ผู้ว่าฯเข้าตรวจสอบไฟไหม้กองซังข้าวโพดขนาดใหญ่ พื้นที่ อ.งาว ผ่านมา 3 วันพบยังมีไฟลุกบางจุดและควันคลุกรุ่น สั่งการให้แก้ปัญหาโดยเร็ว ด้านอุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิด 30 วัน ขณะที่ป่าไม้ตรวจสอบพบรุกพื้นที่ป่า 20 ไร่ ส่งดำเนินการตามกฎหมายหลายกระทง

จำนวนผู้เข้าชม

หลังจากเมื่อวันที่ 15 เม.ย.63 ได้เกิดไฟปะทุไหม้ลุกลาม กองซังข้าวโพดภายใน หจก.ญาณเดชกิจรุ่งเรือง ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร นำไปอัดแท่ง พื้นที่หมู่ที่ 6 ต.หลวงใต้  อ.งาว จ.ลำปาง  หลังเกิดเหตุนายอดิเรก อุ่นโอสถ นายอำเภองาว สั่งการให้อปท.ทุกแห่งสนับสนุนรถน้ำเข้าพื้นที่ รวมทั้งรถดับเพลิงจากศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง  ปภ.จังหวัดลำปาง เข้าช่วยเหลือระงับเหตุ ซึ่งสามารถควบคุมไฟไว้ได้ในวงจำกัด แต่ยังคงเกิดควันคลุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกองข้าวโพดมีขนาดใหญ่มาก

ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. 63 นายณรงค์ศักดิ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  พร้อมฝ่ายปกครองจังหวัดและฝ่ายปกครองอำเภองาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำโดย นายชูเกียรติ พงษ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง  นายเรวัตร เวียงทอง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ลำปาง  และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ลำปาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบโรงงานดังกล่าว  พบว่ามีกองซังข้าวโพดบางส่วนที่ถูกเกลี่ยออกมาและดับสนิทแล้ว แต่บริเวณกลางลานยังมีกองซังข้าวโพดขนาดใหญ่ยังมีไฟลุกไหม้อยู่ และมีควันออกมาตลอดเวลา หากเข้าใกล้ในระยะ 5 เมตรจะเกิดไอความร้อนมาก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยการไถบริเวณด้านนอกออกมาแยกเป็นกองเล็ก และต้องฉีดน้ำดับทันที เพราะการเกิดไฟไหม้นี้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ จ.ลำปาง

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  เปิดเผยว่า จุดรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรแห่งนี้เกิดปัญหาทับซ้อนกันในหลายประเด็น ซึ่งจะจุดที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการดับไฟให้สนิท เมื่อ 2เดือนที่แล้วได้เกิดไฟไหแม้ครั้งหนึ่งนานถึง 9 วัน โดยได้มีการตกลงกันว่าจะแก้ปัญหาโดยการแยกเป็นกองขนาดเล็กไว้ แต่ทางโรงงานก็ยังกองรวมเป็นกองใหญ่อยู่ จนกระทั่งวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ซึ่งเป็นจุดฮอตสปอตแห่งเดียวของ จ.ลำปาง  3 วันที่ผ่านมา จังหวัดได้ระดมรถดับเพลิงมาฉีดน้ำเพื่อดับไฟ โดยใช้ปริมาณน้ำมากถึง 1 ล้านลิตร  ซึ่งน้ำจำนวนเท่านี้ใช้ดับเพลิงทั่วจังหวัดได้ถึง 3 สัปดาห์ในช่วงแล้งเช่นนี้

นอกจากนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วยังพบปัญหาว่าทางผู้ประกอบการให้ข้อมูลว่าเช่าพื้นที่กับ สปก.อยู่ 50 กว่าไร แต่ทาง สปก.ได้รายงานมาว่าเป็นพื้นที่ สปก.เพียง 30 ไร่  ปรากฏว่าพื้นที่โรงงานอยู่ในเขตป่าไม้ 20 กว่าไร่ ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงเข้ามาตรวจสอบ หากพบว่ามีความผิดก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวต่อไปว่า   ส่วนจังหวัดได้แจ้งความในส่วนของการฝ่าฝืนช่วงเวลาห้ามเผา 60 วัน  โดยเฉพาะในพื้นที่ของเอกชนไม่ควรเกิดขึ้น ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้สั่งปิดโรงงาน 30 วัน ให้แก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จให้แก้ปัญหาเรื่องการเกิดไฟลุกไหม้ให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ส่วนปัญหาด้านอื่นจะต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันเพื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง