เร่งดับไฟป่าดอยพระบาท จับ 5 คนลอบเข้าป่า

จำนวนผู้เข้าชม

สถานการณ์ไฟไหม้ดอยพระบาทลำปางยังขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ยังคงทำงานกันอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะควบคุมพื้นที่ไฟไหม้ให้ลดน้อยลงมากที่สุด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ รวบตัวผู้ลักลอบเข้าไปในป่าได้ 5 คน  ได้ของกลางทั้งสัตว์ป่า และยาบ้า

วันที่  4 มีนาคม 2562 ที่ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประชุมชี้แจงกำหนดแผนที่และแนวการบินของ เฮลิคอปเตอร์ โดยมีนักบิน ของศูนย์ปฏิบัติการบินที่ 2 (เชียงใหม่) สำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ นักบินของกองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 เข้ามารับทราบแผนการบินโปรยน้ำ เพื่อสนับสนุนดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง หลังจากที่ที่เกิดไฟไหม้ดอยพระบาทติดต่อกันมานาน 4 วัน

จากการบินสำรวจพื้นที่ พบว่ายังคงเกิดไฟลุกไหม้หลายจุดทั่วทั้งดอยพระบาท เขตรอยต่อ ต.พระบาท ต.พิชัย ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง และพื้นที่ ต.แม่เมาะ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ยังคงเกิดไฟไหม้ป่าเป็นแนวยาว กินระยะทางหลายกิโลเมตร ผืนป่าเสียหายไปจำนวนมาก แม้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการระดมกำลังทางภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟป่า แต่สภาพพื้นที่ค่อนข้างลำบาก อีกทั้งสภาพป่าที่แห้งแล้งและบางจุดไม่เคยเกิดไฟไหม้ป่ามานาน 2-3 ปี ทำให้มีการสะสมเชื้อเพลิงจำนวนมาก และเมื่อเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นโดยเฉพาะช่วงกลางวันมีลมพัดแรงตลอดเวลา จึงทำให้ไฟไหม้ป่าลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงเป็นอุปสรรค์ของการทำงานดับไฟป่าของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้

ส่วนการสนับสนุนดับไฟป่าด้วยเฮลิคอปเตอร์ เบื้องต้น ได้แบ่งพื้นที่การทำงานเป็น 2 จุดใหญ่คือในพื้นที่ดอยพระบาท ต.พระบาท และ ต.พิชัย เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพย์บินโปรยน้ำสนับสนุนทางอากาศ และในส่วนของกองกำลังผาเมือง กองทัพภาพที่ 3 บินสนับสนุนดับไฟทางอากาศในพื้นที่ ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง และ ต.บ้านดง  อ.แม่เมาะ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักบินทั้งสองหน่วยงาน เพราะเครื่องของกองทัพภาพที่ 3 ค่อนข้างมีขนาดใหญ่จึงให้ดูแลในพื้นที่กว้าง ส่วนของกระทรวงทรัพย์ค่อนข้างเล็กและคล่องตัว จึงทำงานในพื้นที่ร่องเขาที่สลับซับซ้อน  

อย่างไรก็ตาม ในการทำงานแต่ละวัน เจ้าหน้าที่จะต้องปรับแผนการทำงานและเรียนรู้การทำงานไปพร้อมกัน โดยที่ประชุมได้เตรียมประสานจิตอาสาและเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการทำแนวกันไฟป่า การสนับสนุนการทำเสบียงอาหารให้เจ้าหน้าที่ ด้านกำลังพลเข้าปฏิบัติงานมีการระดมจากหน่ายงานต่าง ๆ โดยมีการแบ่งพื้นที่เข้าไปดับไฟ มีการใช้โดรนบินสำรวจกลุ่มควันไฟจุดที่เข้าไม่ถึง เพื่อเตรียมแผนงานลงพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม การจัดหารถบรรทุกน้ำ รถฉีดน้ำเข้าประจำจุดต่างๆ ที่สำคัญ เช่น ริมถนนที่ไฟจะลุกลามเข้าถึง และจุดที่สามารถใช้งานดับไฟป่าได้ใกล้ที่สุด โดยระดมรถบรรทุกน้ำจาก อบต.พิชัย เทศบาลตำบลพิชัย เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง และหน่วยงานต่างๆ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ ที่เข้ามาสนับสนุน รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ดับไฟ ที่จำเป็นต้องใช้ในการดับไฟป่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างเต็มที่  ขณะที่คุณภาพทางอากาศพบว่าจังหวัดลำปางยังมีปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดค่ามาตรฐานโดยเฉพาะค่า PM2.5 ที่เกิดค่ามาตรฐานติดต่อกันมายาวนานนับเดือนแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทางขึ้นดอยพระบาท รวมตัวผู้ลักลอบเข้าไปในป่าได้รวม 5 คน  ซึ่ง  4 คน ได้ใช้รถสอนศาสนา ผ่านจุดตรวจไฟป่าในหมู่บ้านลักลอบเข้าไปยิงสัตว์ป่า ผู้นำหมู่บ้านได้ยินเสียงปืน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปคุมตัวไว้ได้ เจอกระรอกบินเล็กซ่อนใต้เบาะรถ และปืนอัดลม 2 กระบอก  ส่วนอีกรายเป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ จะเข้าป่าไปส่งยาบ้า แต่มีพิรุธจึงถูกเจ้าหน้าที่จับได้พร้อมของกลาง 109 เม็ด

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 6 มี.ค. 62  ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าดอยพระบาทที่ 2 ท้องที่บ้านอิ่วเมี่ยน-บ้านวังหลวง ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง  นายวาทิต ปัญญาคม นายอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วยนายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง นายชูเกียรติ พงษ์ศิริวรรณ  ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง   พ.ต.ท.วิเชียร ใจสันกลาง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง  ร่วมกันเข้าตรวจสอบและทำการสอบสวน ชายจำนวน 4 ราย คือ นายสนิท ทูตพิทักษ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/7 หมู่ 6 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่  นายเบญญามินทร์ จินตนากอง อายุ 43 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 179 หมู่ 3 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง  นายชัยพร บุญเขตอุดร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 13 ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และนายสิทธิชัย ดิศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255/4 หมู่ 1 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าดอยพระบาท จับกุมตัวไว้ได้ขณะลักลอบเข้าไปในป่า พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนอัดลมยาวจำนวน 2 กระบอก พร้อมซากกระรอกบินเล็กแก้มขาว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 8 จำนวน 9 ตัว

โดยก่อนหน้านี้ ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมือง เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32  เจ้าหน้าที่ทหารพราน และจิตอาสา  ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันผู้ที่จะลักลอบเข้าไปเผาป่า กระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 6038 ลำปาง ขับผ่านมา โดยที่ข้างประตูรถติดโลโก้ของคริสจักรไทยลำปาง ได้ขอขับผ่านเข้าไปในหมู่บ้านโดยอ้างว่าจะเข้าไปทำกิจกรรมให้เด็ก แต่ผ่านไปสักพักทางผู้นำหมู่บ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในป่า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่รีบตามเข้าไปดู จนกระทั่งเจอชายทั้ง 4 คน พร้อมกับอาวุธปืนสูบลม 2 กระบอก จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่จุดตรวจ พร้อมกับทำการตรวจค้นภายในรถ จนพบซากกระรอกบินซ่อนอยู่ใต้เบาะที่นั่งบริเวณแค็ปด้านหลัง ตรวจนับได้รวม 9 ตัว  โดยทั้ง 4 คนให้การว่าได้เข้าไปยิงกระรอกเพื่อจะนำไปทำอาหารรับประทาน โดยไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ทำการปิดป่า แต่เนื่องจากกระรอกบินเล็กเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 8  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535  พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ  และความผิดฐานบุกรุกป่าตามประกาศของจังหวัดลำปาง จึงได้คุมตัวดำเนินคดีกฎหมายต่อไป

และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ ชป.ทพ.35 ร่วมจัดกำลังประจำจุดตรวจร่วมทหารตำรวจป่าไม้ เพื่อป้องปรามการลักลอบเข้าไปเผาป่าในพื้นที่ บริเวณสี่แยกวัดบรรพตสถิต เทือกเขาดอยพระบาท ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง  ได้มีชายไทยรายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 992 เพชรบูรณ์ ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจ โดยจากการสังเกตของกลุ่มเจ้าหน้าที่ พบมีลักษณะท่าทางพิรุธถือสะพายย่าม จึงได้ขอตรวจค้น กระทั่งพบยาบ้า จำนวน 109 เม็ด ซุกช่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย  สอบสวนทราบชื่อคือนายอาคม อ้นสอนอ อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ที่ 1 ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์  รับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยจะนำไปขายให้กับลูกค้า แต่เผอิญมาเจอเจ้าหน้าที่ตรวจเจอก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1220 วันที่ 8 - 14 มีนาคม 2562)