วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สืบสาแหรกมุสลิมลำปาง จาก “ปาทาน” ถึง “โรฮิงญา”


ขบวนการค้ามนุษย์ ที่ถูกเปิดโปงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ในประเทศไทย ทำให้สปอร์ตไลท์ฉายจับไปที่กลุ่มคนที่เรียกว่า “โรฮิงญา” อีกครั้ง หลังจากข่าวกองทัพเรือ กดดันให้ผู้อพยพกลุ่มนี้กลับไปตายในทะเลเมื่อไม่กี่ปีก่อน ความจริงโรฮิงญา ก็ไม่แตกต่างไปจากกลุ่มชนมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ที่อพยพมาจากต่างแดน รวมทั้งมุสลิมในภาคเหนือ ลำปางและเชียงใหม่
           
โรฮิงญา เป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ หรืออาระกันของประเทศพม่า บางส่วนมาจากบังคลาเทศ ปากีสถาน ที่มีเขตแดนติดต่อกัน ปี 2521 รัฐบาลพม่าเข้าปกครอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการกดขี่ ข่มเหง ชาวโรฮิงญา การกระทำทารุณกรรมต่างๆนานา จนชาวโรฮิงญาต้องอพยพหนีภัยออกไปต่างประเทศ
           
ราว 2 แสนคน อพยพไปบังคลาเทศ อีกจำนวนมากกลายเป็นมนุษย์เรือ ล่องไปอย่างไร้จุดหมายในทะเลอันกว้างใหญ่ จำนวนไม่น้อยเล็ดรอดผ่านหูผ่านตา หรือผ่านโดยนายหน้าค้ามนุษย์จ่ายให้กับ ตม.ไทย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไทย ขึ้นบกแล้วถูกนำตัวไปอยู่ในค่ายกักกัน
           
ในยุคสมัยที่การอพยพเคลื่อนย้ายผู้คนจำนวนมาก เพื่อไปขุดทองในดินแดนใหม่ หรือแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ด้วยพื้นที่ในการตั้งถิ่นฐาน การทำมาหากิน การได้สัญชาติ ถูกจำกัดไว้เฉพาะคนท้องถิ่น การอพยพของชาวโรฮิงญา จึงกลายเป็นการหนีความตาย ไปสู่ความตาย
           
มุสลิมลำปาง ที่บัดนี้ กลายเป็นคนท้องถิ่นไปแล้ว ก็มีเส้นทางไม่ต่างไปจากชาวโรฮิงญาในอดีต  มุสลิมลำปางรุ่นแรกๆ อพยพหนีภัยการเมืองจากดินแดนที่ถูกแยกแบ่งมาจากอินเดีย  ปากีสถาน และบังคลาเทศ เราคุ้นเคยกับคนเหล่านี้ด้วยคำเรียกขานว่า ปาทาน โรฮิงญาก็สืบสาแหรกมาจากปาทานเช่นเดียวกัน
           
อัลฟาลาห์ เป็นมัสยิดแห่งแรกของลำปาง สร้างขึ้นในปี 2495 โดยมุสลิมที่อพยพมาจากประเทศอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ รวมทั้งมุสลิมเชื้อสายมลายูจากตอนใต้ของประเทศ ทุกวันศุกร์มุสลิมในจังหวัดลำปางจะไปชุมนุมกันที่อัลลาฟาห์  เป็นวัตรปฏิบัติทางความเชื่อ ที่ต่อเนื่องมาไม่ขาดสายกว่า 60 ปี
           
สันนิษฐานว่า นอกจากมุสลิมสายปาทาน มลายูแล้ว สายจีนฮ่อซึ่งเป็นประชากรมุสลิมส่วนใหญ่ ในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่  ก็น่าจะอพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ลำปางด้วย มาลำปางคราวใด มีคนแนะนำให้ไปลิ้มรสข้าวซอยอิสลาม ตรงเชิงสะพานรัษฏาภิเศก ที่ว่ากันว่า เป็นข้าวซอยที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย เจ้าของเป็นมุสลิมจีนฮ่อ
           
ข้าวซอย เดิมคือ “ก๋วยเตี๊ยวฮ่อ” เป็นอาหารดั้งเดิมของมุสลิมจีนฮ่อ ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ
           
เชียงใหม่ นับเป็นเมืองหลวงของมุสลิมสายจีน ที่คนพื้นเมืองเรียกว่า จีนฮ่อ ต้นตระกูลของพวกเขาสายหนึ่งอพยพมาจากมณฑลยูนนาน ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน  นับตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 กระจายตัวอยู่ในอำเภอฝาง แม่อาย และเชียงใหม่ ซึ่งมีมัสยิดจีนฮ่ออยู่ถนนช้างคลาน เป็นเสมือนแลนด์มาร์คของมุสลิมในภาคเหนือ
           
อีกสายหนึ่งเป็นทหาร ที่แตกทัพมาจากกองพล 93 กองทัพจีนคณะชาติ ที่ถอยร่นมาจากการเข้ายึดครองจีนของเหมา เจ๋อ ตง จำนวนหนึ่งอพยพไปไต้หวัน อีกจำนวนหนึ่งยึดแผ่นดินไทยเป็นเรือนตาย รัฐบาลขณะนั้นจัดให้มีค่ายผู้อพยพกว่า 50 แห่งทั่วภาคเหนือ  ซึ่งมาถึงรัฐบาลนี้  การจัดให้มีค่ายอพยพชาวโรฮิงญา คงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
           
มุสลิมในภาคกลาง ส่วนหนึ่งสืบสายมาจากเฉกอะหมัด หรือพระยาเฉกอะหมัดรัตนราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าขวา ว่าที่จุฬาราชมนตรี ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็น ต้นสกุล “บุนนาค”
           
ส่วนหนึ่งมาจากการกวาดต้อนมุสลิมสายมลายูในภาคใต้ ครั้งเมื่อรัชกาลที่ 1 ยกทัพไปตีปัตตานีดารุสสลาม กลุ่มนี้มีถิ่นฐานปัจจุบันอยู่ในเขตมีนบุรี หนองจอก บางกะปิ ลาดกระบัง ส่วนที่เคยเป็นขุนนางในราชสำนักปัตตานี อยู่แถวบางพลัด บางอ้อ คลองบางกอกน้อย เจริญพาศน์ คลองบางหลวง รวมทั้งสืบเชื้อสายมาจากแขกจาม ทหารรับจ้างจากเขมร  เป็นมุสลิมที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แถวอุรุพงษ์
           
เมื่อคิดถึงโรฮิงญา พวกเขาก็ไม่แตกต่างไปจากบรรพบุรุษเผ่าพันธุ์มุสลิมในประเทศ ซึ่งล้วนอพยพมาจากต่างถิ่นทั้งสิ้น และวันนี้พวกเขาก็ผสมกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของคนไทย เพียงแต่คนโรฮิงญาเดินทางมาช้ากว่ากาลเวลาเท่านั้น
 
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1028   วันที่  15  21  พฤษภาคม  2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์