วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมาล่าเนื้อ ชื่อสตริงเกอร์

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

มรสุมธุรกิจของสื่อกระแสหลัก มิเพียงกระทบต่อภายในองค์กรเท่านั้นหากคนข่าว ที่ฝากชีวิตไว้ด้วยค่าข่าว ที่เรียกว่า สตริงเกอร์ ก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

“จอกอ” อยู่ในงานข่าวนานหลายสิบปี  อยู่กับข่าว  ทำข่าว เขียนข่าว จัดหน้าข่าว ให้หัวข่าว และรับข่าวจนคอแทบจะติดกับบ่า เพราะต้องเอียงหูติดโทรศัพท์ เอาบ่าประคองไว้ นิ้วก็พิมพ์ข่าวไปตามเสียงนักข่าวที่ส่งมาตามสายนานนับชั่วโมง  ในยุคที่โรงพิมพ์ยังต้องรอข่าวจากนักข่าว  ไม่มีข่าววิ่งมาชน หรือมีข่าวเหมือนข้าวในนา รอให้เก็บเกี่ยวได้สบายๆในโลกออนไลน์ เช่นวันนี้

ข่าวจากต่างจังหวัด ในชนบทที่ห่างไกล นับว่าสำคัญมาก แม้กระทั่งปัจจุบัน

ข่าวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่มีนักข่าวประจำ เหมือนนักข่าวส่วนกลาง ก็ยังต้องพึ่งพานักข่าวต่างจังหวัด หรือนักข่าวบ้านนอก เป็นคนส่งข่าว ส่งภาพให้ ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวมาใช้ในทีวีดิจิตอล ในยุคที่สื่อหนังสือพิมพ์ขยายงานไปยังสื่อกระจายเสียงและภาพ แต่ไม่ได้ขยายค่าตอบแทนให้คนทำข่าวมากนัก

บทบาทเหล่านี้ ย่อมเป็นบทบาทของนักข่าวต่างจังหวัด หรือที่เรียกกันว่า สตริงเกอร์ (stringer) พวกเขาคือลมหายใจของสื่อส่วนกลาง ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก น้ำท่วม ฝนแล้ง ใกล้ ไกล แค่ไหน ถ้าสั่งมา ย่อมได้

“จอกอ” มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนข่าวต่างจังหวัด ทั้งที่เป็นเจ้าของ เป็นนักข่าว เป็นสตริงเกอร์ ในหลายโอกาสและหลายวาระ บทบาทหนึ่งคือบรรณาธิการศูนย์ปฏิบัติการข่าวเครือเนชั่น ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในสายงานข่าวต่างจังหวัดในช่วงเวลาหนึ่ง  อีกบทบาทคือประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่องค์กรสมาชิกกระจายอยู่เกือบทั่วประเทศ

และ”จอกอ” มักใช้เวลาในวันหยุด ไปเยี่ยมยามถามข่าวอยู่เสมอ 

ภาพในใจของสังคมที่มีต่อคนข่าวต่างจังหวัด คือคนข่าวที่ไม่ค่อยซื่อตรงต่อหลักการ ใช้ความเป็นนักข่าวไปทำมาหากิน ไปสร้างความเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ บางกรณีก็เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ที่ออกหนังสือพิมพ์รายสะดวก รายวันเฉลิม เพื่อไปรีดไถเงินชาวบ้าน  ห้างร้าน หน่วยราชการต่างๆ

ภาพเช่นนี้ เป็นการมองด้วยความมีอคติ และเชื่อตามๆกันมา โดยไม่ได้ใส่ใจความเป็นจริง เหมือนกับอีกหลายๆเรื่องในสังคมไทย แน่นอนว่าอาจมีความจริงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นความจริงที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของความเป็นกรุงเทพหรือต่างจังหวัด เพราะคนข่าวในเมืองใหญ่ ก็เลวร้ายไม่ต่างกัน 37 ปี ของการเป็นคนข่าวเมืองกรุง คนข่าวรุ่นใหญ่บางคนที่สังคมนับหน้าถือตา  นี่กลับเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายที่หลายคนมองไม่เห็น และหนึ่งในหลายๆเรื่องที่บอกความเป็นคนข่าวที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบผู้คน คือสิ่งที่เขาทำกับนักข่าวต่างจังหวัด หรือสตริงเกอร์

ในชั่วโมงเร่งด่วน ก่อนปิดข่าว คำสั่งจากบก.ส่วนกลาง หรือ บก.ภูมิภาค ให้สตริงเกอร์ ตามข่าว ส่งภาพ ส่งเรื่องที่เขาต้องการ หรือที่เป็นนโยบายให้พวกเขาทำส่งให้ โดยที่ไม่ได้ใส่ใจมากนักว่า วิธีการทำข่าว วิธีการได้มาซึ่งภาพและข่าวในต่างจังหวัดนั้น  หลายครั้งที่ต้องเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายสูง

บ่อยครั้ง ที่รายจ่ายจากข่าวชิ้นหนึ่งนับพัน แต่รายได้จากบริษัททำสื่อที่ทำตัวโอ่อ่าในสังคม คือชิ้นละ 200 บาท หรือที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้น คือทำข่าวแทบตาย แต่ไม่ได้ลงพิมพ์  ไม่ได้ออกอากาศ ค่าตอบแทนคือศูนย์

ถ้าสตริงเกอร์ทั้งประเทศ ประท้วงไม่ยอมทำข่าว ไม่ยอมส่งข่าวให้องค์กรสื่อที่กดขี่ เอาเปรียบพวกเขา ก็คงส่งผลสะเทือนไม่น้อยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้

พวกเขาอาจไม่มีความหมายมากนัก เมื่อแก่ตัวลง ส่งข่าวน้อยลง ความสามารถในการรับคำสั่งไปทำข่าวให้ได้ตามความต้องการของส่วนกลางลดลง

ในที่สุด ก็ถูกปลดระวาง กลายเป็นหมาล่าเนื้อที่สิ้นเขี้ยวเล็บ ไม่ต่างจากหมาล่าเนื้อเมืองกรุง


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์