ตำรวจแม่พริกโชว์จับยาล๊อตใหญ่ซุกตู้ 12 ล้านเม็ด

จำนวนผู้เข้าชม

ตะลึง ยาบ้า 12 ล้านเม็ด ซ่อนรถบรรทุกขนส่งเฟอร์นิเจอร์ ลักลอบขนเข้าภาคกลาง ผ่านด่านแม่พริก ตำรวจเรียกเข้าด่านเอ็กซเรย์ กระทั่งพบวัตถุต้องสงสัย เปิดดูพบกระสอบบรรจุยาบ้าอัดแน่นในตู้เอกสาร คนขับอ้างไม่รู้ว่ามียาบ้า เพียงแต่รับจ้างขนส่งเฟอร์นิเจอร์จากเชียงรายไปส่งอยุธยาเท่านั้น

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 5 มิ.ย.61  ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ได้ตั้งด่านตรวจยาเสพติด บริเวณถนนพหลโยธิน สายลำปาง-ตาก หลักกิโลเมตรที่ 594-595 หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปราบปรามการลักลอบยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ภาคกลาง ได้มีการเรียกตรวจรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6070 เชียงราย ซึ่งเป็นรถบรรทุกเฟอร์นิเจอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ด้านหลังมีคลุมผ้าใบสีดำมิดชิด โดยมีชายขับรถรับจ้างมาเพียงคนเดียว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ขับรถนำเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ เพื่อตรวจสอบภายในรถ ซึ่งปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้พบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เอกสารที่บรรทุกมาด้านหลังรถจำนวนมาก จึงสั่งให้คนขับรถนำรถจอดริมทางเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อเปิดผ้าใบด้านหลังรถ พบตู้เอกสารขนาดสูงประมาณ 1 เมตร วางซ้อนกันอยู่ภายในประมาณ 30 ตู้ และมีโซฟาวางทับซ้อนกันอยู่อีกหลายตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ขนลงจากรถเพื่อทำการตรวจสอบ  โดยภายในตู้เอกสารพบถุงดำอัดแน่นอยู่ด้านในตู้ เปิดดูด้านในมีกระสอบอีกชั้นหนึ่ง ตู้ละ 4 กระสอบ ตรวจนับประมาณการได้กระสอบละ 4 แสนเม็ด  รวมประมาณ 12 ล้านเม็ด  จึงได้คุมตัวชายคนขับรถไว้ทำการสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ  นายสุรศักดิ์ พันธุปาล อายุ 47 ปี เลขที่ 14 หมู่ 6 ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย

เบื้องต้น นายสุรศักดิ์ ให้การว่า  ตนเองเป็นพนักงานขับรถของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ได้รับว่าจ้างจากบริษัทให้ไปรับสินค้า ประเภทเครื่องเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย และให้ไปส่งที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่ทราบว่าภายในตู้เอกสารบรรจุยาบ้าอยู่   ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ สภ.แม่พริก ได้คุมตัวนายสุรศักดิ์ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก ให้การการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการรายนี้ เนื่องจากเป็นการลักลอบขนย้ายยาบ้าล๊อตใหญ่ที่สุดที่เคยจับกุมได้ใน จ.ลำปางเลยก็ว่าได้  หากหลุดรอดไปได้จะมีมูลค่าสูงถึง 1,200 ล้านบาท

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1182 วันที่ 8 - 14 มิถุนายน 2561)