เจ้าของอู่ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา
ตรวจสอบดูเอะใจบ่อเกรอะหลังบ้านถูกทุบปูนที่โบกไว้รอบๆออก
เลยเรียกรถรถดูดส้วมมาเปิดดู ผงะเจอศพสาวชาวลาวที่หายตัวไป เผยลูกจ้างหนุ่มพาแฟนสาวและน้องสาวแฟนชาวลาวมาพักอาศัยอยู่ด้วย
ก่อนสงกรานต์มาบอกว่าน้องสาวแฟนหายไป ขอเบิกเงินล่วงหน้าทำทีออกไปตามหาแต่หายเข้ากลีบเมฆทั้งคู่
จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 10 วัน อู่เปิดทำงานจึงมาพบศพถูกฆ่าหมกบ่อเกรอะหลังอู่
ตรวจสอบในห้องพักพบรอยเลือด ส่วนข้าวของถูกขนย้ายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อเวลาประมาณ
16.50 น.วันที่ 22 เม.ย.57 พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงศ์ พนักงานสอบสวนเวร
สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆาตกรรมที่อู่ดนัยยนต์ เลขที่ 254 บ้านต้า หมู่ 10 ถ.ลำปาง-เกาะคา
ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
และประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง
แพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยอัมรินทร์ลำปางร่วมตรวจสอบ
จากนั้นจึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับ พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี
ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.สังเวียน อินตากูล
ผกก.สส.สภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ธนพล ภาระพงษ์ นวท.สบ.4 กสก.ศ.5
ลำปาง พ.ต.อ.ฐนกร คุ้มวงศ์
ผกก.สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.วิภาส แสงศศิธร รอง
ผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร จ.ลำปาง และสืบสวน สภ.เมืองลำปาง
จำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังอู่ได้ก่อสร้างเป็นห้องพักปูนจำนวน
2 ห้อง ข้างห้องพบบ่อเกรอะมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ด้านในพบศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อ
สภาพขึ้นอืดมีหนอนไต่ยั๊วะเยี๊ยะน่าสยดสยอง เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพขึ้นมาจากบ่อ
พบว่ามีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมปาดเป็นแผลลึก 3 แห่ง
ที่บริเวณลำคอด้านขวา ต้นขาซ้าย และส้นเท้า สอบสวนนายดนัย เกียรติพิทักษ์ อายุ 60 ปี เจ้าของอู่
อยู่บ้านเลขที่ 24 บ้านศรีปงชัย หมู่ 6 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง ให้การว่า
ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.นุ้ย อายุ 16 ปี เป็นชาวลาวที่มาพักอาศัยที่อู่อยู่กับพี่สาวชาวลาว
และแฟนของพี่สาวชื่อนายท๊อป(ไม่ทราบชื่อจริง) อายุประมาณ 27
ปี เป็นราษฎร อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งหายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายดนัย เล่าว่า
ญาติของตนได้ฝากนายท๊อปเข้ามาทำงานที่อยู่เมื่อช่วงกลางเดือน ก.พ.57
โดยนายท๊อปได้พาแฟนสาวชาวลาวชื่อ น.ส.ศร และน้องสาวคือ น.ส.นุ้ย มาอยู่ด้วย
โดยผู้หญิงทั้งสองคนได้ไปทำงานอยู่ที่โรงงานอำพรไข่ลูกลอกในหมู่บ้านศรีปงชัย
ช่วงเย็นจะรับเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักด้านหลังอู่ด้วยกัน 3 คน จนกระทั่งช่วงหัวค่ำวันที่ 11 เม.ย.นายท๊อปได้โทรศัพท์มาคุยกับตนว่าพาเพื่อนมากินเหล้าที่ห้องพัก จากนั้นเวลาเที่ยงคืนก็ได้โทรมาหาอีกบอกว่า
น.ส.นุ้ยน้องสาวแฟนหายตัวไป
โดยก่อนหน้านั้นได้ทะเลาะกับพี่สาวเรื่องซื้อเครื่องเสียงและเดินหายไปออกจากอู่ตามหาตัวไม่พบ
วันที่ 12 เม.ย. นายท๊อปกับแฟนสาวก็มาบอกว่าจะกลับบ้านไปตามหาน้องสาว
ซึ่งตนได้ปิดร้านตอนเที่ยงวันเพราะหยุดยาวช่วงสงกรานต์ จากนั้นวันที่ 13 เม.ย.เวลาประมาณเที่ยงคืน
นายท๊อปได้โทรมาหาตนเองบอกว่าจะกลับมาที่อู่
เพราะไม่ถามหมอดูบอกว่าน้องสาวยังคงอยู่ที่นี่ โดยนำรถยนต์กระบียี่ห้ออิซูซุ
สีบรอนด์ทอง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้มากับแฟนสาว และคนขับรถอีกคนหนึ่ง และได้มาจุดธูปเทียนที่ศาลพระภูมิหน้าอู่ว่าขอให้พบน้องสาวจากนั้นก็ได้กลับออกไป
ซึ่งตนเองได้ปิดร้านยาวจนมาเปิดร้านอีกทีวันที่ 21 เม.ย.
นายดนัย
เล่าต่อไปว่า ขณะที่ทำงานอยู่ก็ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากด้านหลังอู่
เมื่อเดินไปตรวจสอบดูก็พบว่าที่บ่อเกรอะข้างห้องพักคนงาน จากเดิมที่จะมีการโบกปูนไว้รอบๆได้ถูกทุบปูนออกไปหมด
จึงสงสัยเรื่องที่ น.ส.นุ้ยหายไป ตนจึงได้ไปปรึกษากับ ร.ต.ต.พัฒนา คำชื่นวงศ์ รอง
สว.(ป).สภ.เมือง หัวหน้าตู้ยามตำบลชมพู ซึ่งได้แนะนำให้แจ้งพนักงานดูดส้วมเข้าไปตรวจสอบดู
จึงได้พากันไปตรวจสอบเมื่อเปิดฝาดูก็ถึงกับผงะเมื่อพบศพคนอยู่ด้านใน เชื่อว่าเป็น
น.ส.นุ้ยที่หายตัวไปอย่างแน่นอน จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบห้องพักที่นายท๊อปพาผู้หญิงทั้งสองคนเข้ามาพัก
ซึ่งล็อกกุญแจด้านนอกไว้ เมื่อเปิดเข้าไปด้านในพบว่าได้มีการขนของออกไปแล้ว เหลือเพียงพัดลม
1 ตัวที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้
นอกจากนั้นบริเวณกำแพงห้องและใต้ที่นอนมีร่องรอยเลือดกระเด็ดติดอยู่ และห่างออกมาหน้าห้องพักยังพบธูปที่จุดแล้วปักอยู่
1 ดอก เบื้องต้น
เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายท๊อป และ น.ส.ศร แฟนสาวเป็นพี่สาวของ
น.ส.นุ้ย ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป ส่วนนายดนัย
เจ้าของอู่ก็ยังคงต้องกันตัวไว้สอบสวนอย่างละเอียด เพราะเป็นคนพบเห็น
น.ส.นุ้ยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตามหาตัวทั้งสองคนมาทำการสอบสวนแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 975 ประจำวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2557)