นายก
ท.เขลางค์เตรียมจัดซื้อจัดจ้างกรณีพิเศษ หาบริษัทสร้างสำนักงานใหม่ เหตุมีผู้มายื่นซองประมูลรายเดียวจึงต้องประกาศยกเลิกเป็นรอบที่สอง
จากพิษค่าครองชีพและค่าแรงขึ้น
หลังจากที่เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ประกาศจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ รอบ
2 เนื่องจากในรอบแรกกำหนดยื่นซองประมูลในวันที่ 4
ก.ย.56 มีผู้มายื่นเพียงรายเดียว ทั้งที่มีผู้มาซื้อซองประมูลไปถึง 13 ราย
แต่เมื่อเทศบาลประกาศจัดซื้อจัดจ้างฯ รอบ 2 และกำหนดให้ยื่นซองเมื่อวันที่ 21 ต.ค.56 ปรากฏว่ายังคงมีผู้ว่ายื่นซองประมูลเพียงรายเดียวเช่นเดิม
จากผู้มาซื้อแบบทั้งหมด 4 ราย
จึงทำให้ต้องยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างอีกครั้ง
นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง
นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า
หลังจากที่ได้มีการเปิดประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รอบ 2
ที่กำหนดให้ยื่นซองเมื่อวันที่ 21 ต.ต.56
ซึ่งมีผู้สนใจมาซื้อเอกสารประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 ราย นั้น ปรากฏว่ามีผู้มายื่นซองเพียง 1 ราย
ซึ่งตามประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
เรื่องหลักเกณฑ์การซื้อหรือการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดว่า กรณีมีผู้เสนอราคาถูกต้องตามประกาศหนึ่งราย
ให้เสนอหัวหน้าฝ่ายบริหารเพื่อยกเลิกการประมูลทั้งหมด
และดำเนินการใหม่
โดยทางคณะกรรมการดำเนินการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
จึงได้เสนอให้ประกาศยกเลิกประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นครตามระเบียบของทางราชการ
นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับสาเหตุที่มีผู้มายื่นซองประมูลเพียงรายเดียวนั้น
คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาค่าครองชีพ ค่าวัสดุอุปกรณ์ และค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งงบประมาณในการก่อสร้างสำนักงานสูงถึง 176 ล้านบาท
และจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง 600 วัน
ทางผู้รับเหมาจึงอาจจะไม่สามารรถรับภาระตรงนี้ได้
ในส่วนของการแก้ปัญหานั้น
ในต้นเดือนพฤศจิกายน เทศบาลจะทำการจัดซื้อจัดจ้างกรณีพิเศษ
โดยเลือกบริษัทที่ยื่นซองประมูลครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาใหญ่จากกรุงเทพฯ
เข้ามาพูดคุยก่อนว่ายังคงต้องการที่จะรับงานนี้อยู่หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีการต่อรองในเรื่องการกำหนดงวดงานต่างๆได้
นอกจากนั้นได้เตรียมติดต่อบริษัทรับเหมาจากเชียงใหม่ที่มายื่นซองในครั้งแรกไว้ด้วย
นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์ กล่าว
โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ที่จะจัดสร้างบริเวณแยกภาคเหนือบนเนื้อที่ 51 ไร่ 1 งาน 34 ตารางวา ได้กำหนดวงเงินราคากลาง 176, 178,000 บาท โดยตั้งวงเงินงบประมาณไว้ 176,000,000 บาท รูปแบบเป็นอาคาร 4 ชั้น
ขนาดไม่น้อยกว่า 30 * 60 เมตร หรือพื้นที่ไม่น้อยกว่า 7,200 ตารางเมตร จำนวน 1 หลัง พร้อมถมดินและอาคารประกอบอื่นตามแบบ ระยะเวลาดำเนินก่อสร้าง ภายหลังทำสัญญา จำนวน 600
วัน ( 10 งวดงาน)
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 949 วันที่ 25 - 31 ตุลาคม 2556)