วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ดาชัย เอกปฐพี เอ็งไม่แน่นี่หว่า !

จำนวนผู้เข้าชม .

รื่องราวระหว่างนายดาชัย เอกปฐพี หัวหน้าพรรคพลังประเทศไทย และนายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภองาว เพิ่งปรากฏเป็นข่าวราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อศาลจังหวัดลำปางให้คู่ความเจรจาตกลง ไกล่เกลี่ยกันในคดีที่ฝ่ายหลังฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท

เป็นปกติของคดีทำนองนี้ ซึ่งไม่ใช่คดีอาชญากรรมร้ายแรง โดยหลักศาลก็จะสั่งให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย คือให้คุยกันว่าจะบรรเทาความเสียหายกันอย่างไร ลงโฆษณากี่วัน กี่เดือนในสื่อใด หรือจะต้องใช้ค่าเสียหายกันเท่าใด

มูลเหตุของคดี มาจากถ้อยคำที่ปรากฏในเฟสบุ๊ค ดังนี้

“เป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองระดับอำเภอ ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ ต้องเป็นผู้นำที่ดีเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมด้วยครับ ไม่ใช่จะไปขอมติกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอตัดต้นไม้สักที่หน้าอำเภอ เอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ไว้ในบ้านพัก กำนันผู้ใหญ่บ้านคนไหนจะกล้าขัดคำขอของผู้บังคับบัญชาล่ะครับ ไม้สักแต่ละต้นข้าราชการและพี่น้องประชาชน ในพื้นที่เค้าร่วมกันปลูกเอาไว้ เพื่อให้สถานที่ราชการมีความร่มเย็น ไม่ใช่คุณเพิ่งย้ายมาเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง จะมาขอมติตัดไม้สักเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องครับ ฝากพี่น้องช่วยกันตรวจสอบด้วยนะครับ ว่าจริงหรือไม่?”

หากไม่ต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็ต้องนับว่านายดาชัย กล่าวถ้อยคำเช่นนั้น เพื่อปกป้องต้นสักที่หน้าอำเภอ ซึ่งเขากล่าวหาว่านายอำเภองาว ตัดเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ในบ้านพัก เป็นบทบาทที่นักการเมืองพึงกระทำ

และยิ่งมีถ้อยคำว่า “จะมาขอมติตัดไม้สักเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องครับ ฝากพี่น้องช่วยกันตรวจสอบด้วยนะครับว่าจริงหรือไม่”

คำว่า “จริงหรือไม่” เป็นการตั้งข้อสงสัย ไม่ใช่การยืนยันข้อเท็จจริง ดังนั้นในทางคดีความ ถ้ามีการสืบพยาน นายดาชัย ก็อาจชนะคดี เพราะเมื่อไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังไม่ได้รับความเสียหาย

แต่ปัญหาคือ เมื่อนายดาชัย กล้าพูดในสิ่งที่เป็นการปกป้องประโยชน์สาธารณะ อันเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมาย ก็ควรยืนหยัดอยู่ในแนวทางนั้น มิใช่เป็นไม้หลักปักเลน ไม่ใช่เป็นละอ่อนทางการเมืองที่พูดแล้วกลับไปกลับมาได้ง่ายๆ

นี่ถึงจะเรียกว่า คนจริง

แต่เมื่อศาลไกล่เกลี่ย ซึ่งไม่น่าจะไกล่เกลี่ยได้ เนื่องเพราะความผิดที่ปรากฏในเฟสบุ๊ค คือความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แม้จะประกอบกับความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่ก็เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ไกล่เกลี่ยไม่ได้ ด้วยเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน

ตัดประเด็นนี้ออกไปก่อน เมื่อศาลไกล่เกลี่ย และจำเลยยอมรับข้อเสนอ ยังไม่ได้แปลว่า ฝ่ายใดชนะคดีแล้ว เมื่อนายดาชัย มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสื่อสารออกไป ก็ต้องยืนยันไม่ยอมรับกระบวนการไกล่เกลี่ย และให้พิสูจน์ความจริงกันไปตามขั้นตอน 

สำคัญว่านายดาชัย กล่าวถ้อยคำเช่นนั้น เพื่อเรียกแขกให้จดจำชื่อดาชัย ในสถานการณ์ที่ปี่กลองการเมือง กำลังจะเริ่มบรรเลงอีกครั้ง ไม่ได้มีเนื้อหาสาระ หรือตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน เช่นนี้ในทางมวย เรียกว่าเสียเชิง

และถ้าเป็นจริงตามนี้ ก็ต้องพูดจาภาษานักเลงกันว่า “เอ็งไม่แน่นี่หว่า”

จะเป็นนักการเมืองคุณภาพ ก็ต้องพยายามขายภาพ ความมีหลักการ ชัดเจน แน่วแน่ ไม่ใช่เป็นเพียงไม้หลักปักเลนเท่านั้น

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1136 วันที่ 7 - 13 กรกฎาคม 2560)
Share:

1 ความคิดเห็น:

  1. คดีหมิ่นประมาทเป็นคดีอาญาที่ยอมความได้ การกล่าวหาว่าทำผิดนั้น ผู้ถูกกล่าวได้รับความเสียหายแล้ว จึงแจ้งความดำเนินคดีได้

    ตอบลบ

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์