วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

ถอดรหัสคดีหวย 30 ล้าน คุกในใจของ‘ครูปรีชา’

จำนวนผู้เข้าชม Counter for tumblr

ม่เกินคาดหมาย ที่ในที่สุดศาลอนุมัติออกหมายจับครูปรีชา ใคร่ครวญ และเจ๊บ้าบิ่น ใน 3 ข้อหาสำคัญ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา (โทษจำคุก 6 เดือน) รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด(โทษจำคุก 3 ปี) และแจ้งข้อความเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย (โทษจำคุก 3 ปี)

รวมโทษจำคุกเกิน 3 ปี สามารถออกหมายจับได้ โดยไม่ต้องออกหมายเรียกก่อน

แต่ที่พลิกไปจากความคาดหมาย เป็นความคาดหมายของสื่อมวลชน ก็คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  ไม่ฟันธงว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเจ้าปัญหา เป็นของใคร

ความเป็นจริงการออกหมายจับครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น  เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ในแง่สังคม คงตีความกันไปได้แล้วว่า สลากกินแบ่งพิพาทเป็นของหมวดจรูญ แต่ในทางคดี ยังชี้ชัดไม่ได้ว่า สลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลที่หนึ่งนั้น เป็นของใคร เนื่องจากยังมีคดีส่วนแพ่งที่ฟ้องแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดกาญจนบุรี  อีกทั้งนี่เป็นเพียงสรุปสำนวนการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน ยังมีขั้นตอนพนักงานอัยการ และศาลอีกยาวนาน

คดีที่ครูปรีชา ฟ้องหมวดจรูญ ฐานละเมิด ลาภมิควรได้ และอายัดเงินจำนวน 25 ล้าน ในบัญชี อยู่ระหว่างการพิจารณาสืบพยาน หากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ยืนยันว่า สลากกินแบ่งเป็นของใคร ก็อาจเป็นการก้าวล่วงเข้าไปในคดีแพ่งได้ ในขณะเดียวกันคดีอาญา ยังมีเส้นทางเดินต่อมิใช่การสอบสวนผู้ต้องหา ส่งให้อัยการ อัยการนำตัวผู้ต้องหาไปฟ้องศาลจะจบในเร็ววัน โดยเฉพาะเมื่อครูปรีชา ยืนกระต่ายขาเดียวมาโดยตลอดว่า เขาจะสู้คดีในศาล และย้ำคำว่า ครูคือเจ้าของสลากตัวจริง

ไม่ว่าจะเป็นการชี้แนะของใครหรือไม่ แต่การที่ครูปรีชา ท่องคาถา “สู้ในศาล” ก็นับว่าเป็นความชาญฉลาดรูปแบบหนึ่ง เพราะเขาสามารถจะอ้างและยืนยันได้ตลอดเวลาว่า สลากกินแบ่งยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นของหมวดจรูญ และแน่นอนในที่สุดเขาจะชนะ ด้วยเหล่าบรรดาดอกเตอร์ ทนายดอ คุณฟ้าพาครูสู่หายนะ  ที่หาเหตุผลต่างๆนานา พูดเท็จกรอกหูครูปรีชา ทุกวัน ทุกวันว่า สลากเป็นของครู จนครูหลงผิด ว่าเรื่องเท็จนั้นเป็นเรื่องจริง

และตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด คือสุดท้ายที่ศาลฎีกา ไม่ว่าจะเป็นคดีส่วนแพ่งหรืออาญา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ปี ครูปรีชาก็สู้คดีไป อ้างไปได้เรื่อยๆว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ อีกไม่นานสังคมนี้ ก็จะมีเรื่องใหม่ๆเข้ามา และเรื่องนี้ก็จะถูกลืมเลือนไป

การสรุปสำนวนคดีว่า ครูปรีชา แจ้งเท็จ ทำให้น้ำหนักของคดียักยอก รับของโจร ที่ตำรวจภูธร จังหวัดกาญจนบุรี เตรียมจะแจ้งข้อหากับหมวดจรูญ สิ้นผลไป และก็เป็นเรื่องที่ครูปรีชา ยืนยันไว้ก่อนหน้านี้ว่า เขาจะฟ้องคดีเอง ถ้าตำรวจไม่ส่งอัยการฟ้อง

จะเป็นคดีที่สาม ที่เกี่ยวกับเรื่องสลากกินแบ่งหาย แต่โอกาสที่จะไปถึงขั้นลงโทษผู้กระทำความผิดนั้น ไม่ง่าย เพราะคดีที่ราษฎรฟ้องเอง  จะต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน คือศาลจะต้องฟังก่อนว่าคดีมีมูล พอที่จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาต่อไปได้หรือไม่  และเมื่อครูปรีชามีข้อหาแจ้งความเท็จเป็นชนักปักหลังอยู่  การจะไปสาบานตน และเบิกความต่อศาลในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในเรื่องที่ไม่เป็นจริง ก็จะเท่ากับเพิ่มข้อหาฟ้องเท็จให้กับตัวเองอีกคดีหนึ่ง

คดีแย่งความเป็นเจ้าของสลากกินแบ่ง รางวัลที่หนึ่ง เพิ่งก้าว ก้าวแรกๆเท่านั้น ยังต่อสู้ ถกเถียงกันได้อีกยาวนาน ไม่ว่าสลากจะเป็นของใคร คนโกหกย่อมรู้อยู่แก่ใจ ผบ.ตร.บอกว่า ถ้าเปรียบเทียบกับเกมกีฬา มีคนแพ้ คนชนะ มีเสมอ แต่เรื่องนี้ไม่มีเสมอ มีแต่คุกเท่านั้น

“หากเปรียบเทียบคดีนี้เป็นกีฬา กีฬาก็ต้องมีแพ้ ชนะและเสมอ แต่คดีนี้มีแพ้และมีชนะ ไม่มีเสมอ มีแต่คนที่จะติดคุก”

ครูปรีชา ยังไม่ติดคุกในวันนี้ แต่คุกในใจจากการหลงเชื่อคนรอบข้าง ก็ทุกข์ทรมานกว่าติดคุกจริงหลายเท่า

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1169 วันที่ 2 - 8 มีนาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์