วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แตะไม่ได้ ไปเล่นข้างนอก!

จำนวนผู้เข้าชม web counter

านปีแล้ว ที่คนไทย คุ้นชินกับภาพนายกรัฐมนตรี ออกอาการกราดเกรี้ยว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  กับเรื่องบางเรื่องที่ไม่พึงพอใจ หรือกับคนบางกลุ่มที่เขามีทัศนคติเป็นลบ โดยเฉพาะสื่อมวลชน  ที่กลายเป็นพื้นที่ระบายอารมณ์ทุกครั้งไป จนดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาเรื่องหนึ่ง

แน่นอนว่า ปุถุชน คือคนธรรมดาสามัญทั่วไป ย่อมมีรัก โลภ โกรธ หลง การแสดงความโกรธ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เมื่อมีเรื่องมากระทบจิตใจ แต่สำหรับคนที่เป็นผู้นำ เป็นบุคคลที่ควรเป็นต้นแบบของสังคม เป็นบุคคลสาธารณะ สมควรที่จะต้องมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ เหนือกว่าคนทั่วไปหรือไม่
สถานะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ “บุคคลสาธารณะ” ที่ได้รับการยกย่อง เชิดชู มีสถานะ ตำแหน่ง มีอำนาจ มีผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ด้วยบทบาทหน้าที่บนพื้นที่สาธารณะ ดังนั้น ควรทำความเข้าใจเรื่องบุคคลสาธารณะให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บุคคลสาธารณะ หรือ Public  Figure จะต้องยกเว้นการสังเกต เฝ้ามอง วิพากษ์วิจารณ์โดยสื่อมวลชน ที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และได้รับความคุ้มครองในความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าคนทั่วไป กรณีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือบุคคลสาธารณะในความหมายนี้

แน่นอนว่า แม้เป็นบุคคลสาธารณะ ที่ยกเว้นการพูดถึง วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีสิทธิที่จะไม่พูด หรือเลือกวิธีการที่แสดงถึงภาวะผู้นำที่นุ่มนวล สุขุม เช่นในยุคของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อถูกสื่อรุกไล่หนักๆ พล.อ.เปรม ก็จะยิ้มน้อยๆ และกล่าวว่า “กลับบ้านเถอะลูก  ส่วนนายชวน หลีกภัย ครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ใช้คำตอบนิ่มๆตามสไตล์ของเขาว่า “ยังไม่ได้รับรายงาน”

น่าเสียดาย ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่วางบทบาท บุคลิกลักษณะ ความเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ดุดัน กราดเกรี้ยว เอาไว้ และเปิดใจกว้างที่จะเรียนรู้ ศึกษาบทบาทความเป็นผู้นำในระดับประเทศ มิใช่เพียงหน่วยงานรัฐ หน่วยงานหนึ่งเท่านั้น และยิ่งน่ากังวลห่วงใย สำหรับบรรดากลุ่มคน หรือพรรคการเมือง ที่แสดงเจตนารมณ์ ในการสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป เป็นจุดอ่อน และคำถามในเวลาเดียวกันว่า นี่คือบุคลิกภาพของผู้นำในวิถีประชาธิปไตยที่ควรเป็นหรือไม่

เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ด้วยความไม่พอใจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกรัฐมนตรี พูดจบ ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวถึงกับงุนงง แล้วจึงหันมาพูดทำนองบ่นๆกับเพื่อนผู้สื่อข่าวเสียงดังไปเข้าหูนายกฯว่าต่อปากต่อคำก็ไม่ได้”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงขนาดออกปากไล่ผู้สื่อข่าวออกไปจากทำเนียบรัฐบาล

หากเราไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ และยอมรับว่านั่นเป็นบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร เราจะยอมรับในตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ เช่นนี้ ในตำแหน่งผู้นำประเทศต่อไปหรือไม่ เมื่อเทียบกับคุณความดีของเขา ที่ทำให้บ้านเมืองดูเหมือนมีความสงบเรียบร้อย ไม่ขัดแย้งรุนแรงในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีสิทธิเต็มที่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง ในการปกป้องตนเอง เช่นที่เขาขู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทสื่อที่บิดเบือน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง นี่เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อกำราบสื่อที่ไม่มีความรับผิดชอบ แต่มิใช่การแสดงออกด้วยภาวะอารมณ์ อย่างเลื่อนเปื้อน เลอะเทอะ ดูไม่สง่างาม ไม่สมฐานะความเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1194 วันที่ 31 สิงหาคม - 6 กันยายน 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์