ไล่ปลัดแม่เมาะโกง สปสช. ภาคภัณฑ์ ผอ.พยาบาลโล่งอกหลังเครียด 3 ปี

จำนวนผู้เข้าชม

ก.ท.จ.ฟันไล่ออกปลัดเทศบาลแม่เมาะ และพนักงานจ้าง เซ่นคดีโกงเงิน สปสช.  ส่วนผอ.กองสาธารณสุข โดนภาคทัณฑ์ และพยาบาลวิชาชีพตัดเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์   ด้านพยาบาลเผยพอใจในมติ  หลังเครียดจากปัญหานี้มานาน 3 ปี  โดยตอนแรกคณะกรรมการสอบสวนสั่งให้ไล่ออก แต่เหลือเพียงตัดเงินเดือน เดินสายทำบุญทันที  

จากกรณีที่เทศบาลตำบลแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง  ได้ดำเนินการตรวจสอบพบความผิดปกติทางการเงินของบัญชีระบบหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเทศบาลตำบลแม่เมาะ พบว่ามีการเบิกถอนเงินสดในบัญชีธนาคารของกองทุนฯ เกินงบประมาณของระเบียบกองทุนกำหนดไว้  โดยพบว่ามีการเบิกถอนเงินตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.57  ถึงวันที่ 4 ก.ย.59 มากกว่า 30 ครั้ง  ซึ่งการถอนแต่ละครั้งจะมียอดเงินอยู่ระหว่าง 20,000-80,000 บาท  รวมเป็นเงินกว่า 3  ล้านบาท  โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น กระทั่ง เมื่อเดือน พ.ย.60 ที่ผ่านมา จังหวัดลำปางได้แจ้งผลการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นหนังสือตอบกลับมายังเทศบาลตำบลแม่เมาะให้นิติกรดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว รวม 6 คน เนื่องจากพบว่ามีการทุจริตเงินกองทุนดังกล่าวจริง  นิติกรชำนาญการ เทศบาลตำบลแม่เมาะ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงษ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ เพื่อเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 2 มี.ค.61 ที่ผ่านมา  

ต่อมา วันที่ 25 เม.ย.61 คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดลำปาง (ก.ท.จ.ลำปาง) มีมติ ครั้งที่ 4/2561 ให้พักราชการปลัดเทศบาลตำบลแม่เมาะชั่วคราว เพื่อไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน อาจจะทำให้พยานไม่กล้าให้ข้อมูลและให้การอย่างตรงไปตรงมาได้  พร้อมกันนี้ ทางเทศบาลตำบลแม่เมาะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยขึ้น จนกระทั่งเดือน ก.พ. 62 ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ได้มีการลงมติสรุปสำนวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ปลัดเทศบาลตำบลแม่เมาะ ให้ปลดออกจากราชการ   ขณะที่ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ให้ลดขั้นเงินเดือน  ส่วน เจ้าหน้าที่ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ  และพนักงานจ้างทั่วไป มีมติให้ไล่ออกจากราชการ  ซึ่งมติดังกล่าวต้องผ่านคณะอนุวินัยพิจารณาก่อน และจะส่งเรื่องให้ ก.ท.จ.พิจารณา

ในเรื่องนี้ ทางนางณิชชา ตันติอำไพ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เคยได้เข้าร้องเรียนกับหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเห็นว่าโทษไล่ออกที่ตนได้รับนั้นหนักมาก ส่วนผู้ที่กระทำผิดโดยตรง คือปลัดเทศบาลตำบลแม่เมาะ มีโทษเพียงปลดออกเท่านั้น จึงเกิดความเครียดต่อตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก  แต่ทั้งนี้ยังไม่มีมติจาก ก.ท.จ.ออกมาชัดเจนว่าจะให้ลงโทษตามมติของคณะกรรมการสอบวินัยหรือไม่

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา  ทางคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดลำปาง (ก.ท.จ.ลำปาง) ได้ประชุมเพื่อพิจารณาผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีของเทศบาลตำบลแม่เมาะโดยเฉพาะ  ซึ่งทางแหล่งข่าวระบุว่า  ที่ประชุมได้มีมติให้ นายปวงธรรม ทองอุไร ปลัดเทศบาล และน.ส.สุชีรา พนักงานจ้างทั่วไป  มีความผิดทางวินัยร้ายแรง ได้รับโทษคือไล่ออก ส่วนนางเอมอร ณ ลำปาง ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มีความผิดทางวินัย ได้รับโทษภาคทัณฑ์  และนางณิชชา ตันติอำไพ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ มีความผิดทางวินัย ได้รับโทษตัดเงินเดือน 4 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 2 เดือน  ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปคำสั่งมติที่ประชุม ก.ท.จ.ลำปาง ส่งให้ทางนายกเทศมนตรีตำบลแม่เมาะ ให้มีคำสั่งตามมติดังกล่าว

ลานนาโพสต์สอบถามไปยัง นางณิชชา ตันติอำไพ หรือ หมอแอ๋ว  พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กล่าวว่า รู้สึกพึงพอใจมาก เนื่องจากตนเองเครียดมานาน 3 ปี ใครๆต่างโยนความผิดมาให้ตนเป็นแพะรับบาป และนำเรื่องของตนไปพูดในทางที่ไม่ดี ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง  จนกระทั่งมีมติจาก ก.ท.จ.ออกมา เมื่อทราบผลในเบื้องต้นก็ได้ตะเวนออกทำบุญ เพื่อสร้างเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองทันที  ขณะนี้ยังรอหนังสือจากจังหวัดส่งมาที่เทศบาล ให้นายกเทศมนตรีออกคำสั่ง และตนเองจะต้องได้เซ็นรับทราบคำสั่งอีกครั้ง

นางณิชชา  ยังได้กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่หลายท่าน โดยเฉพาะท่านอดีตรองผู้ว่าฯสมเกียรติ ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการวินัย ตนเองทราบมาว่า ท่านได้พูดในที่ประชุมว่า ข้าราชการตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่กล้าหาญสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้บริหารระดับสูงทางฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการ และยังถูกตัดสินให้ไล่ออก ได้รับความยุติธรรมกับเขาหรือไม่  ต่อไปข้าราชการชั้นผู้น้อยจะมีใครกล้าลุกขึ้นมาร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตของผู้บริหารในหน่วยงานของตัวเอง  การทุจริตในท้องถิ่นเยอะมาก ถ้าช่วยกันปกปิดเรื่องพวกนี้จะไม่มีใครทราบ จะไม่เห็นใจข้าราชการระดับล่างเลยเหรอ  เมื่อทราบเรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกประทับใจมากว่าทางผู้ใหญ่ยังเห็นอกเห็นใจเรา จึงมีแรงและกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีต่อไป อยากจะขอบคุณมาในโอกาสนี้ด้วย

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1248 วันที่ 1 - 14 พฤศจิกายน 2562)