หัวใจร่ำไห้ ในรอยยิ้มถ้ำหลวง คารวะอาลัย จ่าสมาน กุนัน

จำนวนผู้เข้าชม

ในเวลาที่ทุกใบหน้า แย้มยิ้มยินดี กับภารกิจกู้ชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย เป็นผลสำเร็จ แต่อีกมุมหนึ่งกลับนองน้ำตา ร่ำไห้กับคนรักที่จากไป คำยกย่อง เชิดชู การประกาศวีรกรรม คำเรียกขานว่า เขาคือวีรบุรุษถ้ำหลวง ไม่อาจทำให้ชีวิตนี้กลับคืนมาได้

วลีพร กุนัน โพสต์ ไอจี หลังจากช่วยชีวิต เจ้าหมูป่า ออกมาได้ครบทุกคนแล้ว

“ใกล้แล้วนะ..ใกล้จะจบภารกิจแล้วนะ….เด็กๆ กำลังจะกลับบ้านกันทุกคนแล้ว…ตามไปดูแลน้องด้วยนะที่โรงบาล…..ให้ปลอดภัยทุกคนนะ….”

นั่นคือความตั้งใจของจ่าเอกสมาน กุนันหรือจ่าแซม  วัย 38 ปี ที่ต้องการช่วยทั้ง 13 หมูป่า ออกมาจากถ้ำหลวงให้ได้ หากภารกิจนั้นไม่สำเร็จ เขาก็จะไม่กลับ แต่ก่อนนาทีแห่งความปลาบปลื้มยินดีจะมาถึง เขาก็กลับออกไปก่อนในร่างที่ห่มคลุมด้วยผ้าขาว กลายเป็นชีวิตหนึ่งที่แลกมาด้วยอีก 13 ชีวิต

วลีพร กุนัน ภรรยาจ่าแซม และจ่าแซม ยังอยู่ในช่วงชีวิต ที่พวกเขากำลังก่อร่างสร้างตัว มีความฝันที่จะร่วมถักทอด้วยกันอีกยาวไกล เขาทั้งสองมีหัวใจที่ผูกพันกัน จนขนาดที่เคยบอกกันไว้ว่า คนสองคนเสมือนมีลมหายใจเดียวกัน แต่วันนี้ลมหายใจหนึ่งได้ดับลงแล้ว

“เธอจะอยู่กับฉันตลอดไปไม่มีใครเหมือนเธอ ถ้าไม่มีเธอฉันก็ไม่อยากหายใจ เพราะเราสัญญาแล้วจะใช้ลมหายใจเดียวกัน”

วลีพร โพสต์ความในใจในไอจี อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีใครที่รู้จักจ่าแซม แล้วจะจดจำเขาไม่ได้ ด้วยความสามารถ ด้วยบุคลิกลักษณะที่น่าคบหา แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยรู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ยังส่งข้อความไว้อาลัยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ระดับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งถึงระดับชาวบ้านเดินดิน 

อดัม แบรดชอว์ พิธีกรและครูสอนภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความอาลัยผ่านทวิตเตอร์  @AjarnAdam ว่า

"ผมเคยมีโอกาสได้ทำงานกับ จ่าเอกสมาน สมัยที่ผมเคยรับงาน MC ตามงานกีฬามาราธอนต่าง ๆ พี่เค้าเก่งสุดๆ และเป็นแชมป์หลายครั้งแต่ก็ยังติดดิน ถ่อมตน และเป็นมิตรมากครับ ดีใจที่ได้รู้จักพี่เค้า ขอบคุณที่ช่วยในภารกิจของถ้ำหลวงนี้นะครับ ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ จ่าเอกสมาน กุนัน RIP"

จ่าเอกสมาน กุนัน อายุ   จบหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีล รุ่นที่ 30  ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ทีมหมูป่า 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวง การท่าอากาศยาน ได้ส่งตัว จ่าเอกสมาน เดินทางมาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือหน่วยซีล 

เขารับภารกิจวันที่ 5 ก.ค. 61 ให้ลำเลียงขวดอากาศ จากโถง 3 ไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยกภายในถ้ำหลวง เริ่มดำน้ำเมื่อเวลา 20.37 น. เมื่อเสร็จภารกิจ ขณะดำน้ำกลับได้หมดสติในน้ำ คู่ดำน้ำ ได้ทำการปฐมพยาบาล (CPR) แต่ไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถง 3 เพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ จ่าเอกสมาน ก็ไม่ได้สติและเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 

01.00 น.

“ม้าสีหมอก” คนนอกถ้ำ ขอคารวะหัวใจนักสู้ผู้เสียสละ นามจ่าแซมท่านนี้ และหากรัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ต่อยอดจากแบรนด์ถ้ำหลวงที่คนทั่วโลกรู้จัก  “ม้าสีหมอก” ฝันที่จะเห็นอนุสาวรีย์คนกล้า จ่าแซม ยืนเฝ้าปากถ้ำหลวง ไม่ต่างไปจากอนุสาวรีย์สืบ นาคะเสถียร ที่ยืนเฝ้าป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง

จ่าแซม ไม่ได้เป็นทหารประจำการ ดังนั้น เขาจึงอาจเป็นนักรบที่ไร้เหรียญตรา ไม่มีการอวยยศให้สูงขึ้นด้วยติดขัดระเบียบราชการ แต่เกียรติยศและความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งคนลำปาง ที่มีต่อความวีระ กล้าหาญ ของเขา คงติดตรึงอยู่ในใจตลอดไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1187 วันที่ 13 - 19 กรกฎาคม 2561)