บ้านไม้ใต้ถุนสูงย่านถนนท่านางลอย ซอย 2 ในเมืองลำปาง ดูร่มรื่นน่าอยู่เฉกเช่นบ้านในต่างจังหวัดทั่วไป
ออกจะแปลกอยู่บ้างก็ตรงที่ภายในอาณาบริเวณกว้างขวางนั้น
ด้านหลังเรียงรายอยู่ด้วยคอกม้า และใต้ถุนบ้านก็เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์กับยารักษาโรคหลากหลายขนาน
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สำหรับคน แต่สำหรับ...ม้า
เพราะที่นี่คือ คลินิกม้า ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิม้าลำปาง
ซึ่งก่อตั้งโดย สพญ. ดร. ศิรยา ชื่นกำไร โดยมีจุดยืนที่ว่า “ม้ามาอันดับหนึ่ง”
สพญ. ดร. ศิรยา กล่าวในคำนำหนังสือคู่มือเลี้ยงม้าในเมืองไทยว่า
ม้าตามธรรมชาติไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในประเทศเขตร้อนชื้น ยิ่งใกล้เส้นศูนย์สูตร
ยิ่งไม่ใช่ที่ชอบของสัตว์ประเภทนี้เลย ดังนั้น
การเลี้ยงม้าในประเทศไทยจึงไม่ใช่ของง่าย ๆ หากแต่เป็นความท้าทายอย่างมาก
เพราะเป็นการฝืนธรรมชาติ
ทั้งนี้ เจ้าของม้ามักสรุปเอาเองว่า สาเหตุที่ม้าของพวกเขาตายก็เพราะ “หมอมาไม่ทัน”
ซึ่งทำให้หมอม้าที่รักม้ารันทดใจมาก เพราะมันเป็นคำพูดที่สะท้อนให้เห็นว่า เจ้าของม้าไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตม้าที่เขาเลี้ยงเลย
และยิ่งรันทดหนักเมื่อสิ่งที่ทำให้ม้าเหล่านี้ป่วยตาย
มักจะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้...ป้องกันได้อย่างไร
ก็จากการเลี้ยงม้าด้วยความรู้ที่ถูกต้อง
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจธรรมชาติม้านั่นเอง
“จริง ๆ แล้วอาจสรุปได้ว่า สิ่งที่คุกคามสุขภาพม้าก็คือมนุษย์เรานี่แหละครับ” ธนกร อรุณส่องแสงดี ผู้จัดการมูลนิธิม้าลำปาง
ซึ่งดูแลคลินิกม้าเป็นหลัก พูดอย่างจริงจัง
กล่าวอย่างถึงที่สุดก็คือ ความไม่รู้และความเชื่อแบบเดิม ๆ
ของเจ้าของม้า ทำให้การเลี้ยงม้าเป็นไปแบบไม่ถูกต้อง
นำมาซึ่งอาการเจ็บป่วยและการรักษาอย่างไม่ถูกวิธี และในที่สุดก็ทำให้พวกเขาเสียม้าไป
ธนกรและทีมสัตวแพทย์จึงไม่เพียงทำหน้าที่เยียวยาม้าป่วย
แต่ยังมีภาระหนักอึ้งในการที่จะต้องหาทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของคนเลี้ยงม้า
เพื่อให้ตระหนักถึงต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้ คลินิกม้าจึงไม่อยู่กับที่ แต่มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่พร้อมออกให้บริการตามความจำเป็นเร่งด่วน
และยังมีการจัดอบรมเกี่ยวกับม้าทุกเรื่องหากได้รับการร้องขอจากกลุ่มคนเลี้ยงม้าต่าง
ๆ ครอบคลุมทั้งจังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่
จังหวัดน่าน และจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่สำคัญ ค่ารักษาพยาบาลยังถูกแสนถูกหากเทียบกับการนำสุนัข
หรือแมวสักตัวไปรักษาตามคลินิกสัตวแพทย์ทั่วไป
คลินิกม้าก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 แรก ๆ ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจนัก แต่ผ่านมานานนับสิบปี ธนกรมองว่า
คลินิกม้าได้รับความไว้วางใจจากคนเลี้ยงม้าในเมืองลำปางมากขึ้น
ทุกวันนี้เมืองลำปางมีม้าประมาณ 400 กว่าตัว ในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่มาเข้ารับการรักษากับคลินิกม้า
ไม่ว่าอัลตราซาวนด์ เอ็กซเรย์ ทำฟัน หรือรักษาทั่วไป โดยสาเหตุอันดับต้น ๆ
ที่ทำให้ม้าป่วยมาจากอาการเสียดท้อง ซึ่งสามารถทำให้ม้าตายได้ในชั่วเวลาข้ามคืน
แม้อาการเสียดท้องจะมีสาเหตุหลักมาจากอาหาร
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ย้อนกลับไปสู่ต้นธารของปัญหาที่แท้จริง นั่นก็คือ
ความไม่เข้าใจธรรมชาติของม้านั่นเอง
“คนเลี้ยงม้าในบ้านเรามี 2 ประเภทครับ
ประเภทแรกซึ่งมีจำนวนมาก คือ เลี้ยงเพื่อทำรายได้ ประเภทที่สอง คือ
เลี้ยงเพราะรักม้าจริง ๆ” ธนกรว่า “เวลาเราเห็นม้า เราจะรู้เลยว่าม้าตัวนั้นได้รับความรักจากเจ้าของหรือเปล่า
ถ้าม้าเป็นมิตรก็แสดงว่าเขาได้รับความรัก ความดูแลเอาใจใส่ดี แต่ถ้าเขาก้าวร้าว
มันก็สะท้อนให้เห็นถึงนิสัยของคนเลี้ยงม้าได้เลยครับ”
เช่นนี้ การเลี้ยงม้าจึงไม่ใช่แค่การให้อาหาร หรือจัดการด้านที่หลับที่นอน
เพราะม้าต้องการมากกว่านั้น พวกเขาต้องการความรักและความรับผิดชอบ
“เราอยากให้คนเลี้ยงม้าอย่างรับผิดชอบ เวลานำม้าป่วยมาไว้ที่คลินิก
คุณจะต้องเอาหญ้ามาให้เขากินเอง เก็บคอกเอง
ไม่ใช่นำเขามาทิ้งไว้แล้วแค่โทรศัพท์มาถามอาการ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะบอกเลยว่า
ม้าคุณไม่เป็นอะไรหรอกครับ เขาแค่คิดถึงเจ้าของ”
ธนกรพูดพลางยิ้ม
สายมากแล้ว รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อบรรทุกหยูกยาและอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อมออกเดินทาง
ธนกรกำลังจะไปดูม้าที่มีอาการเสียดท้อง ซึ่งรักษาต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาถอนหายใจแล้วโคลงศีรษะ
เท่านี้เราก็รู้แล้วว่า โอกาสรอดของม้าตัวนั้นริบหรี่เต็มที
ดูเหมือนว่าปาฏิหาริย์จะไม่ใช่สิ่งที่ธนกรร้องขอ
ในฐานะคนที่คลุกคลีกับม้ามายาวนาน เขาหวังว่าสักวัน มนุษย์จะรักและเข้าใจม้ามากขึ้นแค่นั้นเอง
.............
คลินิกม้าลำปาง เลขที่ 2 ซอย 2 ถนนท่านางลอย ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองฯ
จังหวัดลำปาง 52000 โทรศัพท์ 08-1612-8724 เว็บไซต์ www.lampangponywelfare.com
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 950 วันที่ 15 - 21 พฤศจิกายน 2556)