วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

กิ่วคอหมาแห้งขอด น้ำน้อยสุดของประเทศ


เขื่อนลำปางวิกฤต  กิ่วคอหมามีเปอร์เซ็นต์น้ำเหลือน้อยที่สุดในประเทศ ส่งช่วยเหลือได้เพียงเกษตรกรในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม ขณะที่เขื่อนกิ่วลมต้องเลี้ยงตัวเอง เหลือน้ำใช้งานได้อีก 20 วัน  ผอ.โครงการฯเตรียมเรียกประชุมผู้ใช้น้ำให้รับทราบถึงปัญหา และอาจต้องลดการระบายน้ำลงอีก

สถานการณ์น้ำในสองเขื่อนใหญ่ของ จ.ลำปาง ณ วันที่ 3 ก.ย. 59 พบว่า เขื่อนกิ่วลมมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ในอ่าง 26.214 ล้านลูกบาศก์เมตร  คิดเป็น 24.68 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างปริมาณ น้ำไหลลงอ่างประมาณ 0.114 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน ปริมาณน้ำที่ระบายลงแม่น้ำวัง 0.329 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน ส่วนเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณน้ำในอ่าง  16.350 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 9.60 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้อยที่สุดตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อนทั้งสองแห่ง  และเป็นความแห้งแล้งในรอบ 20 ปี

นายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า  สำหรับเขื่อนกิ่วคอหมามีปริมาณน้ำเหลือเพียง 16 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร  โดยเมื่อช่วงก่อนได้ระบายน้ำไปเสริมให้เขื่อนกิ่วลม เพื่อส่งน้ำให้พื้นที่เขต อ.เมือง อ.ห้างฉัตร และ อ.เกาะคา และพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วังด้วย  ฉะนั้นปริมาณน้ำใช้การที่เหลืออยู่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต้องสำรองไว้ให้พื้นที่ชลประทานของ อ.แจ้ห่ม  ประมาณ 10,000 ไร่  อยู่ในช่วงระยะที่ต้นข้าวกำลังตั้งตัวแตกกอ เหลืออีก 2 เดือนจะถึงระยะเวลาเก็บเกี่ยว จึงต้องใช้น้ำในส่วนนี้อีก 8 ล้านลูกบาศก์เมตร  อ.แจ้ห่มจึงไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ   ในส่วนของเขื่อนกิ่วลมตอนนี้มีน้ำอยู่  26 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร  มีการส่งน้ำออกไปใช้วันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร กรณีถ้ายังไม่มีฝนตกมาเสริม ก็จะสามารถส่งน้ำได้อีก 20 วัน  ซึ่งหวังว่าในช่วงนี้จะมีฝนเข้ามาบ้าง  ในส่วนของข้าวนาปีจะแก้ปัญหาไปได้  แต่ฤดูแล้งปีหน้าก็ต้องดูแนวโน้มของฤดูฝนก่อน 2-3 เดือน จึงจะวางแผนปลูกพืชได้ แต่คาดว่าอาจจะต้องลดการปลูก หรืองดปลูกในบางพื้นที่  เพื่อเก็บน้ำไว้ช่วยเหลือด้านอุปโภคบริโภค และการประปา

ผอ.โครงการฯ กล่าวอีกว่า  ถือว่าปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศไทย  เขื่อนกิ่วคอหมามีเปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำที่เก็บกักต่ำสุด เนื่องจากน้ำส่วนหนึ่งส่งไปช่วยเติมให้เขื่อนกิ่วลม  ถ้าไม่มีเขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนกิ่วลมก็จะเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำไปนานแล้ว   และวันที่ 8 ก.ย.58 นี้ จะมีการประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ใช้น้ำเขื่อนกิ่วลมทั้งหมด เพื่อรับทราบสถานการณ์และวางมาตรการประหยัดน้ำขั้นที่ 2 ซึ่งในแผนที่คาดการณ์ไว้ว่าวันที่ 5 ก.ย. 58 จะมีน้ำใช้การเหลือ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันยังเหลือใช้ได้ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ยืดเวลาใช้น้ำออกไปได้ถึงปลายเดือน ก.ย. แต่เพื่อความไม่ประมาท จึงต้องกระตุ้นให้เกษตรกรประหยัดน้ำให้มากขึ้น  ลดการสูญเสียน้ำในระบบการส่งน้ำให้มากที่สุด

ปัจจุบันได้มีการส่งน้ำออกไปยังคลองไซส์ใหญ่ฝั่งขวาของเขื่อนกิ่วลม และระบายลงแม่น้ำวัง ซึ่งไม่สามารถระบายผ่านอาคารน้ำล้นสปินเวย์ได้แล้ว เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนต่ำกว่าสันสปินเวย์ ต้องระบายลงทางระบายน้ำฝั่งซ้ายแทนในอัตรา 8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ส่งให้พื้นที่การเกษตรของกิ่วลมในอัตรา 9 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยเฉลี่ยเท่ากับวันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร  ซึ่งได้เพิ่มมาตรการขั้นที่ 2 ในการประหยัดน้ำ คือการลดปริมาณน้ำที่ส่ง เหลือวันละ 9 แสนลูกบาศก์เมตร ให้ได้ประหยัดน้ำวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1044 วันที่ 4 - 10 กันยายน 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์