ภาวะผู้นำในกระแส‘อิเหนาเมาหมัด’

จำนวนผู้เข้าชม

ไม่น่าแปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดอาการ หลังปรากฏฉายา “อิเหนาเมาหมัด” ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลอธิบายว่า เป็นการอิงสุภาษิตไทย เปรียบกับแนวปฎิบัติ และ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เห็นได้ชัดหลายเรื่อง มักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

สุดท้ายก็กลับมาทำเอง เช่น โครงการลักษณะประชานิยม บอกไม่เป็นนายกฯ สุดท้ายก็กลับมา, ไม่อยากเล่นการเมือง ก็หนีไม่พ้น, หนีการตอบกระทู้ในสภา , มองข้ามข้อครหาเรื่องงูเห่าการเมือง การซื้อตัว ส.ส. , ตั้งคนมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี , แต่งตั้งญาติพี่น้องเข้าสภา , ยอมให้พรรคที่สนับสนุนใช้นโยบายค่าแรงหาเสียง ทั้งที่เคยตำหนิว่า ว่าการขึ้นค่าแรงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน

ที่ว่าไม่น่าแปลกใจ ก็เพราะตลอดระยะเวลา 6  ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีจากการปฎิวัติ จนกระทั่งเป็นนายกรัฐมนตรีจากการโอบอุ้มของพรรคพลังประชารัฐ เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่า ตัวเองอยู่ในสถานะ “บุคคลสาธารณะ” ที่ต้องถูกวิพากษ์ วิจารณ์ได้ ตรวจสอบได้

คนที่เป็นผู้นำ ต้องอดทน และยอมรับในสิ่งเหล่านี้ได้ ซึ่งผู้นำรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่มีการตั้งฉายารัฐบาลก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รวมทั้ง “เตมีย์ใบ้” ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ให้ฉายาพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยแสดงความฉุนเฉียวกับนักข่าว มากที่สุดหากนักข่าวรุกไล่มากๆ ถ้อยคำสั้นๆของเขาที่สยบทุกสิ่ง ก็คือ “กลับบ้านเถอะลูก”

ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะยินดีมากกว่า ที่ได้รับฉายา “อิเหนาเมาหมัด” ซึ่งนับเป็นคำที่ชื่อตรงที่สุดแล้วของนักข่าว คำที่สะท้อนภาพความเป็นจริง และหากเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด เขาย่อมคิดได้ว่า นี่เป็นกระจกสะท้อนภาพความเป็นจริง ที่หากมีความขัดเคืองอยู่บ้าง ก็ควรนิ่งเฉยเสีย แต่ถ้าเป็นความจริง ก็เป็นโอกาสที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง

ตรงกันข้าม คำสรรเสริญเยินยอ ยกยอปอปั้น จากคนรอบข้าง ที่เป็นกาฝากแอบอิงอาศัยอำนาจ ของพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ประโยชน์จากสถานะความเป็นผู้นำ รักษาอำนาจและผลประโยชน์ คำเหล่านี้เองที่จะทำลายพล.อ.ประยุทธ์ ในที่สุด

นอกจากนั้น การที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ยกเว้นไม่ให้ฉายานายกรัฐมนตรีเมื่อ 6 ปีก่อน ก็ด้วยเห็นว่า เป็นรัฐบาลที่ได้อำนาจมาโดยการปฎิวัติ เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาโดยวิถีทางประชาธิปไตย  การที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับฉายาในปีนี้ แปลว่า ท่านคือนายกรัฐมนตรีที่มาโดยวิถีทางที่ถูกต้องแล้ว แม้จะมีความไม่ชอบธรรมอยู่บ้างก็ตาม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีสถานะเป็นผู้นำรัฐบาล มีหน้าที่ต้องทำงานด้วยความอดทน เสียสละ และรับผิดชอบสูงยิ่งกว่าคนทั่วไป การอดทน เสียสละ การทำงานหนัก ไม่ใช่บุญคุณ แต่มันคือหน้าที่ และเป็นหน้าที่ที่ผู้นำรัฐบาลทุกคนจะต้องตระหนักอยู่แล้วว่า เมื่อก้าวเข้ามาต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะชอบ หรือไม่ชอบ จะพึงพอใจหรือไม่ก็ตาม

แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องตลก หรือเรื่องล้อเล่น เช่นที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวคำ หากแต่มันคือเรื่องจริง ที่นักข่าวซึ่งทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาล ต้องการสื่อสารความจริง ให้พล.อ.ประยุทธ์รู้ ผ่านรูปแบบที่ดูไม่จริงจังมากนัก  เป็นการสื่อสารเชิงสัพยอก จากคนที่ไม่ได้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือแอบอิงอาศัยอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์

เป็นความขมที่อาจรักษาโรคร้ายแห่งความ “หลงผิด”ได้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1252 วันที่ 27 ธันวาคม 2562 - 9 มกราคม 2563)