สอบตกตั้งแต่ยังไม่สอบ กกต.ใต้ปีก คสช.

จำนวนผู้เข้าชม

กว่าจะมาถึงวันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ล้มมาแล้วรอบหนึ่ง หลังจากผ่านคณะกรรมการสรรหามาแล้ว จนถึง กกต.ชุดปัจจุบัน อาจเรียกว่า คสช.ประทับตรารับรอง และน่าจะเป็นที่วางใจได้ โดยเฉพาะบทพิสูจน์ในการสนองรับผู้มีอำนาจในการเลื่อนการเลือกตั้งมาครั้งแล้วครั้งเล่า

กกต.ชุดนี้ประกอบด้วย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน ศาตราจารย์ ดร.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย นายฉัตรไชย จันท์พรายศรี นายปกรณ์ มหรรณพ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ดร.ฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ มีพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง

กกต.เริ่มงานเมื่อ สิงหาคม 2562 มีเวลาเตรียมการเลือกตั้ง 7 เดือน ซึ่ง กกต.ยืนยันมาตลอดว่า ได้เตรียมการเลือกตั้งพร้อมแล้ว ในห้วงเวลา 7 เดือน งานของ กกต.ที่โดดเด่นที่สุด คือ เสนอจัดหารถประจำตำแหน่ง ใช้เงิน 12 ล้านบาทเดินทางไปดูงานเลือกตั้งที่ต่างประเทศ

ส่วนงานในหน้าที่ของ กกต.หากนับเอา การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นการสอบปลายภาค ก็อาจเรียกว่า กกต.สอบตก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสอบแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการเลือกตั้งในต่างประเทศก่อนหน้านี้

การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้ไปใช้สิทธิจำนวนมาก รอนานหลายชั่วโมง และสุดท้ายต้องเลือกตั้งโดยคูหากล่องกระดาษ ส่งภาพนี้ไปทั่วโลก การเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศไทย ที่กกต.ไม่ได้เตรียมการรับการใช้สิทธิอย่างเพียงพอ คนก็ไปรอนานหลายชั่วโมงเช่นเดียวกัน

ในต่างประเทศยังมีปัญหา ที่สะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพของ กกต.คือเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ผิดพลาด ไม่ชัดเจน ชื่อผู้สมัคร และพรรคอยู่คนละหน้า ปัญหานี้ พบที่กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เอกสารแนะนำตัวในประเทศ ก็ไม่แตกต่างกัน มีทั้งพิมพ์ซ้ำกันเบอร์เดียวในเขตเดียวกัน พิมพ์โลโก้พรรคประกอบภาพผู้สมัคร ส.ส. ผิดพรรค ซึ่งแม้ กกต.ใหญ่จะไม่ได้มาเกี่ยวข้อวโดยตรง เพราะเป็นเรื่องของ กกต.แต่ละจังหวัด แต่ด้านหนึ่งก็บอกให้รู้ว่า การวางระบบตรวจสอบงานของ กกต.หละหลวม และน่าเป็นห่วงยิ่ง

ข้อสังเกตุสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของ กกต.คือการเลือกปฎิบัติ หรือหลักคิดในการทำงานที่อาจถูกมองว่า รับใช้ผู้มีอำนาจ ตัวอย่างเช่น การดำเนินการอย่างเร่งด่วน กรณีเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในขณะเดียวกันก็ละเลย เพิกเฉย และสุดท้ายก็ยอมให้เรื่องยุติไปง่ายดาย เช่น กรณีของพรรคพลังประชารัฐ

จนถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า ผู้คนยังไม่มั่นใจ ไม่วางใจ ไม่เชื่อถือ กกต. หลังเลือกตั้ง ก็เป็นที่หวาดระแวงของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจว่า จะใช้ กกต.เตะตัดขาคู่แข่ง ให้ใบส้มเพื่อให้คะแนนเป็นศูนย์ เพื่อตัดคะแนนพรรคในระบบบัญชีรายชื่อ

นี่เองที่บอกว่า ถึงพรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส.เขตจำนวนมาก แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจได้น้อยกว่าที่คาดหมายกันไว้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1222 วันที่ 22 มีนาคม 2562)