายชนิด

 

  • กฟผ.แม่เมาะ หนุนใช้ “ฮิวมิค” สู่เกษตรยั่งยืน

นายสตางค์ หัสนันท์ วิทยากรระดับ 7 แผนกปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพเหมือง กฟผ.แม่เมาะ ได้เล่าถึงการนำฮิวมิคมาใช้ในการเกษตร เริ่มจากการทำวิจัยในปี พ.ศ. 2563-2564 ร่วมกับภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยแม่โจ้  มีการพัฒนาสูตรจากปุ๋ยอินทรีย์พรีเมียมเกรด ทาง นายประจวบ ดอนคำมูล ผู้บริหารของเหมืองแม่เมาะในขณะนั้น  แนะนำให้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ “ฮิวมิค” เพราะหลายประเทศชั้นนำ เช่น แคนนาดา สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ก็ใช้กันอยู่  จึงมีการนำ “ฮิวมิค” มาใช้กับพืชต้นแบบ คือเมล่อน เนื่องจากเห็นผลเร็ว เป็นที่ต้องการของตลาด และมีมูลค่าสูง

ในปี 2565 จึงร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่ สวนลุงสิงห์เพื่อทดลองใช้สารฮิวมิคกับเมล่อน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจน ทั้งขนาดผลผลิต ความหวาน เนื่องจาก “ฮิวมิค” ได้เข้าไปส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยให้ดียิ่งขึ้น คือ ใช้ปุ๋ยเพียงเล็กน้อยแต่คุณภาพเทียบเท่ากับการใช้ปุ๋ยปกติ ที่สำคัญคือต้นทุนการปลูกลดลง” 

เมื่อผลการทดลองเป็นที่น่าพอใจ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากเกษตรกรที่นำไปใช้  จึงขยายผลผ่านทางสถาบันการศึกษา  นำไปใช้กับพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ เช่น ทุเรียน ข้าวโพด มันสำปะหลัง พืชสวน ไม้ประดับ และไม้ล้อม ที่มีมูลค่าสูง เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตร

  • เล็งขยายกำลังการผลิต ฮิวมิคสู่ท้องตลาด

ปัจจุบันมีการขยายกำลังการผลิตฮิวมิค เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ 1 ล้านลิตรต่อปี และมีแผนจะขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า มีการจำหน่ายแบบผู้ซื้อมารับเอง ในราคาส่ง 1,000  ลิตร พร้อมภาชนะบรรจุ อยู่ที่ 45,000 บาท เท่ากับลิตรละ 45 บาท  และขายปลีก เริ่มต้นที่ลิตรละ ราคา 120 บาท ผ่านทางสหกรณ์ร้านค้า กฟผ.แม่เมาะ  หรือจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทางเพจ สหกรณ์ร้านค้า กฟผ.แม่เมาะ รวมถึง Shopee และ Lazada ด้วย สตางค์ กล่าว

การใช้ฮิวมิคไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพและผลผลิต แต่ยังช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างความยั่งยืนทางการเกษตร และเป็นแรงบันดาลใจให้เกษตรกรรายอื่นๆ นำไปประยุกต์ใช้

ความสำเร็จของ สิงห์ เจ้าของ “สวนลุงสิงห์” ทำให้เห็นว่าการเกษตรสมัยใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนสูงหรือซับซ้อน หากมีความรู้ที่ถูกต้อง การทดลองที่เป็นระบบ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถสร้างธุรกิจการเกษตรให้ประสบความสำเร็จได้

สวนลุงสิงห์จึงเป็นมากกว่าฟาร์ม แต่คือแรงบันดาลใจของการพัฒนาเกษตรกรรมเชิงคุณภาพ ที่ผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และพลังความร่วมมือจากชุมชนและภาครัฐได้อย่างลงตัว

          สนใจอยากชิมเมล่อนและองุ่นหวานฉ่ำจาก “สวนลุงสิงห์” หรือต้องการศึกษาเรียนรู้แนวคิดการทำเกษตรสมัยใหม่ สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Facebook สวนลุงสิงห์ หรือเบอร์โทรศัพท์ 095-428-7914 


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์