อุตุฯเผยลำปางอากาศจ่อเย็นลงอีก
2-3 องศาและมีหมอกหนา เตือนผู้ใช้รถโดยเฉพาะช่วงแนวเขา ทัศนวิสัยอาจต่ำกว่า 200
เมตร
ขณะเดียวกันต้องเฝ้าระวังพิเศษด้านการบินทุกชั่วโมง หลังจากเมื่อวันที่ 4
ธ.ค.ประสบปัญหาหมอกหนาทำให้ไม่สามารถลงจอดได้ เครื่องดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง
จากช่วง
2-3 วันที่ผ่านมาสภาพอากาศที่ จ.ลำปาง เริ่มเย็นลง โดยตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.56
ที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 15.5 องศาเซลเซียส
พร้อมกับมีหมอกจัดทำให้การใช้รถใช้ถนนต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในวันที่ 4 ธ.ค. อุณหภูมิต่ำสุดที่ 16
องศาเซลเซียส แต่กลับหมอกลงจัดทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่สามารถมองเห็นได้ในระยะ
200 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังทำให้ประสบปัญหาทางด้านการบิน เนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นบนท้องฟ้า มองเห็นต่ำกว่า 1,500
เมตร มีเมฆหมอกปกคลุม จนมองไม่เห็นรันเวย์
ส่งผลให้เที่ยวบินที่จะบินลง จ.ลำปาง ในวันดังกล่าวไม่สามารถลงจอดได้
ต้องบินวนนานกว่า 25 นาที จึงลงจอดได้ในเวลา 09.40
น. สำหรับวันที่ 5 ธ.ค. หมอกเบาบางลง
ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ระยะ 4 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 14.3 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าทุกวันที่ผ่านมา
ทั้งนี้
กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 6–11 ธ.ค.
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่
9-11 ธ.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง
ส่วนทางภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 5-10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18
องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค.
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง
นายทิวา
พันธุ์ไม้สี ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาอุณหภูมิเริ่มลดลงและมีหมอกจัดในตอนเช้า
โดยเฉพาะในวันที่ 4 ธ.ค.ที่ จ.ลำปางมีหมอกหนามาก
และมีปัญหาเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้
ทำให้เครื่องดีเลย์ไปเกือบครึ่งชั่วโมง
ซึ่งในเรื่องการบินทางอุตุฯจะต้องมีการตรวจเช็คทุกชั่วโมง
หรือจะบอกว่าต้องตรวจเช็คสภาพอากาศทุกนาทีเลยก็ว่าได้เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอด
หากเครื่องบินยังไม่ลงจอดเราก็ไม่สบายใจ
โดยจะมีเครื่องมือตรวจสอบสภาพพื้นที่ท้องฟ้า
และส่งรายงานไปยังหอบังคับการบินทุกชั่วโมง หากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะรายงานเข้าไปทันที
อุตุฯลำปาง
กล่าวอีกว่า ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้
อุณหภูมิก็จะลดลงอีก เนื่องจากความกดอากาศสูงระรอกใหม่แผ่ลงมา
จะทำให้มีหมอกหนาแต่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะเป็นอย่างไรนั้น
จะต้องดูปัจจัยวันต่อวันไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถใช้ถนน จะต้องระมัดระวังในการขับขี่ให้มาก
ไม่ขับรถด้วยความเร็ว ในช่วงเวลาตั้งแต่ 06.00-09.00 น. จะเป็นช่วงที่มีหมอกลงจัด โดยน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ใช้ถนนเดินทางไกลตามเส้นทางที่ต้องขึ้นเขา
เช่น ดอยขุนตาล อ.ห้างฉัตร หรือเส้นทาง อ.แจ้ห่ม อ.งาว
ที่มีแนวเขาเกือบตลอดเส้นทาง
เพราะช่วงแนวเขาจะมีหมอกหนากว่าทางราบ จึงฝากเตือนประชาชนให้ขับขี่รถอย่างมีสติ
และระมัดระวังด้วย
ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเช้า
ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าการเดินทางไปทำงานค่อนข้างลำบากขึ้น
ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยงเมืองที่มีหมอกหนาจนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้
เจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยเนชั่นรายหนึ่ง
เปิดเผยว่า ได้ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองลำปาง-แพร่เป็นประจำ
เพราะเป็นเส้นทางไปยังสถานที่ทำงาน ซึ่งการเดินทางจะใช้ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์สับเปลี่ยนกันไป
โดยจะออกจากบ้านช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. จะเป็นช่วงที่หมอกหนามาก
ซึ่งเส้นทางที่ถนนเลี่ยงเมืองทีเดินทางไปทำงานนั้น
ส่วนใหญ่สองข้างทางจะแวดล้อมด้วยป่า จะมีบ้านเรือนเป็นบางช่วง
และมีถนนสายรองที่ออกมาเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอยู่หลายจุด
การขับรถต้องขับอย่างระมัดระวังมาก มองไม่เห็นทางข้างหน้า ต้องมองรอบด้านเพราะไม่รู้ว่ารถจะออกมาทางไหนบ้าง
และอีกอย่างเส้นทางนี้รถค่อนข้างขับเร็ว รู้สึกว่าอันตราย โดยส่วนตัวไม่ได้ขับรถเร็วและระวังตัวอยู่แล้ว
เพราะคิดว่าอุบัติเหตุเกิดได้ทุกเมื่อถึงแม้ว่าสาเหตุจะไม่ได้เกิดจากเราก็ตาม
เมื่อเจอปัญหาหมอกอีกก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษจริงๆ
ด้านเจ้าหน้าที่
กฟผ.แม่เมาะ ที่ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองเป็นประจำเช่นกัน ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เริ่มมีหมอกหนาช่วง
3 วันที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้
คาดว่าทัศนวิสัยในการมองเห็นคงจะไม่ถึง 100 เมตร
โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนขับรถเองเพราะนั่งรถโดยสารที่ทาง กฟผ.จัดให้ไปทำงาน ซึ่งมีความมั่นใจในคนขับรถมาโดยตลอด
เพราะขับรถสุภาพ ไม่ขับเร็วจนเกินไป แต่ขณะนี้จากสภาพหมอกที่เห็นก็เป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของตนเองและผู้โดยสารในรถเช่นกัน
จึงฝากไปถึงผู้ที่ขับรถโดยสารทุกคนด้วยว่าขออย่าประมาทในการขับขี่
เพราะมีคนฝากชีวิตไว้กับท่านจำนวนมาก
ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาหมอกลงจัดตั้งแต่วันที่
3-5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่ในปี 2555 ที่ผ่านมา ช่วงเดือน ธ.ค.
ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนในช่วงเช้า ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งด้วยกัน ซึ่งสาเหตุอาจมาจากปัญหาสภาพอากาศ
และความประมาทของผู้ขับขี่รถ เช่น
เหตุการณ์ วันที่ 22 ธ.ค. 55 เวลา 09.30 น.รถปิกอัพชนกับรถเก๋ง มีผู้เสียชีวิต 1
ราย บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-งาว
หน้าสนามกอล์ฟ มทบ.32 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง , วันที่ 29 ธ.ค.55 เวลา 09.00 น. เกิดอุบัติเหตุบนถนนพหลโยธินสาย ตาก-ลำปาง ฝั่งขาขึ้น
ช่วงหลัก กม.ที่ 592-593 หมู่ 5 บ้านพระบาทวังตวง
ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง
รถปิกอัพชนเสาไฟฟ้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 คน , วันที่ 3 ม.ค.56 เวลา 07.00
น.เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนข้ามถนน เยื้องโรงแรมโมนาลิซ่าอินน์ บ้านฟ่อน หมู่ 2
ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง สาเหตุจากหมอกลงจัดจึงทำให้มองไม่เห็นคนข้ามถนน
ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับรถหนีไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 955 6 - 12 ธันวาคม 2556)