วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568

3 องค์กรใหญ่ผนึกกำลัง ตั้ง “นิติบุคคล” พลิกโฉมเศรษฐกิจลำปาง ก่อนเหมืองแม่เมาะชัตดาวน์

นับเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดลำปาง เมื่อ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ หอการค้าจังหวัดลำปาง ได้ผนึกกำลัง ศึกษาและจัดตั้ง องค์กรนิติบุคคล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับผลกระทบจากการที่เหมืองถ่านหินแม่เมาะ ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง  17% ของจังหวัด และถ่านหินจะหมดลงตามแผนในปี 2585

 จากปัญหาสู่ความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่

โปรเจคนี้เกิดจากความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดลำปางที่เติบโตช้า  และถ่านหินเหมืองแม่เมาะกำลังจะหมดลงภายในปี 2585 รวมถึงปัญหาทางสังคม เช่น จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลง นักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีงานทำ  ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้มีการหารือกันมานานกว่า 5 ปี ระหว่าง ภาครัฐจังหวัดลำปาง กฟผ.แม่เมาะ หอการค้าลำปาง

3 หน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในโปรเจคนี้ ประกอบด้วย อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ  ผู้มีความตั้งใจที่จะสร้างกลไกขับเคลื่อนระบบทางเศรษฐกิจใหม่ เพื่อทดแทนผลกระทบที่เกิดจากการลดกำลังการผลิตไฟฟ้าลง และ หอการค้าจังหวัดลำปาง ตัวแทนภาคเอกชน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น "ตัวกลาง" ในการเชื่อมโยงองค์กรใหม่นี้เข้ากับทุกภาคส่วนในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภาคอุดมศึกษา รวมถึงภาคประชาสังคม เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน


ความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วน สู่กลไกขับเคลื่อนที่ยั่งยืน

ผศ.ดร.เกษมศักดิ์ อุทัยชนะ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  กล่าวว่า องค์กรใหม่นี้จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลำปางให้น่าดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ทำให้เกิดการสร้างงาน และดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาทำงานในลำปาง นอกจากนี้ยังจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ลงทุน (Holding) โดยจะลงทุนในบริษัทลูก (Startup), ควบคุมดูแล, และบ่มเพาะให้เติบโต ซึ่งกำไรที่ได้จะนำกลับมาลงทุนต่อยอด และเชื่อมโยงกับนักลงทุนภายนอก (Venture Capital)  โดยเงินทุนตั้งต้นจะเริ่มต้นของโครงการเพียงหลักล้านบาท ซึ่งจะมาจากผู้เกี่ยวข้องและจะเติบโตไปเรื่อยๆ ด้วยการนำผลตอบแทนมาลงทุนต่อ

เกิดจริงภายใน 6 เดือน

การจัดตั้งนิติบุคคลกลางนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นจริงภายในระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน และจะเริ่มกิจกรรมที่เป็น Quick Win เช่น การสร้างผู้ประกอบการให้แข็งแกร่ง และการเจรจากับนักลงทุนที่มีศักยภาพเข้ามาสำรวจโอกาสในพื้นที่ ส่วนในระยะยาว 3-5 ปี  คาดว่าจะเกิดการลงทุนที่ชัดเจน, มีบริษัทใหม่ๆ และ Startup ที่เติบโตสูง, SME เข้มแข็งขึ้น, มีการขยายการจ้างงาน, และดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม 

เชื่อศักยภาพลำปาง นำไปสู่เป้าหมาย

“ปัจจุบันสิ่งที่มีอยู่แล้วคือ ลำปางมีดินสำหรับเซรามิก มีแร่บางชนิด และเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภาคเหนือ  และในอนาคตหากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายที่ทำให้ลำปางสามารถผลิตไฟฟ้าและขายให้ประชาชนหรือบริษัทขนาดใหญ่ในราคาต่ำกว่าที่อื่นได้ จะเป็นจุดขายสำคัญ เช่น ดึงดูด Data Center ขนาดใหญ่มาตั้งในพื้นที่  นอกจากนี้ ลำปางยังมีนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคที่สามารถพัฒนาเป็น Startup หรือผู้ประกอบการสายอาชีพได้ ซึ่งจะรองรับความต้องการแรงงานทักษะสูงในอนาคต”  ผศ.ดร.เกษมศักดิ์ กล่าว

หอการค้าฯ เชื่อมประสานทุกความมุ่งมั่น

            นายพีระรักษ์ พิชญกุล ประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง กล่าวว่า หอการค้าฯ มีความเชื่อมั่นว่า การเกิดขึ้นขององค์กรนี้จะสามารถพัฒนาต่อยอด นำพาเศรษฐกิจลำปางก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในอำเภอแม่เมาะที่อาจได้รับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิต

เราอยากพาทุกคนไปข้างหน้า ทั้งผู้ประกอบการรายย่อย รายกลางให้เติบโตด้วยนวัตกรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเชื่อมั่นว่าการตั้งองค์กรนี้จะนำพาเศรษฐกิจลำปางให้ขยายตัว ในระยะยาวก็จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจลำปางให้เติบโต”

พีระรักษ์กล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการเองก็ต้องตื่นตัวและไม่สามารถยึดติดกับระบบเดิม ๆ ที่หวังพึ่งภาครัฐเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเราตั้งใจว่าผลการศึกษานี้ต้องเอาไปต่อยอด  เมื่อเกิดองค์กรนิติบุคคลขึ้นมา เราจะต้องหานักลงทุนมาลงทุนในจังหวัดลำปาง เพื่อให้เกิดการเติบโต และเม็ดเงินที่เป็นกำไรก็จะหมุนเวียนกลับมาที่องค์กร  เพื่อนำไปลงทุนในมิติอื่น ๆ ต่อไปได้ 

กฟผ.เดินหน้าสร้างกลไกใหม่

ในส่วนของ กฟผ. แม่เมาะ นางเกษศิรินทร์ แปงเสน หัวหน้าโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ เปิดเผยว่า กฟผ. แม่เมาะ มีความตั้งใจที่จะสร้างระบบทางเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อชดเชยเม็ดเงินที่หมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่แม่เมาะจะหายไปหลังจากที่กำลังผลิตไฟฟ้าลดลงในอนาคตใกล้  และเชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ของโปรเจคนี้จะถูกนำไปดำเนินการต่ออย่างแน่นอน

            “องค์กรนี้จะมาช่วยในเรื่องของการเชื่อมโยงกลุ่มทุนจากที่อื่นทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงโครงการต่างๆ ในจังหวัดลำปางเข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ การมีองค์กรยังอาจช่วยในเรื่องการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น”  นางเกษศิรินทร์ กล่าว.

โปรเจคนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่ต้องการพาลำปางไปสู่เศรษฐกิจใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและแก้ปัญหาสังคมในระยะยาว  โดยหวังว่าเศรษฐกิจลำปางโดยรวมจะเติบโตไม่น้อยไปกว่าปัจจุบันที่เหมืองแม่เมาะยังคงดำเนินการอยู่  ซึ่งการพัฒนาครั้งนี้ไม่ใช่แค่การพึ่งพาและรอคอยความหวังจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายต้องตื่นตัวเพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน






Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์