หากใครผ่านวัดเชียงราย
จังหวัดลำปาง แล้วไม่ได้หันกลับมามองชนิดเหลียวหลัง คงเป็นเรื่องแปลกอย่างมาก
เพราะวันนี้วัดเชียงรายกำลังมีการบูรณะครั้งใหญ่ รวมไปถึงปรับภูมิทัศน์จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
ยิ่งในยามเย็นที่แสงแดดเหลืองอุ่นทาบทาวิหารสีขาวกระจ่างตา
กระจกที่ติดประดับจนทั่วนั้น ส่องสะท้อนแสงจนระยิบระยับงามจับใจนัก
พูดกันตามตรงก็คือ
เราแทบนึกไม่ออกเลยว่า เดิมทีวัดเชียงรายมีศิลปะสถาปัตยกรรมอย่างไร
เพราะกำแพงสูงสีขาวรอบวัดนั้น มิใช่เพียงกางกั้นสายตาของเรา แต่ยังได้ขีดเส้นแบ่งระหว่างคนกับวัดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
แต่ ณ วันนี้ กำแพงถูกทลายลงปรับเป็นเพียงแนวกำแพงเตี้ย ๆ ดูทันสมัย เผยให้เห็นว่าภายในวัดเชียงรายมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิหารและเจดีย์ทางด้านหลัง
ซึ่งได้รับการบูรณะจนดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
ตามประวัติกล่าวว่า
วัดเชียงรายสร้างขึ้นโดยเจ้าชมภู ซึ่งเป็นบุตรชายของเจ้าพระยาเจ่ง ที่ได้อพยพจากเมืองเชียงแสนมาอยู่เมืองลำปาง
พร้อมด้วยเครือญาติ หลังจากลงหลักปักฐานสร้างหมู่บ้านของตนเอง
ก็ได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านเชียงราย” และตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนสมัยก่อน
หลังจากสร้างชุมชนแล้ว ย่อมต้องสร้างวัดขึ้นด้วยเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ ซึ่งแน่นอน
พวกเขาตั้งชื่อวัดว่า “วัดเชียงราย”
เพื่อรำลึกถึงเมืองเชียงรายที่จากมานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม
เจ้าชมภูไม่ได้ถูกกล่าวถึงในแง่อื่น ๆ อีก
แต่ตามประวัติได้ให้ความสำคัญกับเจ้าพระยาเจ่ง ผู้เป็นบิดามากกว่า
พระยาเจ่งเป็นชาวมอญ หลังจากพม่ายึดหัวเมืองฝ่ายเหนือไว้ในอำนาจได้แล้ว
ก็แต่งตั้งให้พระยาเจ่งเป็นผู้รักษาเมืองเชียงแสน โดยท่านเป็นต้นสกุล “คชเสนี” ฝ่ายเหนือ
ย้อนกลับมาที่วัดเชียงราย
เจ้าชมภูยังเป็นผู้นำในการสร้างกำแพงเมืองรุ่นที่ 3 ตั้งแต่บ้านสวนดอกบริเวณถนนรอบเวียง
ผ่านบริเวณห้าแยกหอนาฬิกา แล้ววกอ้อมมาข้างวัดเชียงราย ไปจนสุดฝั่งแม่น้ำวัง
ซึ่งบริเวณห้าแยกหอนาฬิกานั้น มีประตูเมืองที่เรียกว่าประตูเชียงรายอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ประตูเชียงรายจึงร่วมสมัยกับประตูสวนดอก ประตูศรีชุม ประตูชัย
ประตูศรีเกิด หออะม็อก และประตูหัวเวียง วัดเชียงรายเองก็ร่วมสมัยกับวัดสวนดอก
วัดเมืองศาสน์ วัดบุญวาทย์วิหาร วัดศรีเกิด วัดเชตวัน วัดน้ำล้อม
วัดคะตึกเชียงมั่น วัดป่าดัวะ และวัดบุญยืน
อย่างไรก็ตาม
พระเทพวิสุทธิโสภณ
(สิงห์คำ ขัติเชียงราย) อดีตเจ้าอาวาสวัดเชียงรายและอดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง
เคยกล่าวไว้ว่า กำแพงเมืองด้านที่สร้างขึ้นพร้อมกับบ้านเชียงรายและวัดเชียงราย
ได้ถูกรื้อถอนไปเมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นสามเณร
ในสมัยที่พระเทพวิสุทธิโสภณครองวัดเชียงรายอยู่นี้เอง
ท่านได้บูรณะวัดจนเจริญรุ่งเรือง กระทั่งมาขาดช่วงไปได้ 40 กว่าปี
เมื่อปี พ.ศ. 2552 พระปลัดสมโภช ฐิตะธมฺโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
จึงได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเชียงรายอีกครั้ง โดยท่านบอกว่า
จะให้บูรณะวิหารอย่างเดียวคงไม่ได้
ทุกอย่างภายในวัดต้องได้รับการบูรณะพร้อมกันไปทั้งหมด ทั้งนี้ ท่านเจ้าอาวาสประสงค์ที่จะให้วัดเชียงรายสะอาด
ร่มรื่น และสวยงาม
พระปลัดสมโภชให้ความสำคัญกับศาสนวัตถุ
ที่ต้องดูงาม มั่นคง และแข็งแรง ด้านศาสนธรรม ท่านจะทำป้ายธรรมะติดไว้ตามจุดต่าง ๆ
ให้พุทธศาสนิกชนได้อ่านและทำความเข้าใจ จะมีการเปิดเพลงธรรมะ มีการเทศน์ทุกวันพระ
และจะจัดอบรมพุทธศาสนาแก่เยาวชนที่สนใจ ส่วนศาสนบุคคล ท่านเชื่อว่าหากบุคคลเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแล้ว
ย่อมค้ำจุนพระพุทธศาสนา เมื่อนั้นสังคมจะมีแต่ความสงบสุข ถึงที่สุดแล้ว
พระปลัดสมโภชคาดหวังว่า
ต่อไปวัดเชียงรายจะเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้พระพุทธศาสนาและการอาชีพ
หากเข้าประตูทางด้านหลังของวัด
ด้านซ้ายและด้านขวา คือ ศาลาเงินและศาลาทอง ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
เบื้องหน้าจะเห็นเจดีย์ใหญ่ มีการจำลองเจดีย์ 12 นักษัตริย์
รายล้อมอยู่ให้ได้นมัสการโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่จริง ถัดไปคือวิหารทาสีขาวที่มีทางน้ำล้อมรอบ
เปรียบดังห้วงมหรรณพที่เราต้องแหวกว่ายก่อนไปถึงวิหารที่เปรียบดังการหลุดพ้น ภายนอกวิหารเราจะเห็นถึงการประดับลายปูนปั้นและกระจกชิ้นเล็กๆอย่างวิจิตร
พระปลัดสมโภชกล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นการปรับมากกว่า มิใช่การเปลี่ยนแปลง
ภายในวิหาร ผนังรอบด้านที่เคยว่างเปล่า บัดนี้ส่วนล่างติดแผ่นไม้แกะสลักลวดลายพรรณพฤกษา
ส่วนบนมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระพุทธประวัติและภาพเหมือนพระอริยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย
นอกจากวิหารอันน่าตื่นตาในรูปแบบศิลปะประยุกต์
วัดเชียงรายยังมีโครงการปรับปรุงหอสมุด รวมทั้งปรับปรุงกุฏิสุจิตร ปัตตะโชติ
ที่เคยเป็นกุฏิของพระเทพวิสุทธิโสภณ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์พระเทพวิสุทธิโสภณ
ซึ่งภายในเต็มไปด้วยของโบราณที่น่าชม น่าศึกษา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า
ความสนใจในด้านศิลปะของพระปลัดสมโภชนำมาซึ่งการประยุกต์ ดัดแปลง
จนวัดเชียงรายดูร่วมสมัยขึ้นมาก ท่านนำเงินจากการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน และเงินที่สะสมได้จากคณะศรัทธา
ที่บางครั้งมาไกลจากต่างจังหวัด ต่างประเทศ มาบูรณปฏิสังขรณ์วัด ซึ่งตามกำหนดจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งยังทูลเชิญพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จฯ มาทรงยกช่อฟ้า
ในวันนั้นวัดเชียงรายคงสะอาด
ร่มรื่น และสวยงาม ด้วยคำว่าศรัทธา
ซึ่งได้ส่งต่อกันมาตั้งแต่คนรุ่นแรกที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเมื่อไม่ต่ำกว่า
250 ปีที่แล้ว
ท่านใดสนใจร่วมเป็นเจ้าภาพ
หรือตามกำลังศรัทธาที่จะบูรณปฏิสังขรณ์วัดเชียงราย
ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วัดเชียงราย จังหวัดลำปาง โทรศัพท์ 0-5432-2598