วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หันบ้านให้ถูกทิศ วางผังให้ถูกทาง บ้านไม่ร้อน คนอยู่สบาย

จำนวนผู้เข้าชม IP Address

การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงานนั้น ตองเริ่มต้นจากการวางผังอาคารที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ซึ่งการวางตำแหน่งของตัวบ้านและการจัดวางห้องต่างๆ ให้เหมาะสมจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขและประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้าน การวางผังอาคารที่เหมาะสมมีหลักการออกแบบ ดังนี้

การวางตัวบ้านให้ถูกทิศทางเพื่อลดความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยปกติเส้นทางของดวงอาทิตย์ในบ้านเราจะเริ่มขึ้นจากทิศตะวันออกออมโค้งไปทางทิศใต้และตกทางทิศตะวันตก ดังนั้นทิศใต้และทิศตะวันตกจะเป็นทิศที่ไดรับความร้อนมากที่สุดของวัน ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ 8-9 เดือนต่อปี การวางตำแหน่งห้องภายในบ้านในทิศนี้จึงควรเป็นห้องที่ต้องการความร้อนเช่นให้ห้องน้ำ หรือส่วนซักล้าง ควรหลีกเลี่ยงการวางห้องนอนหรือหองที่ต้องทำกิจกรรมตอนเย็นถึงค่ำ สวนทิศตะวันออกจะไดรับแสงในตอนเช้าถึงเที่ยงซึ่งเป็นแดดที่ไมแรงนักทิศเหนือเป็นทิศที่รับแสงแดดน้อยที่สุด ดังนั้นสองทิศนี้จึงควรวางตำแหน่งของห้องที่ไมตองการความร้อน เช่น หองนอน หองนั่งเล่น เป็นต้น นอกจากนี้ ควรจัดวางด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดด เพื่อให้มีพื้นที่ผนังที่รับแสงแดดน้อยที่สุด เนื่องจากผนังอาคารจะดูดซับความร้อนไวในเวลากลางวันและคายความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ดังนั้นเมื่อมีพื้นที่ผนังที่โดนแสงแดดน้อยจึงดูดกลืนความร้อนในปริมาณน้อยและคายความร้อนออกมาน้อยเช่นกัน ทำให้ภายในบ้านไมร้อนจนเกินไปในเวลากลางคืน

การวางตัวบ้านให้ถูกทิศทางเพื่อใช้ประโยชนจากแสงธรรมชาติ การใช้แสงธรรมชาติจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน แต่ต้องคำนึงถึงความร้อนที่จะมาพรอมกับแสงแดดด้วย ดังนั้นการออกแบบช่องแสงและจัดวางตำแหน่งเพื่อใช้ประโยชนอย่างเต็มที่จากแสงธรรมชาติควรจะเป็นช่องเปิดทางด้านทิศเหนือเนื่องจากมีความคงที่ของแสงตลอดวันและยังไดรับความร้อนจากแสงแดดน้อยที่สุดแทบตลอดทั้งปี ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งห้องที่ใช้งานในเวลากลางวันมากที่สุดอย่างห้องนั่งเล่นจึงควรอยู่ทางทิศเหนือเพราะจะไดรับแสงธรรมชาติอย่างพอเพียงและไมร้อนจนเกินไป

การวางตัวบ้านให้ถูกทิศทางเพื่อใช้ประโยชนจากลมลมประจำฤดูของประเทศไทยจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะ
เป็นลมหนาวในช่วงหน้าหนาว และจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาความชุ่มชื้นจากทะเลในช่วงหน้าร้อนและหน้าฝน ดังนั้นจึงควรวางด้านยาวของบ้านหันเข้าหาทิศทางลมให้ลมธรรมชาติพัดเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อระบายอากาศและความร้อนออกไปให้ไดมากที่สุด การวางตำแหน่งหน้าต่างและประตูเพื่อเป็นช่องทางให้ลมเข้าและออกต้องดูทิศทางของลมเป็นหลัก และตำแหน่งของหน้าต่างที่เยื้องกันจะช่วยบังคับทิศทางให้ลมไหลผ่านห้องต่างๆ ไดทั่วถึงทั้งห้อง ทำให้ภายในบ้านเย็นสบายและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศได

นอกจากนี้ ในสวนของหองครัวแบบไทยที่มีเครื่องใชไฟฟาหลายชนิด เชน กาตมน้ํา ตูเย็นรวมถึงเตาหุงตม ซึ่งเปนแหลงกําเนิดความรอนและถายเทความรอนสูพื้นที่ขางเคียงได ควรวางหองครัวแยกออกจากตัวบานหรือหากตองอยูภายในบานก็ควรจะมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความรอนที่จะเขาสูตัวบานสวนอื่นอีกทางหนึ่ง

หากเราไมสามารถวางผังทิศทางตัวบานไดอยางเหมาะสมก็สามารถแกไขไดโดยการปรับสภาพแวดลอมชวยลดความรอนที่จะเขาสูตัวบาน เชน การปลูกตนไมใหญใหรมเงา และผูอยูอาศัยอาจจะตองปรับพฤติกรรมของตนเองบาง ก็จะชวยใหบานอยูสบาย ประหยัดคาใชจาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1185 วันที่ 29 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์