นับเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดลำปาง
เมื่อ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ
หอการค้าจังหวัดลำปาง ได้ผนึกกำลัง ศึกษาและจัดตั้ง องค์กรนิติบุคคล
เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับผลกระทบจากการที่เหมืองถ่านหินแม่เมาะ
ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 17% ของจังหวัด และถ่านหินจะหมดลงตามแผนในปี
2585
จากปัญหาสู่ความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่
โปรเจคนี้เกิดจากความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดลำปางที่เติบโตช้า และถ่านหินเหมืองแม่เมาะกำลังจะหมดลงภายในปี
2585 รวมถึงปัญหาทางสังคม เช่น จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลง นักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีงานทำ
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้มีการหารือกันมานานกว่า
5 ปี ระหว่าง ภาครัฐจังหวัดลำปาง กฟผ.แม่เมาะ หอการค้าลำปาง
3 หน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในโปรเจคนี้ ประกอบด้วย อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ผู้มีความตั้งใจที่จะสร้างกลไกขับเคลื่อนระบบทางเศรษฐกิจใหม่ เพื่อทดแทนผลกระทบที่เกิดจากการลดกำลังการผลิตไฟฟ้าลง และ หอการค้าจังหวัดลำปาง ตัวแทนภาคเอกชน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น "ตัวกลาง" ในการเชื่อมโยงองค์กรใหม่นี้เข้ากับทุกภาคส่วนในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภาคอุดมศึกษา รวมถึงภาคประชาสังคม เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
ความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วน
สู่กลไกขับเคลื่อนที่ยั่งยืน
ผศ.ดร.เกษมศักดิ์
อุทัยชนะ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กล่าวว่า องค์กรใหม่นี้จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการประสานงานกับทุกภาคส่วน
เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลำปางให้น่าดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ทำให้เกิดการสร้างงาน
และดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาทำงานในลำปาง
นอกจากนี้ยังจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ลงทุน (Holding) โดยจะลงทุนในบริษัทลูก (Startup), ควบคุมดูแล,
และบ่มเพาะให้เติบโต ซึ่งกำไรที่ได้จะนำกลับมาลงทุนต่อยอด
และเชื่อมโยงกับนักลงทุนภายนอก (Venture Capital) โดยเงินทุนตั้งต้นจะเริ่มต้นของโครงการเพียงหลักล้านบาท
ซึ่งจะมาจากผู้เกี่ยวข้องและจะเติบโตไปเรื่อยๆ ด้วยการนำผลตอบแทนมาลงทุนต่อ
เกิดจริงภายใน
6 เดือน
การจัดตั้งนิติบุคคลกลางนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นจริงภายในระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน และจะเริ่มกิจกรรมที่เป็น Quick Win เช่น การสร้างผู้ประกอบการให้แข็งแกร่ง และการเจรจากับนักลงทุนที่มีศักยภาพเข้ามาสำรวจโอกาสในพื้นที่ ส่วนในระยะยาว 3-5 ปี คาดว่าจะเกิดการลงทุนที่ชัดเจน, มีบริษัทใหม่ๆ และ Startup ที่เติบโตสูง, SME เข้มแข็งขึ้น, มีการขยายการจ้างงาน, และดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
เชื่อศักยภาพลำปาง
นำไปสู่เป้าหมาย
“ปัจจุบันสิ่งที่มีอยู่แล้วคือ
ลำปางมีดินสำหรับเซรามิก มีแร่บางชนิด
และเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภาคเหนือ
และในอนาคตหากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายที่ทำให้ลำปางสามารถผลิตไฟฟ้าและขายให้ประชาชนหรือบริษัทขนาดใหญ่ในราคาต่ำกว่าที่อื่นได้
จะเป็นจุดขายสำคัญ เช่น ดึงดูด Data Center ขนาดใหญ่มาตั้งในพื้นที่ นอกจากนี้
ลำปางยังมีนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคที่สามารถพัฒนาเป็น Startup หรือผู้ประกอบการสายอาชีพได้
ซึ่งจะรองรับความต้องการแรงงานทักษะสูงในอนาคต” ผศ.ดร.เกษมศักดิ์ กล่าว
หอการค้าฯ
เชื่อมประสานทุกความมุ่งมั่น
นายพีระรักษ์ พิชญกุล
ประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง กล่าวว่า หอการค้าฯ มีความเชื่อมั่นว่า
การเกิดขึ้นขององค์กรนี้จะสามารถพัฒนาต่อยอด นำพาเศรษฐกิจลำปางก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในอำเภอแม่เมาะที่อาจได้รับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิต
“เราอยากพาทุกคนไปข้างหน้า ทั้งผู้ประกอบการรายย่อย รายกลางให้เติบโตด้วยนวัตกรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
และเชื่อมั่นว่าการตั้งองค์กรนี้จะนำพาเศรษฐกิจลำปางให้ขยายตัว ในระยะยาวก็จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจลำปางให้เติบโต”
พีระรักษ์กล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการเองก็ต้องตื่นตัวและไม่สามารถยึดติดกับระบบเดิม ๆ ที่หวังพึ่งภาครัฐเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเราตั้งใจว่าผลการศึกษานี้ต้องเอาไปต่อยอด เมื่อเกิดองค์กรนิติบุคคลขึ้นมา เราจะต้องหานักลงทุนมาลงทุนในจังหวัดลำปาง เพื่อให้เกิดการเติบโต และเม็ดเงินที่เป็นกำไรก็จะหมุนเวียนกลับมาที่องค์กร เพื่อนำไปลงทุนในมิติอื่น ๆ ต่อไปได้
กฟผ.เดินหน้าสร้างกลไกใหม่
ในส่วนของ
กฟผ. แม่เมาะ นางเกษศิรินทร์ แปงเสน หัวหน้าโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ เปิดเผยว่า
กฟผ. แม่เมาะ มีความตั้งใจที่จะสร้างระบบทางเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อชดเชยเม็ดเงินที่หมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่แม่เมาะจะหายไปหลังจากที่กำลังผลิตไฟฟ้าลดลงในอนาคตใกล้
และเชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ของโปรเจคนี้จะถูกนำไปดำเนินการต่ออย่างแน่นอน
“องค์กรนี้จะมาช่วยในเรื่องของการเชื่อมโยงกลุ่มทุนจากที่อื่นทั้งภายในและต่างประเทศ
รวมถึงเชื่อมโยงโครงการต่างๆ ในจังหวัดลำปางเข้าด้วยกัน
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ การมีองค์กรยังอาจช่วยในเรื่องการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนอื่นๆ
ได้ง่ายขึ้น” นางเกษศิรินทร์
กล่าว.
โปรเจคนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่ต้องการพาลำปางไปสู่เศรษฐกิจใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและแก้ปัญหาสังคมในระยะยาว
โดยหวังว่าเศรษฐกิจลำปางโดยรวมจะเติบโตไม่น้อยไปกว่าปัจจุบันที่เหมืองแม่เมาะยังคงดำเนินการอยู่
ซึ่งการพัฒนาครั้งนี้ไม่ใช่แค่การพึ่งพาและรอคอยความหวังจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายต้องตื่นตัวเพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น