สังคมดาวแปดแฉก ประจำฉบับที่ 1200 วันที่ 12-18 ตุลาคม 2561

จำนวนผู้เข้าชม

ลูกโม่.38 เข้าเวรตามปกติ  *************** การอุ้มชูคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นการดูถูกประชาชนและไม่เป็นประชาธิปไตย และผู้ชอบเดินผิดหลัก  จุดจบต้องมีอันเป็นไปทุกราย *************** พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบนโยบายให้กับ รอง ผบ.ตร.-ผบก.485 นาย เน้นย้ำ 6 นโยบายหลักต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นภารกิจสำคัญสูงสุดที่พลาดไม่ได้ *************** คำสั่งของการบริหารราชการ สนง.ตร.แห่งชาติ ประจำงบประมาณ 2562 จากภายใต้แนวคิด ต้องเป็นหลักประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนตามมาตรฐานสากล  ทุกโรงพักอย่าทำเป็นตำรวจสันหลังยาว  ร้อยเวรต้องอยู่เวร  ต้องไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  อย่าให้ผู้เสียหายต้องรอนานเกิน 3 ชม. และห้ามสั่งให้ผู้เสียหายหาพยานหลักฐานมาให้ตนเองเด็ดขาด *************** พิษบ่อนไพ่ใส่ 5 เสือ โรงพักช้างเผือก ภ.จ.เชียงใหม่ โดน รรท.ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ สั่งเด้งเข้ากรุพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบเพราะทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน  ริเปิดบ่อนกลางเมือง  ถือว่าเย้ย ผบช.คนใหม่ชัด ๆ *************** ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู สภ.ไหน ภ.จ.จังหวัดไหนอยากลองของก็เชิญไม่ผิดกฎหมายข้อไหน เพราะจะอ้างว่าลักลอบถือเป็นข้ออ้างเดิม ๆ หากถูกหน่วยอื่นจับถือว่าเปิดท้ามายกฎหมาย ส่วน 5 เสือ ที่ถูกเด้งเข้ากรุใช่ว่าจะไปอยู่ไหนก็ได้  หากชาวบ้านรู้ความประพฤติย้ายมาในพื้นที่เขาคงโดนไล่ส่งหรือจุดประทัดไล่ อย่างไร้ศักดิ์ศรีตำรวจไทย *************** ก็หวังว่าลำปางปลายทางฝันคงไม่มี ตร.โรงพักไหนกล้าเปิดบ่อนอย่างนี้แน่นอน *************** ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านเสด็จต่างยกนิ้วให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ บุญมาประเสริฐ ผกก.สภ.บ้านเสด็จ สังกัดตำรวจภูธรลำปาง หลังย้ายมาได้ไม่นานก็ซื้อใจผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วตามนโยบายกฎหมายคู่กับคุณธรรมทำโรงพักให้เป็นบ้านและให้ความเป็นธรรมต่อกันทั้งสองฝ่าย *************** ระยะหลังมีข่าวแก๊งเงินกู้ออกมาทวงหนี้และทำร้ายลูกหนี้บ่อยขึ้นในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า ผู้บริโภคข่าวต้องวิเคราะห์ว่าข้อเท็จจริงก่อนบางครั้งข่าวก็มีการปรุงแต่งรสชาติเต็มประเด็นเข้าไป  บางครั้งก็มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้าหนี้ลูกหนี้ก็รู้จักกันดีคงจะตกลงกันได้  หากจ่ายผิดนัดบ้านเมืองมีกฎหมายควบคุม  ไม่ใช่เอะอะทำร้ายหรือทุบรถอะไรป่านนั้นยืนยันตำรวจไม่ปกป้องแก๊งเงินกู้ ไม่มีประโยชน์แอบแฝง แต่หากทำเกินเลยจริงไม่มีเรื่องส่วนตัวจะไม่ปล่อยให้มีอำนาจทำร้ายประชาชนแน่ ๆ *************** สำหรับสายตรวจประจำตำบลหลายแห่งและหลายสังกัดยังคงว่างตำแหน่ง หน.สายตรวจอยู่  อย่าง หน.สายตรวจ ตำบลกล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง เป็นเขตรับผิดชอบของ สภ.เขลางค์นคร หลังจากที่ ร.ต.อ.ศรีมูล ธิตา เกษียณอายุราชการ ก.ย. 61 ที่ผ่านมา ยังไม่ทราบว่าใครจะมาแทน *************** หวังว่าทาง พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์นคร คงจะมีข้อมูลพอสมควรแล้ว แม้ว่าสายตรวจตำบลกล้วยแพะจะเป็น ตำบลเล็ก ๆ มีแค่ 5 หมู่บ้าน แต่ผลประโยชน์มีมากกว่าที่คิด อีกทั้ง ม.ราชภัฎลำปาง เป็นมหาวิทยาลัยระดับประเทศมักจะมีผู้ใหญ่จากหลายหน่วยงานเดินทางมาที่นี่เป็นประจำ *************** คงจะคัดกรองคนที่จะมาทำหน้าที่เป็นสำคัญ  เนื่องจากชุมชนในตำบลกล้วยแพะทั้งหมดเป็นชาวไทยลื้อที่ชอบสงบ หน.สายตรวจหลายคนถูกจับตามองว่ามีพฤติกรรมส่อไปในทางมีความสัมพันธ์กับธุรกิจหลายอย่างและไม่เคยแจงข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านเลยจนมีความไม่ไว้วางใจใครมาจนทุกวันนี้ *************** คดีเงินกู้ 47 ล้านบาทของสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนตำรวจภูธร 5 ลำปาง ยังคงอยู่ในระหว่างการรวมเงินจำนวนนี้ส่งคืนทั้งหมดอยู่ และ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา ปัจจุบันเป็น ผกก.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง และเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ฉาวแห่งนี้ ขีดเส้นตายรับปากกับคณะกรรมการฯจะนำเงินก้อนนี้มาชำระส่วนที่เหลือไม่ถึง 15 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2561 นี้ *************** แต่ลูกโม่.38 แปลกใจว่าก่อนนั้นทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ อดีต ผบช.ภาค 5  ที่ย้ายเข้าเป็น ผบช.ภาค3 มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภาค5 รับผิดชอบในเรื่องนี้  แต่ดูเหมือนว่าการสอบสวนหรือการดำเนินการทางคดีกับ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา เลยทั้ง ๆ ที่คนเป็นประธานสหกรณ์ฯเป็นคนกู้แม้ว่าคณะกรรมการสหกรณ์จะเห็นชอบก็ตาม *************** จึงไม่แปลกเลยที่คนภายนอกมองว่างานนี้ตำรวจอุ้มตำรวจหรือเปล่า หากสิ้นเดือน ต.ค.ยังหาเงินมาคืนจนครบ 47 ล้านบาทไม่ได้  พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินา คงต้องเดินทางไปรับทราบข้อหาต่อ พ.ต.อ.สมพงษ์ ตั้งตัว ผก.สภ.ห้างฉัตร แน่นอน ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เพื่อน ยังไม่เคยไปรับทราบข้อกล่าวหา ข่าวนี้ น.ส.พ.ลานนาโพสต์ และ น.ส.พ.ไทยรัฐ ประจำลำปาง เสนอข่าวเกาะติดเพียง 2 ฉบับ *************** เมื่อวันอังคารที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมามีเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งที่มีพฤติกรรมกับการนำขยะต่างถิ่น เข้ามาทิ้งบ่อขยะของเอกชนแถวป่าแม่เมาะแปลง 2 จัด ประชุมเกี่ยวกับขยะ และประสานไปยังคนที่คลุกคลีอยู่วงการข่าวคนหนึ่งที่ปัจจุบันไม่ได้เป็นผู้สื่อข่าวสังกัดไหน เป็นผู้ประสานนักข่าวจริงไปทำข่าว โดยมีค่าน้ำมันรายละ 1,000 บาทต่อคน  แต่เรียกมาเพียงไม่กี่คนเหมือนเลือกปฏิบัติ *************** อยากรู้นักว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับหน่วยงานที่จัดประชุม เรื่องนี้จะรับได้ไหวไหมสื่อที่เข้าไปทำข่าวให้จะปกป้องได้ไหมและผู้ประสานนำนักข่าวมาให้มีศักยภาพมากแค่ไหน  มีบารมีเพียงใด  สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปางก็มี  ทำไมไม่ทำหนังสือเข้าไป การปฏิบัติแบบนี้ถือว่าประกาศศึกต่อกันระหว่างหน่วยงานสันหลังหวะ กับสื่อมวลชนตัวจริง  จะให้ซองหรือไม่ให้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ การบอกกล่าวกันก็ถือว่าให้เกียรติสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวทั้งหมด ******** หมดพื้นที่ลูกโม่.38 แล้ว ฉบับหน้าพบกันใหม่