วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

'ดิเรก'อุทธรณ์ สู้คดี ม.157 ผู้ใหญ่บ้านเครียด นอนคุก 1 คืน โอดโทษหนัก

จำนวนผู้เข้าชม

อดีตผู้ว่าฯดิเรก พร้อมจำเลยคดีละเว้นสร้างอ่างเก็บน้ำ อ.แม่เมาะ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาล หลังถูกตัดสินจำคุกไม่รอลงอาญา ด้านนายก อบต.จางเหนือ เผยเป็นโทษหนักมากทั้งที่ทำเพื่อประชาชน ส่วนผู้ใหญ่บ้านจำปุยน้ำตาตก ต้องติดคุก 1 วันเพราะไม่มีหลักทรัพย์ประกันตัว เคยเครียดหนักจนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เพราะลูกเมียจึงคิดได้ ขณะที่รองผู้ว่าฯเตรียมหารือขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาล เพื่อขอใช้ประโยชน์อ่างเก็บน้ำ

            -ศาลสั่งจำคุกไม่ลงอาญา
จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.ค.61 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมพวกรวม 14 คน จำคุกโดยไม่รอลงอาญา ในคดีละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ กิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้

            -ดิเรก โดน 16 ปี
โดยนายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าฯ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ อดีตนายอำเภอแม่เมาะ และ นายประสาน ฝ่ายคำมี อดีตปลัดอำเภอแม่เมาะ เป็นผู้ก่อให้เกิดการกระทำความผิด และอยู่ในฐานะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  ถูกศาลตัดสินลงโทษคนละ 4 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำนวน 16

        
           -ป่าไม้โดน 6 ปี
นายถนอม โพธิ์วิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 38 (ท่าสี)  นายอำนวย ศรีบุญชู เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และนายธนชาติ มังกิตะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง  เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดโดยตรง พบการกระทำความผิดแล้วละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  มีความผิดคนละ 2 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 6 ปี 

-นายก-ผญบ.โดน 1 ปี 4 เดือน
นายสว่าง จาคำมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจางเหนือ  นายพิสิฐ ทักษิณาพิมุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสัก  นายมนตรี จำปาคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กำนันตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ  นายปรีดา ผลดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ นายคำเภา บุญมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ  นายวินัย ตันใจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ และนายวิช อินจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง  เป็นผู้บริหารส่วนท้องถิ่นและผู้ปกครองท้องถิ่นระดับล่างพบการกระทำความผิดแล้วละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เห็นสมควรลงโทษตามสภาพความผิดและพฤติการณ์แห่งคดี มีความผิดคนละ 1 กระทง ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี แต่คำรับของจำเลยที่ 10 ถึง 14 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 10 ถึง 14 คนละ 1 ปี 4 เดือน  ซึ่งหลังจากทราบผลการพิพากษาทั้งหมดได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัว และอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาล รวมถึงอดีตผู้ว่าฯ ดิเรก ก้อนกลีบ ด้วย

            -เสียใจโดนโทษหนัก
นายสว่าง จาคำมา นายก อบต.จางเหนือ  เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลติดสินไม่รอลงอาญาเลย คิดว่าเป็นโทษที่หนักพอสมควร ตอนนี้อยู่ระหว่างคัดสำเนาที่ศาล มอบหมายให้ทนายดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ส่วนกับทางอดีตผู้ว่าฯดิเรกนั้นไม่ได้คุยกัน และไม่เคยติดต่อกันเลย 

ตอนที่มีการอนุมัติโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำนั้น ตนทราบว่ากำลังยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่ป่า แต่ได้รับอนุญาตหรือไม่นั้นตนไม่ทราบตรงนี้ เพราะเป็นโครงการของผู้ใหญ่ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนรอบโรงไฟฟ้า โดยมีผู้ว่าฯดิเรกเป็นผู้อนุมัติดำเนินโครงการ ซึ่งเราเพียงแต่ทำตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งมา ตนไม่ได้มีการเซ็นเอกสาร ไม่ได้ตรวจรับ ไม่มีสัญญาจ้าง ไม่ได้ดำเนินการอะไรที่ อบต.เลยทั้งสิ้น เพียงแต่ได้เข้าไปดูสถานที่กับป่าไม้ เพราะพื้นที่อยู่ในเขตของ ต.จางเหนือ  แต่มาโดนฟ้องร่วมด้วยในฐานะที่เป็นนายก อบต.โดยตำแหน่ง   ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง นายก อบต.จางเหนือ ทำงานตามปกติเพราะคดียังไม่สิ้นสุด  บางครั้งก็เครียดบ้าง เราทำเพื่อประชาชนไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว แต่กลับมาโดนแบบนี้ คดีที่หนักหนากว่านี้ยังมีอีกมากมาย เสียใจที่ต้องมาเจอคดีนี้และมีการตัดสินจำคุกแบบไม่รอลงอาญาเลย  และอ่างเก็บน้ำที่สร้างมานั้นก็มีการใช้ประโยชน์กับชาวบ้าน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มาก เวลาจะทำนาชาวบ้านก็ใช้น้ำจากส่วนนี้ ไม่คิดว่าจะได้รับโทษหนักเช่นนี้

ด้านนายปรีชา ผลดี  ผู้ใหญ่บ้านจำปุย หมู่ 4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ กล่าวว่า เหตุที่ตนโดนร่วมฟ้องด้วย เพราะเป็นผู้เสนอโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ทู ทำการประชาคมให้กับ อบต.  เป็นนโยบายของผู้ว่าฯเรื่องอ่างเก็บน้ำ โดย อบต.เป็นผู้ออกตรวจสอบพื้นที่ และทราบว่าให้ผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่เป็นคู่สัญญาจ้างก็ทำตามเพราะเป็นคำสั่ง ในตอนนั้นรู้ว่าเป็นพื้นที่ของป่าไม้ นายก อบต.ในสมัยนั้นได้ยื่นขอใช้พื้นที่ แต่ไม่เคยทราบรายละเอียดว่าขอแบบไหน ผ่านการอนุญาตหรือไม่  ตัวเองก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์

พอมารู้อีกทีในปี 51 โดนทาง ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งก็ตอบไปตามความเป็นจริงว่าตนไม่ทราบ เรื่องได้เงียบไปพักใหญ่ กระทั่งมาโดนฟ้องศาลและมีคำพิพากษาออกมา

 -เคยคิดฆ่าตัวตาย
ที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตอะไรเลย แต่กลับมาต้องโดนคดีนี้ ทำเอาน้ำตาตกใน คิดถึงคนที่บ้านว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง คิดอะไรไปมากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ตอนเป็นคดีเคยเครียดมากจนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่กลับคิดถึงลูกเมียจึงไม่ทำ  นายปรีชา กล่าว

-ติดคุกไม่มีเงินประกัน
ผู้ใหญ่บ้านจำปุย กล่าวอีกว่า  ในวันขึ้นศาลได้พบกับอดีตผู้ว่าฯดิเรก แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน ต่างคนต่างอยู่ เพราะรู้สึกอึดอัดไม่รู้จะพูดคุยอย่างไร คงคิดว่าต่างคนก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน พอศาลอ่านคำพิพากษาก็แทบทรุด วันนั้นต้องอยู่ในคุกถึง  1 คืน กับอีกครึ่งค่อนวันกับผู้ใหญ่บ้านอีก 2 คน  เพราะหลักทรัพย์ไม่มีเลย ต้องหาเงินมาประกันตัว  3 แสนบาท   ส่วนเรื่องการอุทธรณ์นั้น ตนเองไม่ได้มีทนายส่วนตัวเพราะไม่มีเงินจ้าง จึงขอความช่วยเหลือใช้ทนายร่วมกันทางอดีตผู้ว่าฯ ซึ่งทนายจะทำเรื่องอุทธรณ์ให้    สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ก็ต้องการจะช่วยเหลือจะมายืนยันให้ เพราะในพื้นที่ได้รับประโยชน์จริง ชาวบ้านต้องการอ่างเก็บน้ำกันมานานแล้ว ช่วยเหลือได้ถึง 4 หมู่บ้าน  ทางรองผู้ว่าฯศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์  ก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือในการใช้ประโยชน์ แต่ทำอะไรไม่ได้มากเพราะติดคดีอยู่


-รองผู้ว่าฯหาทางใช้น้ำ
ขณะที่นายศรีโรจน์  นิมมานพัชรินทร์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า  ตนได้เข้าไปดูอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง เพื่อจะนำน้ำมาใช้ประโยชน์เมื่อประมาณเดือน เม.ย.61  ตอนนั้นเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการพิพากษาคดีจึงได้ชะลอเรื่องไว้ก่อน  ซึ่งต้องขอไปที่ศาลเพื่อคุ้มครองในการนำน้ำมาใช้ประโยชน์  ถ้านำน้ำออกมาใช้ได้ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะจะตอบได้เลยว่าสร้างอ่างแล้วประชาชนได้ประโยชน์จริง อาจจะผ่อนจากหนักเป็นเบาลงไปได้บ้าง

-เล็งยื่นศาลขอคุ้มครอง
ปัจจุบันนี้ทราบว่า ชาวบ้านได้ใช้ในส่วนของที่ล้นสปริงเวย์ออกมา แต่ในส่วนที่เป็นระบบระบายน้ำของอ่างที่เป็นท่ออยู่ด้านล่างยังไม่มีการเปิดมาใช้ เพราะถือว่าเป็นของกลางของคดี เท่าที่ไปดูพื้นที่เห็นว่าอ่างเก็บน้ำก็ยังเก็บกักน้ำได้ทั้งหมด  แต่บางอ่างตัวประตูเปิดปิดน้ำอาจจะชำรุด เนื่องจากไม่ได้งานมานาน หากคดีสิ้นสุดนำอ่างมาใช้ประโยชน์ได้ก็จะต้องเข้าไปซ่อมแซมประตูเปิดปิดน้ำ ถ้าไม่ซ่อมต้องรอน้ำล้นสปริงเวย์อย่างเดียวจึงจะใช้น้ำได้  ซึ่งทางกรมป่าไม้เป็นผู้ดูแลอ่างพวกนี้อยู่  ดังนั้นจึงต้องขอความคุ้มครองชั่วคราวเพื่อนำน้ำมาใช้ ตอนนี้ศาลชั้นต้นตัดสินคดีแล้ว น่าจะทราบถึงรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ในขั้นอุทธรณ์ และฎีกา ก็เป็นตามขั้นตอนต่อไป   เพราะฉะนั้นในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงต่อไปข้างหน้า ถ้าสามารถนำน้ำมาให้ชาวบ้านใช้ได้ก็เป็นผลดี โดยการยื่นเรื่องเข้าไปในพื้นที่ต้องเป็นผู้ดำเนินการ เช่น ทางอำเภอแม่เมาะ  อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการปรึกษากันในส่วนของผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง  รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าว

-ของบกองทุนสร้าง 4 อ่าง
เรื่องเดิม เนื่องจากในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนฯ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2551 และวันที่ 29 เม.ย. 2551 ที่ประชุมได้อนุมัติโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจำนวน 4 แห่ง ที่อยู่ในเขต อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ประกอบด้วย 1)โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วลมข้าวหลาม ห้วยแม่แป้น บ้านกอรวก ม.3 ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนายวินัย ตันใจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ เป็นผู้เสนอโครงการ วงเงิน 30,000,000 บาท  2)โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำปงชัย บ้านปงชัย ม.5 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนายคำเภา บุญมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ เป็นผู้เสนอโครงการ วงเงิน 22,641,600 บาท  3)โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ทู บ้านจำปุย ม.4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนายปรีดา ผลดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะเป็นผู้เสนอโครงการ  วงเงิน 21,000,000 บาท  4)โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่หล่วง บ้านแม่หล่วง ม.7 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนายยืน มูลทา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้เสนอโครงการ ในวงเงิน 35,000,000 บาท ต่อมา ผู้รับจ้างก่อสร้าง เข้าดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บ โดยที่กรมป่าไม้ยังไม่ได้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

-โดนร้อง ป.ป.ช.
จนกระทั่ง เมื่อเดือนมีนาคม 2551 ได้มีการยื่นร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.ว่า คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจังหวัดลำปาง ซึ่งมีนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นเป็นประธาน  มีนายธานินทร์ สุภาแสน  ปลัดจังหวัดในขณะนั้นเป็นรองประธาน  และนายเสริมศักดิ์ สีสัน นายอำเภอแม่เมาะในขณะนั้นเป็นกรรมการและเหรัญญิก  ได้มีการพิจารณาอนุมัติงบประมาณและทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมป่าไม้ และก่อสร้างโดยการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน  ป.ป.ช.จึงได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบว่าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม ทางจังหวัดได้ยื่นขออนุญาตไปยังกรมป่าไม้แล้ว แต่ได้ทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำก่อนที่จะได้รับการอนุญาต ทำให้พื้นที่ป่าไม้เสียหายเป็นเงิน 3.9 ล้านบาท ในส่วนของอ่างเก็บน้ำปงชัยพบว่าไม่ได้ยื่นขออนุญาต ซึ่งพบความเสียหายของสภาพป่าเป็นเงิน 1.3 ล้านบาทเศษ  ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง ได้ยื่นคำขอแล้วแต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต    ราคาความเสียหายของสภาพป่าจำนวน 2.3 ล้านบาท และ 3.2 ล้านบาทเศษตามลำดับ  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการตรวจยึดอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง  และทาง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทางวินัยฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต  กระทั่งนำมาสู่การยืนฟ้องศาล และมีคำพิพากษาจำคุกทั้ง 14 คนโดยไม่รอลงอาญาดังกล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1187 วันที่ 13 - 19 กรกฎาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์