อดีต ด.ต. มึน ขับรถไปเชียงใหม่ ถูกดักยิงกลางทาง

จำนวนผู้เข้าชม

อดีตดาบตำรวจ ขับรถจากชัยภูมิจะไปทำธุระที่เชียงใหม่  ใช้สายเลี่ยงเมืองลำปาง กลับเจอรถ จยย.จอดข้างทางยิงปืนใส่  ตั้งสติได้รีบขับรถเข้าย่านชุมชน ก่อนโทรแจ้งตำรวจ

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2559 เวลาประมาณ 21.20 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์เก๋งได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับความเสียหาย ขณะกำลังขับขี่รถผ่านไปบริเวณถนนเลี่ยงเมือง โดยเจ้าของรถได้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ที่บริเวณหน้าบริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง ใกล้หลักกิโลยักษ์ ถ.พหลโยธิน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จากนั้น จึงได้แจ้งประสานไปยัง ร.ต.อ.มานพ มะโนริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย ร.ต.ท.วชิรวิทย์ รถน้อย รอง สวป.ฯ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลชมพู และ เจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าน ร่วมกันตรวจสอบ

เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ฯ พบคนขับรถ ทราบชื่อคือ ด.ต.สมภพ พลโยธา อายุ 53 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ จ.ชัยภูมิ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ไปตรวจสอบที่รถเก๋งยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สีบรอนซ์เงินรุ่น อี 250 ซีดีไอ หมายเลขทะเบียน 1กน 1276 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ข้างทาง หน้าทางเข้านิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง โดยภายในรถพบภรรยาและลูกน้อยวัยขวบเศษ ของ ด.ต.สมภพ รออยู่ภายในรถ ซึ่ง ด.ต.สมภพ ได้ชี้ไปยัง ประตูรถด้านหลังฝั่งขวาของตัวรถ พบว่ามีรอยกระสุนปืน ทะลุเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ประมาณ ปลายหัวแม่มือ 1 รู ยังไม่ทราบชนิดของกระสุน

ด.ต.สมภพ เล่าว่า ตนเอง เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ และได้ลาออกจากราชการ มาประมาณ ปี 2549 เพื่อประกอบอาชีพผู้รับเหมา ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพาภรรยา และลูกน้อยวัยขวบเศษ เดินทางมาจาก จ.ชัยภูมิ จะไปทำธุระที่ จ.เชียงใหม่ โดยขับมาทาง จ.แพร่ ก่อนจะเลี้ยวมาตามถนนเส้นเลี่ยงเมือง เมื่อมาถึงก่อนจะข้ามสะพานยกระดับ เขตบ้านหนอง 5 ต.ชมพู อ.เมือง ใกล้กับทางเข้าบ้านโทกหัวช้าง ซึ่งตนและภรรยาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อได้ยินเสียงดังปัง 1 ครั้ง มาจากฝั่งขวาของตัวรถ และพบว่าข้างประตูรถ มีรอยกระสุนปืนยิงเข้ามา ตนจึงตั้งสติ ชะลอความเร็ว แล้วหันไปดูฝั่งตรงข้ามถนน ห่างไปประมาณ 10 กว่าเมตร ก็พบว่า มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ข้างทาง ใกล้กับป้ายบอกทาง โดยมีชาย 2 คน คร่อมอยู่บนรถ ซึ่งคนขับขี่มีกระบอกไฟฉายติดอยู่บนศีรษะ จากนั้นด้วยความที่ตนห่วงภรรยาและลูกจะได้รับอันตราย ตนจึงได้ขับรถเข้าเมือง มาจอดบริเวณที่มีผู้พลุกพล่าน ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบดังกล่าว

ด.ต.สมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า โชคดีที่ตั้งสติได้ ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน  ไม่ทราบว่าคนร้ายมีจุดประสงค์อะไร ถึงได้ใช้ปืนมายิงรถของตน จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้ ด.ต.สมภพ พาไปชี้และตรวจสอบ บริเวณที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด ก่อนจะบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และได้แนะนำให้ ด.ต.สมภพ ไปลงบันทึกแจ้งความไว้กับ พนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ยังสรุปไม่ได้ว่า จะมาจากการมุ่งประสงค์ร้าย หวังชิงทรัพย์ หรือ ความคึกคะนอง จึงจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1084 วันที่ 24 - 30 มิถุนายน 2559)