วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ตามล่า หารัก โปเกมอน

จำนวนผู้เข้าชม website counter

เพราะโปเกมอน อยู่ในหัวใจใครหลายคนมาแต่เด็กๆ เมื่อโปเกมอนกลับมาในรูปของแอพพลิเคชั่นเกมส์ที่สามารถจับคล้ายตัวเป็นๆมากักขังไว้ในสมาร์ทโฟนได้ ความนิยมจึงพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

แต่การตามล่าครั้งนี้ มิใช่เพื่อล้างแค้น หากเพื่อยืนยันความคิดของบางคนในวัยเยาว์ หรือวัยรุ่นในวันนี้ ว่านี่เป็นความผูกพันของคนในโลกความจริง กับตัวการ์ตูนในโลกสมมติ ซึ่งเริ่มปฏิบัติตามล่าหารักกันมาตั้งแต่วันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้ว

วันที่  6 สิงหาคม เรียกว่าเป็นวันโปเกมอนเอเชียก็ว่าได้้ เพราะเป็นวันแรกที่โปเกมอน โก สร้างกระแสฟีเวอร์ในประเทศไทยโดยให้คอเกมส์ชาวไทย พร้อมๆกับหลายประเทศในโซนทวีปเอเชีย ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์ เวียดนาม ไต้หวัน ปาปัวนิวกินี ฟิจิ หมู่เกาะโซโลมอน ไมโคเนียเชีย ปาเลา และ ประเทศไทย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นลงในสมาร์ทโฟน อวัยวะที่ 33 ของมนุษยชาติ
           
ก่อนหน้าที่ Niantic Labs จะปล่อยโปเกม่อนสู่เอเชียนั่น ได้เปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เปิดให้เล่นในบางประเทศในยุโรป และที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นการยั่วน้ำลายคอเกมส์ทั่วโลก จึงไม่แปลกเมื่อขยายมาเปิดเซิร์ฟเวอร์ให้บริการให้ทวีปเอเชียแล้ว ยอดการดาวน์โหลดเกมส์และความนิยมของนักล่าโปเกมอนจึงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วเวลาข้ามคืน
           
คำถามว่าทำไมโปเกม่อนถึงเข้าไปอยู่ในใจเหล่าคอเกมส์ได้อย่างง่ายดายนัก
           
คำถามนี้คงตอบได้ไม่ยาก เพราะโปเกม่อน เป็นการ์ตูนที่ดังมากและมีมานานานมาก (เอาเป็นว่าแร็ค ลานนาเองก็รู้จักโปเกม่อนมาตั้งแต่อยู่ม.ต้น) ทำให้มีแฟนคลับทุกเพศทุกวัย ที่เคยอยากจับโปเกม่อนมาปั้นและมาสู้แข่งกันเหมือนในการ์ตูน  จนมาวันนี้เหล่าโปเกมอนมายืนอยู่ตามสถานที่ต่างๆรอคอยให้นักเล่นเกมส์ออกตามหาโปเกมอนได้เหมือนในการ์ตูน จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์โปเกมอนฟีเวอร์ ได้อย่างไม่อยากเย็น
           
แน่นอน ว่าเกมส์นี้ แร็ค ลานนา ไม่มีพลาดให้ตกกระแส เพราะตอนยังเด็กก็ดูการ์ตูนเรื่องนี้เช่นกัน จากการที่ได้โหลดลงมาเล่น ทำให้รู้ได้ว่า....หากจับโปเกม่อนได้สักสามตัวแล้ว ต้องติดเป็นแน่นอน เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้น มีสัญชาตญาณของการเป็นนักล่า นักสะสม และ เกมส์นี้ให้เราได้ทั้งสองอย่าง ยิ่งบางตัวเป็นโปเกม่อนหายาก ทำให้สัญชาตญาณทำงานพุ่งพรวด
           
หลังจากที่เกมโปเกมอนโก ได้เปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการมาได้ราว 1 สัปดาห์ เราจะสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่างในสังคมวัยรุ่นไทยที่แทบไม่ต่างจากสังคมวัยรุ่นต่างประเทศตามล่าโปเกมอน
           
เราจะเห็นวัยรุ่น เดินก้มหน้าตามท้องถนน จากเดิมที่วัยรุ่นยุคปัจจุบันมีพฤติกรรม”ฟับบิ้ง” หรือก้มหน้าจ้องแต่สมาร์ทโฟนมากอยู่แล้วในขณะที่นั่งอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมอยู่เดิม ตอนนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นคือแม้แต่เวลาเดินก็ยังก้มหน้า “ฟับบิ้ง” ไปเรื่อยๆ วัยรุ่นเดินกันมาเป็นกลุ่ม 5 - 6 คน แต่ทุกคนก้มหน้าหมดเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน เดินๆหยุดๆ หันไปหันมาเอามือถูๆหน้าจอเป็นช่วงๆ เพราะต้องเช็คดูว่ามีโปเกมอนโผล่มาให้รัศมีที่เราอยู่หรือไม่ (จริงๆแล้วมันมีระบบสั่นแจ้งเตือนหากมีโปเกมอนเข้ามาในรัศมีการจับ)
           
แน่นอนว่า เกมส์นี้มีทั้งสนุก ติด และอันตราย !! เพราะ
           
แทบจะต้องก้มหน้าตลอดเวลา ...เกมนี้ดึงดูดให้ “อยากก้มหน้า” เกือบตลอดเวลา เพราะฉะนั้นทัศนวิสัยรอบข้างจะกลายเป็น 0 ทันที เมื่อคุณจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แม้ว่าบางครั้งเงยหน้ามองทางแล้ว ใจก็ยังจดจ่ออยู่ดีว่าจอจะสั่นเมื่อไหร่ และเมื่อเจอโปเกมอนมันก็คงยากที่จะทำใจเดินผ่านไปโดยไม่หยุดจับมัน เปรียบเสมือนรถที่ขับโดยลืมเอาที่บังแดดออกแล้วเหยียบเบรกกระตุกๆ ตลอดเวลา เสี่ยงต่ออุบัติเหตุอย่างมากแน่นอนดังที่เป็นข่าวในต่างประเทศ
           
ระวังสิ่งรอบข้างขณะเล่น...เพราะการเดินบนทางเท้าแม้จะระวังแล้วก็ยังมีความอันตรายอยู่ดี เพราะมีทั้งท่อที่ไม่ได้ปิด แผงลอยแม่ค้า และรถมอเตอร์ไซค์ เพราะฉะนั้นการเดินก้มหน้าเล่นเกมในไทยจึงไม่ต่างจากเดินบนถนนจริง ๆ ตลอดเวลา อีกทั้งต้องระวังมิจฉาชีพที่พร้อมจะจู่โจมคนที่เอาแต่ก้มหน้ามองมือถือได้ตลอดเวลา ทั้งการวิ่งราวโทรศัพท์ การล้วงกระเป๋า รวมถึงอาชญากรรมที่รุนแรงกว่านั้นได้
           
ท่องเที่ยวสนุกน้อยลง ...แม้เกมส์นี้จะจัดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้เป็นจุดโปเกสตอป และยิม เพื่อดึงดูให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น รู้จักชื่อสถานที่เหล่านั้นมากขึ้น โดยจุดประสงค์แล้วเป็นสิ่งที่ดี แต่จากเท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าคอเกมส์กลับให้ความสนใจที่จะอยู่กับเกมส์มากกว่าที่จะสนใจสถานที่ท่องเที่ยวทำคัญเหล่านั้นจริง ๆ   
           
และหวังว่าจะไม่มีข่าว “บิลช็อค” เหมือนอย่างที่เคยเกิดกับปรากฎการณ์เกมส์เศรษฐี ที่ปรากฎบิลเรียกเก็บค่าใช้บริการกันหลายแสนบาท เพราะไปกดซื้อไอเทมมาใช้ในการเล่นเกม แต่คราวนี้ดีกว่าตรงที่ กสทช.ออกมากำกับชัดเจนเกี่ยวกับการตั้งเพดานค่าบริการโทรศัทพ์มือถือไว้ ซึ่งนั้นก็ต้องดูกันยาวๆว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอบเดิมอีกหรือไม่        

ส่วนข้อดีของเกมก็มีแน่นอน เพราะด้วยการออกแบบเกมส์ให้ออกไปเก็บโปเกบอล ออกไปตามล่าโปเกมอนตามสถานที่ต่างๆ เป็นการกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยตามจุดต่างที่มีคนไปรอเก็บโปเกมอน พ่อค้าแม่ค้าก็ยิ้มแก้มปริกันไปตามๆกัน  กระตุ้นให้เดินออกกำลังกาย เพราะการจะฟักไข่โปเกมอนได้ ต้องเดินอย่างน้อย 2-5 กิโลเมตร ในบางครอบครัวก็การออกไปตามล่าโปเกมอนก็กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่พ่อแม่ลูกเดินตามสวนสาธารณะ เดินเก็บบอลตามสถานที่ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีไม่น้อย
           
ไม่ว่าจะเกมส์อะไรก็ตามก็ต้องเล่นกันแต่พอดี ถ้าอยากจะตามฝันเป็นนักล่าโปเกม่อน ก็ต้องควบคุมตัวเองให้ได้อย่า อย่าให้โปเกม่อนมาควบคุมเราได้ ว่าแล้ว แร็ค ลานนาก็ขอตัวไปตามหา...ปิก๊าจู๊ววววววววววววววววว ก่อนนะตัวเองงงง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1091 วันที่ 12 - 18 สิงหาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์