วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

กฟผ.แม่เมาะ เปิดข้อมูล เคลียร์ทุกประเด็น กสม. ยันคุมเข้มสิ่งแวดล้อม

          ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะและเหมืองแร่ จังหวัดลำปาง กลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้ง หลังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 โดยชี้ว่าโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะยังคงก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แนะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังตามหลักวิชาการ  ด้าน กฟผ.แม่เมาะ ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลและแนวทางการดำเนินการตอบรับข้อเสนอแนะของ กสม. ยืนยันมีการดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการอย่างเคร่งครัด

          กฟผ.แม่เมาะ ตอบโจทย์ กสม.โรงไฟฟ้ายังก่อผลกระทบสุขภาพ-สิ่งแวดล้อม ชาวบ้านในพื้นที่ น้ำ-อากาศ-กลิ่น-เสียง วางใจได้ ย้ำน้ำและนิเวศวิทยาทางน้ำ ส่วนที่เกินมาตรฐานเกิดตามธรรมชาติในอ่างเก็บน้ำแม่จางและเขื่อนกิ่วลมซึ่งไม่อยู่ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ขณะที่คุมเข้มคุณภาพอากาศ กลิ่นจากการลุกไหม้ของถ่านน้อยตรวจวัดไม่ได้ ระดับเสียงไม่พบความเสี่ยง

          เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา กฟผ.แม่เมาะ เปิดข้อมูล เคลียร์ทุกประเด็นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่าโรงไฟฟ้าแม่เมาะยังก่อผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่  ดังนี้

  •  ด้านคุณภาพน้ำและนิเวศวิทยาทางน้ำ

        กฟผ.แม่เมาะ ชี้ประเด็นข้อสงสัยเรื่องคุณภาพน้ำที่พบ “ปรอทอินทรีย์ในเนื้อปลา” ว่า การพบค่าที่เกินเกณฑ์ มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตแต่อย่างใด

          จากข้อมูลการตรวจสอบค่าปริมาณโลหะหนักในเนื้อปลาบริเวณโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ในช่วงเดือนเมษายน 65  โดยอิงค่ามาตรฐานตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 414) พ.ศ.2563 และ CODEX STAN 193-1995  มีการพบปรอทอินทรีย์เกินเกณฑ์ของ CODEX  ที่อ่างเก็บน้ำแม่จาง ในปลากดเหลือง (ปลากินพืช) จำนวน 3 ตัว  อยู่ที่ 1.92 มก./กก.  และที่เขื่อนกิ่วลม ในปลากระสูบขีด(ปลากินพืช) 2 ตัว อยูที่ 0.75 มก./กก. ซึ่งค่ามาตรฐานในปลากินพืชจะต้องไม่เกิน 0.5 มก./กก.  

          การพบปรอทอินทรีย์ในเนื้อปลากดเหลือง ที่อ่างเก็บน้ำแม่จาง และในเนื้อปลากระสูบขีด ที่เขื่อนกิ่วลมมีค่าเกินมาตรฐาน CODEX  “ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ”  เนื่องจากอ่างเก็บน้ำแม่จาง และเขื่อนกิ่วลม เป็นเพียงแหล่งน้ำดิบที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะสูบมาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น ไม่มีการระบายน้ำจากโรงไฟฟ้าลงไปในแหล่งน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ กฟผ.ยืนยันว่า ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปัจจุบัน ไม่พบโลหะหนักในเนื้อปลาเกินเกณฑ์มาตรฐานทั้งไทยและสากล

 


          ขณะที่การตรวจการปนเปื้อนของ “สารหนู” ในน้ำผิวดิน บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ มีการพบสารหนูเกินมาตรฐาน 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565  โดยมีการตรวจพบที่ 0.011 มิลลิกรัมต่อลิตร จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.010 มิลลิกรัมต่อลิตร  ซึ่งสาเหตุที่พบสารหนูในน้ำผิวดินเกินเกณฑ์นั้น คาดว่าเกิดจากช่วงตรวจวัดเป็นช่วงที่มีวัชพืชในอ่างจำนวนมาก ประกอบกับช่วงฤดูแล้งน้ำในอ่างมีปริมาณน้อยไม่หมุนเวียน จึงเกิดการสะสม  ต่อมาในเดือนตุลาคม 2565 โรงไฟฟ้ได้มีการพัฒนาอ่างเก็บน้ำ กำจัดวัชพืชร่วมกับเทศบาลตำบลแม่เมาะ  หลังจากนั้นได้ตรวจสอบพบว่าค่าสารหนูไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานอีกเลย 



          ขณะเดียวกันได้มีการตรวจการปนเปื้อนสารหนูในดิน 4 จุดด้วยกัน คือ วัดหางฮุง  รพ.สต.สบป้าด  ขอบบ่อเก็บเถ้าถ่านหินด้านทิศใต้  และขอบบ่อกักเก็บเถ้าถ่านหินด้านทิศตะวันตก   พบมีการปนเปื้อนสารหนู 3 จุด ที่ วัดหางฮุง  รพ.สต.สบป้าด และขอบบ่อกักเก็บเถ้าถ่านหินด้านทิศตะวันตก   ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 และเมษายน 2567



          กฟผ.ระบุว่า สาเหตุมาจากทรัพยากรดินในพื้นที่ภาคเหนือมีวัตถุต้นกำเนิดดินที่มีสารหนูเป็นองค์ประกอบสูง จึงมักพบสารหนูในดินเกินค่ามาตรฐานอยู่แล้วตามธรรมชาติในหลายจังหวัด นอกจากนี้การทำการเกษตรที่มีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และอื่นๆ สามารถทำให้เกิดการปนเปื้อนได้  โดยมีการอ้างอิงข้อมูลจากการผลการวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงานข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆร่วมด้วย 

          ส่วนผลการตรวจ  “แคดเมียม”  ไม่มีรายงานระบุในปี 2565  มีเพียงรายงานการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งที่ผ่านระบบบำบัดชีววิธีก่อนระบายลงสู่อ่างเก็บน้ำแม่เมาะ ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2567  พบว่า แคดเมียม วัดได้น้อยกว่า 0.0005 มิลลิกรัม/ลิตร  จากค่ามาตรฐานจะต้องไม่เกิน 0.03 มิลลิกรัม/ลิตร  ซึ่งโรงไฟฟ้าแม่เมาะยืนยันคุณภาพน้ำทิ้งที่ปล่อยออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะ มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกดัชนี


          นอกจากนี้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้ง ก่อนปล่อยออกสู่แหล่งสาธารณะพบว่ามีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกดัชนี อย่างไรก็ตามการตรวจวัดคุณภาพน้ำ ซึ่งประกอบด้วยน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน ตะกอนดินน้ำผิวดิน และน้ำทิ้ง จะดำเนินการเก็บตามแหล่งน้ำโดยรอบ ทั้งแหล่งอ่างเก็บน้ำต้นน้ำ จุดบำบัด และในพื้นที่ชุมชน พบว่า ในส่วนที่มีค่าเกินเกณฑ์ เช่น ค่า BOD ในอ่างเก็บน้ำแม่จาง เป็นค่าที่วัดได้บริเวณอ่างเก็บน้ำต้นทุนก่อนเข้าสู่โรงไฟฟ้า จึงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด, ค่าคุณภาพน้ำผิวดินอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ พบฟีคัลโคลีฟอร์มจากการทำปศุสัตว์ (โค กระบือ) เป็นต้น



  • ด้านคุณภาพอากาศ

          ตอนหนึ่งในเอกสารแถลงข่าวระบุ และอธิบายต่อไปในเรื่องคุณภาพอากาศที่ว่ามีการพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินเกณฑ์ในช่วง ก.พ. ถึง เม.ย. ในปี 2565-2566 นั้น เนื่องจากช่วงเวลานั้นของทุกปี มีการเผาไหม้ในพื้นที่โล่ง การเผาเศษวัสดุ  ทางการเกษตรและไฟป่า ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันทั่วทั้งภูมิภาค ในขณะเดียวกันค่าควบคุมก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในบรรยากาศของพื้นที่ อ.แม่เมาะ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมาโดยตลอด

          ส่วนประเด็นด้านอัตราการระบายของก๊าซ และค่าความเข้มข้นของก๊าซ ที่ระบายออกจากปล่องของโรงไฟฟ้าเกินเกณฑ์ค่าควบคุม EHIA นั้น เกิดจากการแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคภายในโรงไฟฟ้าเป็นครั้งคราว และยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 และไม่ส่งผลกระทบต่อค่าควบคุมก๊าซในบรรยากาศภาพรวมของพื้นที่ อ.แม่เมาะ



  • ด้านกลิ่นและเสียง

          จากการตรวจวัดกลิ่นที่เกิดจากการลุกไหม้ของถ่านตามมาตรการ EIA บริเวณชุมชนด้านทิศเหนือและทิศใต้ของพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ ปี 2565-2567 บริเวณหมู่บ้านดงและหมู่บ้านห้วยคิง พบว่าไม่สามารถตรวจวัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์และก๊าซเมธทิลเมอร์แคปเทนได้ เนื่องจากมีค่าน้อยมาก ในขณะที่ด้านเสียง หลังจากได้รับข้อร้องเรียนเรื่องเสียงรบกวนในปี 2565 กฟผ.แม่เมาะ ได้ดำเนินการตรวจวัดเสียง  โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดเสียงและ Sound Camera หาแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน โดยพบความถี่แหล่งกำเนิดเสียงมาจากอุปกรณ์ในโรงไฟฟ้าบางส่วน

          “ได้ดำเนินการแก้ไขอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับดำเนินการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวกั้นเสียงเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ผลจากการตรวจวัดเสียงในส่วนของเหมืองแม่เมาะ พบว่าอยู่ในเกณฑ์หรือดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานควบคุมระดับเสียงและความสั่นสะเทือนจากการทำเหมืองหิน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนผลการตรวจวัดเสียงในส่วนของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ปีล่าสุด พบว่า มีการตรวจวัดเสียงถูกต้องตามหลักสากล โดยพบว่าระดับเสียงเฉลี่ย (Leq24hr) มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีตรวจวัด และระดับเสียงรบกวนมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด” ตอนหนึ่งในเอกสารระบุ

  • ด้านการจัดสรรค่าภาคหลวงแร่

          สำหรับข้อร้องเรียน ด้านการจัดสรรค่าภาคหลวงแร่ให้แก่ อบต.สบป้าด โครงการเหมืองแร่ลิกไนต์และหินปูนมีการจ่ายเงินค่าภาคหลวงแร่ให้กับหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่องทุกปีตามที่พระราชบัญญัติแร่กำหนด โดยกรณีของ อบต.สบป้าด จะได้รับการจัดสรรร้อยละ 10 ของค่าภาคหลวง ที่จัดเก็บได้ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรฯ เนื่องจาก พื้นที่ประทานบัตรที่ผลิตแร่ถ่านหินลิกไนต์และหินปูนของ กฟผ. ไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลสบป้าดโดยตรง

          ทั้งนี้สามารถอ่านข้อมูลคำชี้แจงโดยละเอียด ลำดับเหตุการณ์ และการดำเนินการเบื้องต้นเพื่อรองรับ ข้อเสนอแนะได้ในเว็บไซต์ https://mpp.egat.co.th/hellomaemoh/index.php?option=com_content&view=article&id=1392:2025-07-30-06-33-49&catid=10&Itemid=101   หรือสแกนดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน QR code

Share:

คำเมืองวันละนิด โลกสีสันแห่งเมืองเหนือ สีคำเมือง ต้องมี(สร้อย)

 


ดำคึลึ เขียวอุ่มตุ่ม แดงปะหลึ้ง! มาแอ่วเหนือเรียนรู้สีสันแบบคนเมืองแต๊ๆ

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "คำเมือง" หรือภาษาเหนือมาบ้าง แต่คุณรู้ไหมว่าในคำเมืองนั้น มีคำเรียก "สี" ที่หลากหลายและมีความหมายเฉพาะตัว จนบางครั้งคำเดียวก็สามารถสื่อถึงความรู้สึกหรือลักษณะของสีได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้เราอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับสีสันในแบบฉบับคำเมือง เพื่อที่คุณจะได้ "ม่วนอกม่วนใจ๋" และ "อิน" กับบรรยากาศเมืองเหนือได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ขาวจั๊วะ ดำคึลึ: ไม่ใช่แค่ขาวดำธรรมดา แต่มีความหมายซ่อนอยู่!

เริ่มต้นกันที่สองสีพื้นฐานอย่าง "ขาว" และ "ดำ" ที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ในคำเมืองนั้น มีคำเรียกขานที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของเฉดสีได้อย่างน่าสนใจ

·         ขาวจั๊วะ (ขาวนวล): ลองนึกถึงดอกมะลิที่เพิ่งบาน หรือผ้าฝ้ายทอมือสีธรรมชาติที่สะอาดตา นั่นแหละคือ "ขาวจั๊วะ" เป็นสีขาวที่ดูอบอุ่นสบายตา ไม่ใช่ขาวโอโม่จนแสบตา

·         ขาวโจ๊ะโฟ้ะ (ขาวมากๆ): สำหรับใครที่ชอบความขาวแบบเจิดจ้า สว่างวาบ เห็นแล้วต้องเหลียวหลัง นั่นคือ "ขาวโจ๊ะโฟ้ะ" อาจจะนึกถึงเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมที่เพิ่งซื้อมา หรือบางทีก็อาจจะใช้กับสีผิวของคนที่มีผิวขาวมากๆ จนโดดเด่นออกมา

·         ขาวเผอะขาวเผิด (ขาวซีด): แต่ถ้าเป็นความขาวที่ดูไม่สดใส ออกไปทางอ่อนเพลีย ไร้ชีวิตชีวา จะเรียกว่า "ขาวเผอะขาวเผิด" นึกถึงคนที่ป่วย หรือดอกไม้ที่กำลังจะโรยรา สีแบบนี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากความขาวแบบอื่นๆ โดยสิ้นเชิง

·         เปิดเจ้อะเห้อะ (สีขาวซีด): คล้ายคลึงกับ "ขาวเผอะขาวเผิด" แต่คำว่า "เปิดเจ้อะเห้อะ" นี้ก็ใช้เพื่ออธิบายถึงความขาวที่ซีดจนดูไม่สดใสได้เช่นกัน เมื่อเดินเล่นในตลาดพื้นเมือง แล้วเห็นเสื้อผ้าบางชิ้นที่ดูเก่าแล้ว สีจืดจางลงไป นั่นอาจจะเรียกว่า "เปิดเจ้อะเห้อะ" ก็เป็นได้

มาต่อกันที่สีเข้มข้นอย่าง "ดำ" ที่ในคำเมืองก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

·         ดำคุมมุม (ดำสลัว): ลองจินตนาการถึงยามค่ำคืนที่แสงไฟสลัวๆ หรือมุมห้องที่มืดครึ้ม ไม่ได้มืดสนิท แต่ก็ไม่สว่าง นั่นคือ "ดำคุมมุม" ให้ความรู้สึกที่ลึกลับน่าค้นหา เหมาะกับการนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ยามเย็น

·         ดำคึลึ (ดำมาก ๆ): ถ้าความดำแบบ "ดำคุมมุม" ยังไม่สะใจพอ ลองมาเจอ "ดำคึลึ" ที่สื่อถึงความดำที่เข้มข้น ดำสนิทจนมองไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย ลองนึกถึงถ้ำมืดๆ หรือค่ำคืนที่ไร้ดวงดาวนั่นแหละคือความ "ดำคึลึ" ที่แท้จริง

·         ดำขี้ตี้ (ดำจากสีไคล): คำนี้อาจจะฟังดูตลก แต่ก็สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านได้ดี "ดำขี้ตี้" คือความดำที่เกิดจากการสะสมของคราบไคล หรือสิ่งสกปรกต่างๆ มักใช้กับข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้งานมานานจนมีคราบดำติดอยู่ ไม่ได้เป็นความดำที่ตั้งใจให้เป็น แต่เป็นความดำที่บอกเล่าเรื่องราวการใช้งาน

·         ดำขะลึงตึง (ดำคล้ำมาก): ถ้าพูดถึงผิวคล้ำเสียจากแดดแรงๆ ของเมืองไทย หรือผักผลไม้บางชนิดที่ดูไม่สดใส จะใช้คำว่า "ดำขะลึงตึง" เป็นความดำที่ออกไปทางคล้ำเสีย ไม่ได้ดำสนิทแบบ "ดำคึลึ" แต่ก็ไม่ใช่ดำสลัวแบบ "ดำคุมมุม" มีความเฉพาะตัวที่น่าสนใจ

·         ดำคิมมิม (ดำกระด่าง): เคยเห็นอะไรที่เป็นสีดำไม่สม่ำเสมอ มีรอยด่างดำ หรือสีที่ไม่เรียบเนียนไหม นั่นแหละคือ "ดำคิมมิม" อาจจะใช้กับผ้าที่สีตก หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียน ลองสังเกตผนังเก่าๆ หรือของเก่าแก่ในบ้านเรือนไทย อาจจะเจอความ "ดำคิมมิม" ที่แฝงตัวอยู่

·         ดำผึดำผึด (ดำมากๆ ดำไปทั่วทั้งหมด): หากความดำปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผืนดิน ท้องฟ้า หรือสิ่งของต่างๆ นั่นคือ "ดำผึดำผึด" ให้ความรู้สึกที่ดำทะมึน และครอบคลุมไปทั่วทั้งหมด

·         ดำพึ้ด (ดำทั้งแถบ): คล้ายคลึงกับ "ดำผึดำผึด" แต่ "ดำพึ้ด" จะเน้นไปที่ความดำที่เป็นแนว หรือเป็นแถบยาวๆ เช่นกลุ่มเมฆฝนที่กำลังจะมา สีดำของถนนที่ทอดยาว หรือแถบผ้าสีดำสนิท

แดงฮ่าม เขียวคึลึ้ เหลืองเอิ้มเสิ่ม: สีสันจัดจ้านแห่งเมืองเหนือ

นอกจากขาวและดำแล้ว สีสันอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์และชีวิตชีวาของเมืองเหนือได้อย่างดีเยี่ยม

·         แดงฮ่าม (แดงอร่าม): สีแดงที่เปล่งประกาย สุกสกาว มองเห็นแต่ไกล ให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา นั่นคือ "แดงฮ่าม" ลองนึกถึงเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงสดใส รับรองว่าคุณจะเข้าใจความหมายของ "แดงฮ่าม" ได้เป็นอย่างดี

·         แดงเผ้อเหล้อ (แดงเป็นจุดใหญ่จุดเดียว): หากมีอะไรที่สีแดงโดดเด่นออกมาเป็นจุดๆ หรือเป็นบริเวณกว้างๆ เพียงจุดเดียว นั่นคือ "แดงเผ้อเหล้อ" อาจจะนึกถึงป้ายร้านอาหารที่ใช้สีแดงสดสะดุดตา หรือผลไม้ที่สุกงอมจนเป็นสีแดงเข้มเพียงลูกเดียวที่โดดเด่นออกมา

·         แดงพี่หลี้ (แดงอมชมพู): สีแดงที่ไม่ใช่แดงสด แต่เป็นแดงที่ผสมผสานกับความหวานละมุนของสีชมพู นั่นคือ "แดงพี่หลี้" เป็นสีที่ให้ความรู้สึกน่ารัก อ่อนหวาน

·         แดงปะหลึ้ง (แดงจัดมาก): หากความแดงในแบบอื่นๆ ยังไม่พอ ต้องมาเจอ "แดงปะหลึ้ง" ที่สื่อถึงความแดงที่จัดจ้าน เข้มข้นที่สุด มองเห็นแล้วต้องสะดุดตา

ต่อด้วยสีเขียวที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

·      เขียวคึลึ้ (เขียวเข้ม): สีเขียวที่เข้มข้น ลึกซึ้ง ให้ความรู้สึกถึงป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ หรือความเขียวขจีของใบไม้ที่ผ่านฝนพรำมา นั่นคือ "เขียวคึลึ้"

·         เขียวอุ่มฮุ่ม (เขียวขุ่นข้น): แตกต่างจาก "เขียวคึลึ้" ตรงที่ "เขียวอุ่มฮุ่ม" จะเป็นสีเขียวที่ดูขุ่นมัว ไม่สดใส ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป อาจจะนึกถึงน้ำในลำธารที่ขุ่นเข้ม หรือสีของสาหร่ายบางชนิดที่ดูไม่ใสสะอาด

ปิดท้ายด้วยสีเหลืองที่เปรียบเสมือนแสงอาทิตย์อันอบอุ่น

·         เหลืองเอิ้มเสิ่ม (เหลืองอมส้ม): สีเหลืองที่เจือไปด้วยความส้มเล็กน้อย ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดใส เหมือนแสงอาทิตย์ยามเช้า หรือผลส้มที่สุกงอม นั่นคือ "เหลืองเอิ้มเสิ่ม" เป็นสีที่ดูมีชีวิตชีวา และน่ามอง

·         เหลืองห่าม (เหลืองอร่าม): ถ้าพูดถึงความเหลืองที่เปล่งประกาย สุกสกาว มองเห็นแต่ไกล ให้ความรู้สึกโออ่า สง่างาม นั่นคือ "เหลืองอ่ามห่าม" ลองนึกถึงเครื่องประดับทองคำ หรือองค์พระพุทธรูปที่ประดับด้วยทองคำเปลว คุณจะสัมผัสได้ถึงความ "เหลืองอ่ามห่าม" ที่งดงามและมีมนต์ขลัง

เสน่ห์ของคำเมืองคือการที่คำเดียวสามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน ทำให้เราสัมผัสถึงความละเอียดอ่อนและความงดงามของภาษาท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตและธรรมชาติของเมืองเหนือได้อย่างลึกซึ้ง


Share:

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ป.ป.ช. ลำปาง ตรวจสอบบ่อบาดาล “บ้านห้วยทราย” หลังมีเรื่องร้องเรียนใช้งานไม่ได้ พบปัญหาตะกอนอุดตัวเครื่อง ท้องถิ่นแจงซ่อมแล้วใช้งานปกติ

 

นายเปรมจิต แจ่มใสดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำปาง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการขุดเจาะและติดตั้งระบบน้ำบาดาลในหมู่บ้านห้วยทราย หมู่ 4 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง  จ.ลำปาง ซึ่งเป็นโครงการของเทศบาลตำบลต้นธง ที่ได้รับงบประมาณ 440,900 บาท  ซึ่งมีการร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้  โดยมีการเข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 ที่ผ่านมา


เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบ่อน้ำบาดาล โดยพบว่ามีขนาดความลึก 130 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว ท่อ PVC 13.5 และติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบ Submersible Pump ขนาด 230 เมตร โครงการนี้มีงบประมาณ 440,900 บาท ดำเนินการโดยเทศบาลตำบลต้นธงชัย ผ่านสัญญาว่าจ้างกับ หจก.เอ.เอ็น.ที คอนสตรัคชั่น แอนด์เซอร์เวย์อิ่ง  ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67


จากการตรวจสอบเบื้องต้นและสอบถามข้อมูลจากชาวบ้าน พบว่าบ่อน้ำบาดาลสามารถใช้งานได้จริง แต่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าระบบการบริหารจัดการน้ำยังไม่ดีพอ ทำให้บางพื้นที่น้ำไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหาที่พบคือ หลังใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง พบว่าเครื่องสูบน้ำแบบมอเตอร์จมน้ำ (Submersible Pump) สูบน้ำได้น้อยลง ทางเทศบาลจึงเรียกผู้รับจ้างเข้ามาตรวจสอบ และพบว่ามีทรายละเอียดจำนวนมากเข้าไปอุดตันในตัวเครื่อง เป็นผลจากลักษณะพื้นที่ซึ่งมีทรายละเอียดมาก ประกอบกับไม่มีการสูบน้ำต่อเนื่อง ทำให้ตะกอนสะสมจนเครื่องทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ  โดยผู้รับจ้างได้นำเครื่องสูบน้ำออกไปตรวจเช็คและทำความสะอาด ก่อนนำกลับมาติดตั้งใหม่เรียบร้อย และสามารถใช้งานได้ตามปกติ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68

นายธวัชชัย ปินตาสี นายกเทศมนตรีตำบลต้นธงชัย ระบุว่า ช่วงที่มีภาพข่าวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์นั้น เป็นช่วงระหว่างการนำเครื่องไปซ่อม ทำให้เข้าใจผิดว่าโครงการใช้งานไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำของชาวบ้านกว่า 680 หลังคาเรือนในช่วงฤดูแล้ง โดยการเสริมระบบประปาหมู่บ้านให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในระยะยาว  ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช. ลำปาง จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง และนำไปใช้ประกอบการพิจารณาต่อไป เพื่อให้การดำเนินการของโครงการเป็นไปอย่างโปร่งใส และถูกต้อง



Share:

"หมูแท้แท้" ลำปาง สวรรค์ของคนรักหมู! อร่อย สะอาด จัดจ้าน ฟินทุกคำ

 

สวัสดีจ้า "ลานนาพากิน" รายงานตัว  วันนี้จะพาทุกคนไปบุกร้านอาหารเปิดใหม่ที่กำลังมาแรงในลำปาง  เปิดได้ประมาณ 2 เดือน ได้รับการตอบรับดีมาก  บอกเลยว่าถูกใจสายหมูแน่นอน กับร้าน "หมูแท้แท้" ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็ม

  •  พิกัดไม่ลับกลางเมืองลำปาง

ร้าน "หมูแท้แท้" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำปางเลย  หาไม่ยาก เพราะอยู่หลังก๋วยเตี๋ยวปู่โย่ง และอยู่ข้างล้านทองพลาซ่า ตรงหัวมุมพอดี ร้านอาจจะดูเล็กๆ แต่บอกเลยว่าสะอาดสะอ้าน บรรยากาศสบายๆ พ่อครัวแม่ครัวมีความตั้งใจในการทำอาหารทุกจาน  เห็นแล้วก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจ!

  •           เมนูเด็ดโดนใจสายหมู

มาถึงเมนูอาหาร..ของเรา ต้องบอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักหมูจริงๆ เพราะทุกเมนูเน้นหมูคุณภาพดี สดใหม่ทุกวัน และทำจานต่อจาน  รับรองได้ความอร่อยแบบเต็มคำ

ข้าวต้มแห้งหมูบะเต็ง หมูหมัก หมูซี่โครง : นี่คือเมนูขายดีอันดับหนึ่งของร้านเลยครับ ความพิเศษอยู่ตรงซอสที่ปรุงรสตามสูตรลับของร้าน  รับรองว่ากลมกล่อมจนต้องสั่งเพิ่ม!

ข้าวต้มแห้ง

ข้าวมันหมูสามชั้นทอดน้ำปลา: แค่ชื่อก็น้ำลายไหลแล้ว! หมูสามชั้นทอดกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด! จะเลือกจิ้มกับ  น้ำจิ้มไข่เค็ม ที่มัน แซ่บนัว หรือ น้ำจิ้มน้ำปลา ที่หวาน เค็ม กลมกล่อม  ก็อร่อยฟินทั้งคู่!



มาม่าต้มยำทรงเครื่องหม้อไฟ : เมนูนี้ก็ฮิตไม่แพ้กัน  ใครชอบความจัดจ้านแซ่บๆ ต้องลอง!

หมูสามชั้นทอดคั่วพริกเกลือ : เมนูนี้ก็ขายดีสุดๆ  หมูสามชั้นทอดกรอบๆ คลุกเคล้ากับพริกเกลือหอมๆ เผ็ดเค็มกำลังดี



หมูสามชั้นทอดผัดแห้งต้มยำ  อีกหนึ่งเมนูที่คนชอบต้มยำต้องลอง และ ข้าวกระเพราหมู เมนูคลาสสิกที่อร่อยแท้แน่นอน  

เมนูเด็ด! พิซซ่าญี่ปุ่นเบคอนกรอบ  เห็นว่าเป็นเมนูใหม่ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ และบอกว่าอร่อยทุกเมนูเลย  ต้องไปลอง!


น้องวันใหม่ หรือ น.ส.ประภาวดี สุขเจริญ พนักงานต้อนรับของร้าน ยืนยันเลยว่าที่ร้านใช้หมูคุณภาพดี สดใหม่ทุกวัน และทำเมนูจานต่อจาน  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความอร่อยแท้จริงของ "หมูแท้แท้" 

ร้าน "หมูแท้แท้" พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 น. ถึง 20:00 น.  ใครอยู่ลำปาง หรือมีโอกาสแวะไปเที่ยว ห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด รับรองว่า "ฟินตัวแตก" แน่นอน



พิกัด https://maps.app.goo.gl/oWjpyK6EopyBiFBv9

Share:

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

กระบะบรรทุกอาหารทะเลเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ หนุ่ม 19 สาหัสติดในรถ กู้ภัยเร่งช่วยชีวิต คาดฝนตกถนนลื่น

 

          เมื่อเวลา 05.57 น. วันที่ 30 ก.ค. 68 สมาคมกู้ภัยลำปาง ศูนย์ประสานงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดลำปางสมาคมกู้ภัยลำปางจุดสบปราบ นำรถกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง รุดตรวจสอบอุบัติเหตุบน ถนนลำปาง-ตาก ช่องทางเข้าเมืองลำปาง เขตบ้านแม่กั๊ว ต.แม่กั๊ว อ.สบปราบลำปาง หลังรับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่าเกิดอุบติเหตุรถกระบะชนต้นไม้มีคนเจ็บติดในรถ

           ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออิซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทาดำ  ด้านหลังติดตั้งคอกเหล็ก ชนต้นไม้ใหญ่ ทำให้รถพังยับเยินยุบเกือบครึ่งคัน โดยคอกกระเด็นหลุดออกจากตัวรถ ภายในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน รถเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางเร่งใช้อุปกรณ์ตัด-ถ่าง ช่วยเหลือคนเจ็บ พื้นที่มีฝนตกถนนลื่น ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถนำร่างคนเจ็บชาย 1 ราย อายุ 19 ปี ชาว อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ออกจากรถได้แล้ว และนำส่งโรงพยาบาลสบปราบ โดยได้นำส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลลำปาง เนื่องจากอาการสาหัส ต่อมาทางร้อยเวรสอบสวน สภ.สบปราบรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ สาเหตุคาดฝนตกถนนลื่น อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่จริงต่อไป

cr. สมาคมกู้ภัยลำปาง

Share:

นายอำเภอแม่เมาะนำทีมบุกค้น! “Re X-ray” กวาดล้างยาเสพติด พบปืน-ยาบ้าเพียบ

 

        วันที่ 29 กรกฎาคม 2568  นายพนมพร ตุ้ยกาศ นายอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง นำทีมเปิดปฏิบัติการเชิงรุก “Re X-ray” ตามนโยบาย No Drugs No Dealers ลุยค้นพื้นที่เสี่ยงในตำบลแม่เมาะ พร้อมด้วยนางสาววรรณวิสา ธรรมสุทธิศักดิ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง และนายเมธา โรจนวิจิตร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับกำลัง อส.อ.แม่เมาะที่ 5 ตำรวจ สภ.แม่เมาะ และผู้นำชุมชน

        ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งค้นหาและตรวจสอบผู้เสพ ผู้ติด และผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อสร้างหมู่บ้านปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

        ผลการตรวจค้น พบผู้กระทำผิด 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 5 เม็ด และอาวุธปืนรวม 5 กระบอก ได้แก่ ปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก  ปืนลูกซองหักลำกล้อง ขนาด 1  ปืนขนาด .22 และ .38 ปืนดัดแปลงไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 เครื่องกระสุนหลากหลายขนาด รวมถึงลูกซองและ 11 มม.

        เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องสร้างชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด




Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์