วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ลำปางหนาวแน่ เตือนรถระวังหมอกจัด 200 ม. มองไม่เห็น


อุตุฯเผยลำปางอากาศจ่อเย็นลงอีก 2-3 องศาและมีหมอกหนา เตือนผู้ใช้รถโดยเฉพาะช่วงแนวเขา ทัศนวิสัยอาจต่ำกว่า 200 เมตร  ขณะเดียวกันต้องเฝ้าระวังพิเศษด้านการบินทุกชั่วโมง หลังจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ประสบปัญหาหมอกหนาทำให้ไม่สามารถลงจอดได้ เครื่องดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง

จากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาสภาพอากาศที่ จ.ลำปาง เริ่มเย็นลง โดยตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 15.5 องศาเซลเซียส พร้อมกับมีหมอกจัดทำให้การใช้รถใช้ถนนต้องระวังเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะในวันที่ 4 ธ.ค. อุณหภูมิต่ำสุดที่ 16 องศาเซลเซียส แต่กลับหมอกลงจัดทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่สามารถมองเห็นได้ในระยะ 200 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังทำให้ประสบปัญหาทางด้านการบิน เนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นบนท้องฟ้า มองเห็นต่ำกว่า 1,500 เมตร มีเมฆหมอกปกคลุม จนมองไม่เห็นรันเวย์ ส่งผลให้เที่ยวบินที่จะบินลง จ.ลำปาง ในวันดังกล่าวไม่สามารถลงจอดได้ ต้องบินวนนานกว่า 25 นาที จึงลงจอดได้ในเวลา 09.40 น.  สำหรับวันที่ 5 ธ.ค. หมอกเบาบางลง ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ระยะ 4 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่  14.3 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าทุกวันที่ผ่านมา  

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 611 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

ส่วนทางภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 5-10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส  ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

นายทิวา พันธุ์ไม้สี ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า  ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาอุณหภูมิเริ่มลดลงและมีหมอกจัดในตอนเช้า โดยเฉพาะในวันที่ 4 ธ.ค.ที่ จ.ลำปางมีหมอกหนามาก และมีปัญหาเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ ทำให้เครื่องดีเลย์ไปเกือบครึ่งชั่วโมง  ซึ่งในเรื่องการบินทางอุตุฯจะต้องมีการตรวจเช็คทุกชั่วโมง หรือจะบอกว่าต้องตรวจเช็คสภาพอากาศทุกนาทีเลยก็ว่าได้เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอด หากเครื่องบินยังไม่ลงจอดเราก็ไม่สบายใจ  โดยจะมีเครื่องมือตรวจสอบสภาพพื้นที่ท้องฟ้า และส่งรายงานไปยังหอบังคับการบินทุกชั่วโมง หากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะรายงานเข้าไปทันที

อุตุฯลำปาง กล่าวอีกว่า  ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้ อุณหภูมิก็จะลดลงอีก เนื่องจากความกดอากาศสูงระรอกใหม่แผ่ลงมา จะทำให้มีหมอกหนาแต่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องดูปัจจัยวันต่อวันไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้  แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถใช้ถนน จะต้องระมัดระวังในการขับขี่ให้มาก ไม่ขับรถด้วยความเร็ว ในช่วงเวลาตั้งแต่ 06.00-09.00 น. จะเป็นช่วงที่มีหมอกลงจัด  โดยน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ใช้ถนนเดินทางไกลตามเส้นทางที่ต้องขึ้นเขา เช่น ดอยขุนตาล อ.ห้างฉัตร หรือเส้นทาง อ.แจ้ห่ม อ.งาว ที่มีแนวเขาเกือบตลอดเส้นทาง  เพราะช่วงแนวเขาจะมีหมอกหนากว่าทางราบ จึงฝากเตือนประชาชนให้ขับขี่รถอย่างมีสติ และระมัดระวังด้วย

ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเช้า ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าการเดินทางไปทำงานค่อนข้างลำบากขึ้น ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยงเมืองที่มีหมอกหนาจนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้

เจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยเนชั่นรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองลำปาง-แพร่เป็นประจำ เพราะเป็นเส้นทางไปยังสถานที่ทำงาน ซึ่งการเดินทางจะใช้ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์สับเปลี่ยนกันไป โดยจะออกจากบ้านช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. จะเป็นช่วงที่หมอกหนามาก ซึ่งเส้นทางที่ถนนเลี่ยงเมืองทีเดินทางไปทำงานนั้น ส่วนใหญ่สองข้างทางจะแวดล้อมด้วยป่า จะมีบ้านเรือนเป็นบางช่วง และมีถนนสายรองที่ออกมาเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอยู่หลายจุด การขับรถต้องขับอย่างระมัดระวังมาก มองไม่เห็นทางข้างหน้า  ต้องมองรอบด้านเพราะไม่รู้ว่ารถจะออกมาทางไหนบ้าง และอีกอย่างเส้นทางนี้รถค่อนข้างขับเร็ว รู้สึกว่าอันตราย  โดยส่วนตัวไม่ได้ขับรถเร็วและระวังตัวอยู่แล้ว เพราะคิดว่าอุบัติเหตุเกิดได้ทุกเมื่อถึงแม้ว่าสาเหตุจะไม่ได้เกิดจากเราก็ตาม  เมื่อเจอปัญหาหมอกอีกก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษจริงๆ

ด้านเจ้าหน้าที่ กฟผ.แม่เมาะ ที่ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองเป็นประจำเช่นกัน  ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เริ่มมีหมอกหนาช่วง 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ คาดว่าทัศนวิสัยในการมองเห็นคงจะไม่ถึง 100 เมตร โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนขับรถเองเพราะนั่งรถโดยสารที่ทาง กฟผ.จัดให้ไปทำงาน ซึ่งมีความมั่นใจในคนขับรถมาโดยตลอด เพราะขับรถสุภาพ ไม่ขับเร็วจนเกินไป แต่ขณะนี้จากสภาพหมอกที่เห็นก็เป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของตนเองและผู้โดยสารในรถเช่นกัน จึงฝากไปถึงผู้ที่ขับรถโดยสารทุกคนด้วยว่าขออย่าประมาทในการขับขี่ เพราะมีคนฝากชีวิตไว้กับท่านจำนวนมาก   


ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาหมอกลงจัดตั้งแต่วันที่ 3-5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด  แต่ในปี 2555 ที่ผ่านมา ช่วงเดือน ธ.ค. ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนในช่วงเช้า ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งด้วยกัน  ซึ่งสาเหตุอาจมาจากปัญหาสภาพอากาศ และความประมาทของผู้ขับขี่รถ  เช่น เหตุการณ์ วันที่ 22 ธ.ค. 55 เวลา 09.30 น.รถปิกอัพชนกับรถเก๋ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-งาว  หน้าสนามกอล์ฟ มทบ.32 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง   , วันที่ 29 ธ.ค.55 เวลา 09.00 น. เกิดอุบัติเหตุบนถนนพหลโยธินสาย ตาก-ลำปาง ฝั่งขาขึ้น ช่วงหลัก กม.ที่ 592-593  หมู่ 5 บ้านพระบาทวังตวง ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง  รถปิกอัพชนเสาไฟฟ้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 คน  , วันที่ 3 ม.ค.56 เวลา 07.00 น.เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนข้ามถนน เยื้องโรงแรมโมนาลิซ่าอินน์ บ้านฟ่อน หมู่ 2 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง สาเหตุจากหมอกลงจัดจึงทำให้มองไม่เห็นคนข้ามถนน ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับรถหนีไป 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 955  6 - 12 ธันวาคม 2556) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์