วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

พลิกผืนนาทำบ่อกุ้งก้ามกราม เกษตรกรเลือดใหม่ขายราคาดี

จำนวนผู้เข้าชม

เกษตรกรรุ่นใหม่สุดเจ๋งหันหลังให้การเป็นลูกจ้าง เปลี่ยนแปลงนาเป็นบ่อกุ้งก้ามกราม ขายในชุมชนได้ราคาดี กิโลละ 400 บาท วางเป้าขยายการผลิตเชื่อมโยงรายได้หมุนเวียนในชุมชนในอนาคต

ภาพกุ้งก้ามกรามตัวเขื่อง ยังอายุรุ่นๆรอวันโตเต็มที่พร้อมขาย ในมือของหนุ่มน้อยผู้เป็นเจ้าของ ที่เขาช้อนขึ้นจากบ่อเลี้ยงให้หมู่คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ทรงพล สวาสดิ์ธรรม และคณะเกษตร ประมง รวมถึงผู้นำเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ไปเยี่ยมชมบ่อกุ้งของเขา สร้างความตื่นเต้นแก่คณะที่มาเยือนมากเป็นพิเศษ เพราะ เจ้าของบ่อกุ้งก้ามกรามแห่งนี้อาจจะเป็น เกษตรกรที่อายุน้อยที่สุดในลำปางเลยก็ว่าได้

กันต์นัฏฐากรณ์ด่านตระกูลเกษตรกรรุ่นใหม่วัย 26 ปี เล่าว่า หลังจากที่เขาจบการศึกษาสาขาประมง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ได้เข้าทำงานเป็นนักวิชาการประมงในบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ 2 ปี ก็หันหลังให้การทำงานประจำวางแผนกลับมาเป็นเกษตรกรที่บ้านตัวเอง บ้านแหงใต้ ต.บ้านแหง อ.งาวด้วยความถนัดด้านการประมง กันต์มองหาโอกาสจากอาชีพที่ลงทุนน้อย แต่สร้างรายได้สูง ไม่ยุ่งยากต่อการดูแลบริหารจัดการ เลี้ยงกุ้งก้ามกรามจึงเป็นคำตอบที่เขาเลือก เนื่องจากขายได้ราคา และไม่มีคู่แข่งในพื้นที่ โดยเริ่มจากทุน 2 แสนบาท ปรับแปลงนาของครอบครัวที่มีอยู่ ขุดเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งขนาด บ่อละ 1 ไร่ ลึก 6 เมตร จำนวน 2 บ่อ และ บ่อพักผันน้ำเข้าในบ่อเลี้ยงกุ้งอีก 1 บ่อ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการน้ำ โดยไม่พึ่งพาแหล่งน้ำจากภายนอก รวมถึงทำแนวคันดินกั้นน้ำ เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนจากปุ๋ยในนาข้าวรอบๆนั้นเข้าถึงบ่อเลี้ยงกุ้ง และเมื่อบ่อเลี้ยงเสร็จสมบูรณ์รอถึงฤดูฝน ก็ซื้อพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงบ่อ ดูแลให้อาหารตามหลักประมงคุณภาพ ส่งผลให้เขาสามารถนำกุ้งขึ้นขายได้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือน

ครอบครัวผมมีที่ดิน 12 ไร่ ผมแบ่งพื้นที่มา 3 ไร่ ทำบ่อเลี้ยงเพียงแค่ 2 บ่อในระยะเริ่มต้น ปล่อยกุ้งลงบ่อละ 15,000 ตัวต่อไร่ รวม2 บ่อมี 30,000 ตัว น้ำหนักตัวที่พร้อมขาย 25 ตัวต่อกิโลกรัม รวมๆแล้วในระยะเวลา 4 เดือน ขายได้ประมาณ 400 กิโลกรัม ส่วนบ่อพักน้ำอีก 1 บ่อ วางแผนจะเลี้ยงปลากะพงน้ำจืด ในกระชัง เพราะปลากะพงมีความต้องการทางตลาดสูง ราคาดี รวมถึงกุ้งฝอยน้ำจืดก็เลี้ยงร่วมกันได้ ในปีหน้าผมมีแผนจะขยายบ่อเพิ่ม และยังจะเชื่อมโยงกับคนในท้องถิ่นที่สนใจ สร้างรายได้จากการเลี้ยงกุ้งซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเยี่ยมชมแล้วขอให้ทางประมงจังหวัดเข้ามาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมครับ

แม้กุ้งก้ามกรามจะเป็นสินค้าที่หายากและไม่มีคู่แข่งในระดับพื้นที่แต่ในด้านการตลาด กันต์กลับมองว่า เขามีเป้าหมายตลาดขายปลีกภายในท้องถิ่นมากกว่าการขายเข้าตลาดผ่านพ่อค้าคนกลางซึ่งได้ราคาต่ำ การนำกุ้งออกขายล็อตแรก100 กิโลกรัม ทำราคาได้กิโลกรัมละ 400 บาท แต่หากขายผ่านพ่อค้าคนกลางราคาลงไปเหลือเพียงกิโลกรัมละ300 บาท เขาจึงยืนหยัดแนวทางขายปลีกในตลาดท้องถิ่น ตามวิถีพอเพียงให้สมดุลกับปริมาณผลผลิตที่มี หมุนเวียนไปก่อนจะเพิ่มจำนวนบ่อในปีหน้า

แนวทางเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของ กันต์ไม่เพียงแต่เป็นอาชีพที่น่าสนใจ แต่นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของเกษตรกรรุ่นใหม่รายเล็กๆ ลงทุนน้อย คืนทุนเร็ว มีแนวทางตลาดของตัวเองแบบวัยรุ่นสร้างตัวที่ต้องยกนิ้วชื่นชม เป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายคนลุกขึ้นมาเป็นเจ้านายตัวเอง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1194 วันที่ 31 สิงหาคม - 6 กันยายน 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์