วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

คนวังทองร้องป่าไม้ยึดที่ ปักหมุด 3 หมื่นไร่ ผอ.ป่าไม้ยัน คุยชาวบ้านแล้ว

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ชาวบ้านตำบลวังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กว่า 500 คน ร้อง ส.ส.ไพโรจน์  หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปักหมุดยึดที่ทำกินได้รับความเดือดร้อน  9 หมู่บ้าน กว่า 28,000 ไร่  รับปากจะประสานฝ่ายเกี่ยวข้องรีบแก้ไข ด้าน ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ เผยเคยคุยชาวบ้านแล้วให้ปลูกพืชแซมในพื้นที่ได้ขณะที่ต้นไม้ยังไม่โต  แต่หากต้นไม้เติบโตแล้วจะยกให้เป็นป่าชุมชนต่อไป

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.62 ที่บริเวณสนามโบราณคดีหมู่บ้านปงถ้ำ ม.3 ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ได้มีประชาชนจาก 9 หมู่บ้าน ในตำบลวังทอง คือ 1 บ้านปงถ้ำ 2.บ้านปงทอง  3.บ้านตึงใต้  4.บ้านตึงเหนือ  5.บ้านแม่เย็น 6.บ้านป่าลั่น 7.บ้านสารภี 8.ห้วยลอย  9.บ้านร่มโพธิ์ทอง จำนวนกว่า 500 คน นำโดยนายบุญหลง เจริญสุข กำนันตำบลวังทอง ได้พากันมารวมตัวและขอพบนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง เขต2 พรรคเพื่อไทย หลังได้รับความเดือดร้อนถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลำปางปักหมุดเข้ายึดพื้นที่ทำกินในพื้นที่ ตำบลวังทอง 9 หมู่บ้าน รวม 2.8 หมื่นไร่  ที่ชาวบ้านเข้าทำกินปลูกข้าวโพดและปลูกมันสำปะหลังมานานหลายชั่วคน

นายบุญหลง เจริญสุข กำนันตำบลวังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กล่าวกับนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ว่าชาวบ้านเข้าใจในระเบียบของราชการแต่ขอความเห็นใจว่าชาวบ้านไม่ได้บุกรุกป่า แต่เข้ามาทำกินสืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เมื่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาปักหมุดและยึดพื้นที่คืนและห้ามเข้าไปปลูกข้าวโพดทำไร่ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี ชาวบ้านใน 9 หมู่บ้าน ซึ่งมีอาชีพทำไร่ข้าวโพดจึงได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน

ด้านนายไพโรจน์  โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง เขต 2  พรรคเพื่อไทย กล่าวกับชาวบ้านว่า เรื่องนี้ตนเองจะประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานว่าเป็นมาอย่างไร มีช่องทางที่จะพอบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ไหม แต่ทราบว่าในพื้นที่ป่าทั้งหมดที่ถูกยึดไปมีจำนวนเกือบ 3 หมื่นไร่  ประชาชนไม่ได้เป็นผู้บุกรุก แต่เป็นพื้นที่ที่เขาทำกินมาหลายชั่วคน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามายึดพื้นที่คืนด้วยการปลูกต้นไม้แทน ก่อนห้ามชาวบ้านเข้าไปทำไร่ข้าวโพด ปลูกมันสำปะหลังเหมือนอย่างแต่ก่อน และขอให้ทุกคนเคารพระเบียบกฎหมายด้วย  แต่ในฐานะเป็นผู้แทนราษฎรจะรีบประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทางผ่อนผันดูก่อนว่ามีทางอนุโลมบ้างได้ไหม เพราะเห็นใจในการประกอบอาชีพที่สุจริต

ด้านนายชูเกียรติ พงษ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง  กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ขุนวังแปลง 1  ได้มีการจับกุมเมื่อปี 2556 ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ได้ย้ายมาที่ จ.ลำปาง แต่ทราบว่าได้มีทางผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และอื่นๆ ได้สนธิกำลังกันเข้ามาตรวจยึดเป็นแปลงใหญ่เกือบ 3 หมื่นไร่  และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของรัฐ มีการจับกุมแล้วและเป็นคดีอยู่ เมื่อเป็นคดีไปแล้วไม่สามารถที่จะนำคืนได้  

ส่วนการปลูกต้นไม้ได้มีการเริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2557 มาเรื่อยๆ ในปี 2562 นี้ก็มีการปลูกอีกกว่า 4,000 ไร่   ทั้งนี้ การปลูกต้นไม้ ก่อนจะเสนอแปลงปลูกป่า ต้องผ่านกระบวนการประชาคมชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีคำสั่งจากกระทรวง ให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโครงการปลูกป่าที่ผ่านการประชาคมจากชาวบ้านแล้วมาพิจารณาอีกครั้งว่าทำขั้นตอนถูกต้องหรือไม่  เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยก็ได้ทำการอนุมัติ  โดยผู้นำชุมชนจะทราบเรื่องดี  การปลูกป่าก็ได้มีการจ้างชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว  สำหรับพื้นที่จับกุมนี้ ได้มีการพูดคุยให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันได้ โดยให้ปลูกต้นไม้หรือข้าวโพดระหว่างแถวได้จนกว่าต้นไม้จะเติบโต ก็อนุโลมให้ได้ ถ้าผ่านไป 10 ปีต้นไม้เจริญเติบโตก็จะนำขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนต่อไป

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่จัดทำข้อมูลพิกัด เพื่อจะนำแผนที่ให้ทำการตรวจสอบว่าพื้นที่จับกุมครอบคลุมในจุดใดบ้าง เพื่อจะแจ้งให้ทาง ส.ส.และชาวบ้านทราบ หากต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปพูดคุยหรือชี้แจงรายละเอียดก็สามารถทำได้เช่นกัน  ผอ.ชูเกียรติ กล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1236 วันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์