สิบล้อเสียหลักพลิกขวางถนน เก๋งหักหลบเจ็บหนัก

จำนวนผู้เข้าชม

เมื่อเวลาประมาณ 06.50 น. วันที่ 23 มิ.ย.60  ศูนย์วิทยุ 191 ลำปาง รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน 2 เหตุการณ์เป็นรถบรรทุกพลิกคว่ำ และรถเก๋งชนต้นไม้มีคนติดอยู่ในรถ บริเวณ กม.ที่ 682  ฟาร์มแกะฮักยู  ถนนพหลโยธิน ขาเข้าเมืองลำปาง  เขตบ้านวังพร้าว หมู่ 2 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง รถปิดขวางถนนทำให้รถไม่สามารถผ่านไปได้ หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.ต.มนตรี ดวงวนา สว.(สอบสวน)สภ.เกาะคา   เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา  เข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างเร่งด่วน

ในที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 7541 ลำปาง พุ่งชนตกไม้ในร่องกลางถนน โดยคนขับรถเป็นหญิงติดอยู่ภายในรถ พลเมืองดีที่ผ่านมาประสบเหตุหลายคน ได้ช่วยกันนำอุปกรณ์ที่ติดมากับรถของตนเอง เข้ามางัดประตูรถยนต์เก๋งเพื่อนำตัวหญิงคนขับออกมา ซึ่งร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะคา กู้ภัยนครลำปาง กู้ชีพโรงพยาบาลเกาะคา รุดมาที่เกิดเหตุ ช่วยกันงัดประตูออก โดยใช้เวลาอยู่ประมาณ 15 นาที จึงนำตัวออกจากรถได้  พบได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณข้อเท้าซ้ายมีแผลฉกรรจ์หวิดขาด กระดูกโผล่  จึงเร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปางทันที

ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.กมลชนก เอี่ยมลออ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341 หมู่ 2 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง

นอกจากนั้นบริเวณกลางถนน ยังพบรถบรรทุกสิบล้อที่บรรทุกขอมาเต็มคันรถ หมายเลขทะเบียน 70-4299   เชียงใหม่ เสียหลักตะแคงขวางอยู่กลางถนน ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้  เบื้องต้น นายไกรสิทธิ์ กาเผือกงาม อายุ 32 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 18 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพลีนคร จ.กำแพงเพชร  คนขับรถสิบล้อคันเกิดเหตุยืนรอให้การแก่เจ้าหน้าที่ตำตรวจ สภ.เกาะคา  

นายไกรสิทธิ์  กาเผือกงาม คนขับรถบรรทุกสิบล้อคันที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองบรรทุกของมาเต็มคันรถ เพื่อที่จะไปส่งสินค้าจังหวัดทางภาคเหนือ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางลงเขายาว ระหว่างนั้นรถเกิดเซวิ่งลงข้างทางด้านซ้าย ตนเองจึงหักพวงมาลัยกลับคืน แต่เกิดเสียหลักรถพลิกตะแคงขวาไถลไปกับถนน จนตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบออกจากรถ มาแต่กลับพบว่ารถเก๋งชนเข้ากับต้นไม้  ซึ่งคาดว่ารถเก๋งน่าจะขับรถตามหลังตนเองมา และเมื่อเห็นรถตนเองเสียหลักขวางถนน คนขับเก๋งจึงได้หักหลบแล้วไปเสียหลักชนต้นไม้ดังกล่าว  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ส่วนอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้รถติดยาวกว่า 3 กิโลเมตร เพราะเป็นทางลงเขายาว ไม่มีจุดกลับรถใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา จึงต้องปิดเส้นทางดังกล่าว พร้อมกับเปิดให้รถวิ่งสัญจรสวนทางกันอีกช่องทางหนึ่งเพื่อเร่งระบายรถโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถเคลื่อนย้ายรถบรรทุกสิบล้อและเปิดการสัญจรได้ตามปกติ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1135 วันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2560)