วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ตร.รวบทันควัน ฆาตกรโหดเชือดคอชิงทรัพย์แม่ค้าไก่


คนร้ายบุกบ้านแม่ค้าไก่สด ฟันไม่ยั้งกว่า 10 แผลเลือดกระจาย ค้นของมีค่าหลบหนี ตำรวจตั้งปมชิงทรัพย์ แค้นส่วนตัว  ตกเย็นสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ตามรวบตัวฆาตกรทันควัน หลังมีเพื่อนบ้านแจ้งเบาะแสเห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยมาจอดใกล้บ้านที่เกิดเหตุ จึงสืบจนทราบตัวและจับกุมได้ ขณะที่หลบหนีไปอยู่บ้านญาติเขต ต.บ้านเอื้อม พบเป็นคนเคยนำไก่มาขาย สารภาพแอบเข้าไปขโมยกล้วยแล้วถูกผู้ตายต่อว่าจึงโมโห อาศัยช่วงผู้ตายเผลอย่องเข้าไปใช้ไม้ฟาดศีรษะคาจานข้าว แต่ยังไม่ตายจึงคว้ามีดแทงคอหลายครั้งจนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ธ.ค. 2556 พ.ต.ท.สมควร เกตุเทศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 11 บ้านป่ายะ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง จึงออกไปทำการสอบสวนร่วมกับ พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ฐนกร คุ่มวงศ์ ผกก.สภ.เมือง แพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง บ้านหลังเกิดเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงติดกับตัวบ้านทางทิศใต้ลักษณะเป็นห้องนอนที่เจ้าของปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เจ้าหน้าที่พบศพหญิงนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ริมประตูทางเข้าห้อง เหนือศีรษะไปเล็กน้อยมีขันโตกที่ใส่อาหารและข้าวเหนียววางอยู่ โดยมีเลือดกองใหญ่ไหลเป็นทางนองทั่วพื้นกระเบื้อง และที่ผนังห้องทั้งด้านซ้ายและขวามีหยดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังพบว่าคนร้ายเข้าไปรื้อข้าวของจนกระจัดกระจายไปทั่ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบรอยเท้าเปื้อนเลือดเหยียบย่ำอยู่รอบศพ อีก 1 รอย เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินอะไรหายไปบ้าง เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บหลักฐานเพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบหาตัวคนร้ายเสียก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ  นางนิ่มนวล ใจปลา อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าผู้ตายถูกฟันด้วยของมีคมบาดแผลฉกรรจ์บริเวณ ใบหน้า ลำคอ ท้ายทอย รวมกว่า 10 แผล
          
จากการสอบถามนายหรั่ง ใจปลา อายุ 60 ปี สามีของผู้ตายและเป็นคนมาพบศพภรรยาเป็นคนแรกทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีผู้อยู่อาศัยรวม 3 คนด้วยกัน คือ ตนเอง ภรรยาและลูกสาว และเมื่อเช้านี้ตนเองออกจากบ้านไปส่งไก่สด พร้อมกับนั่งขายไก่อยู่ที่ตลาดรัตน์เก๊าจาวตามปกติ ส่วนภรรยาก็มีหน้าที่คอยไปส่งลูกสาวไปโรงเรียน จากกนั้นก็จะกลับมาทำงานบ้าน และในตอนเย็นนางนิ่มนวลจึงจะออกจากบ้านไปขายนั่งไก่ที่ตลาดบ้านนาก่วมใต้ และก่อนที่จะพบศพของภรรยานั้นตนเองก็เพิ่งจะกลับจากขายของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านก็พบว่านางนิ่มนวลถูกฆ่าตายเสียแล้ว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฯมาทำการสอบสวน และจนถึงขณะนี้ตนเองก็ยังไม่ทราบว่าภรรยาถูกฆ่าจากสาเหตุใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี โดยตั้งปมการฆาตกรรมไว้ 2 ประเด็นคือ ฆ่าชิงทรัพย์ และความแค้นส่วนตัว  เนื่องจากคนร้ายฆ่านางนิ่มนวลอย่างโหดเหี้ยม และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกระจุกผมจำนวนยาวประมาณ 15 ซม.หนึ่งกระจุกตกอยู่ข้างศพของผู้ตาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบว่าเส้นผมเป็นของคนร้ายหรือว่าเป็นของผู้ตาย

ต่อมา เวลา 17.45 น. พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง   พ.ต.อ.ฐนกร คุ้มวงค์  ผกก.สภ.เมืองลำปาง  พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองลำปาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาฆ่า นางนิ่มนวล ใจปลา อายุ 53 ปี  บ้านเลขที่ 149 หมู่ 11 บ้านป่ายะ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง   โดยผู้ตายถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณใบหน้าและลำคอกว่า 10 แผล เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน   ซึ่งผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายอัครเดช หรือ เดช หมูแสงทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/1 บ้านทุ่งโค้ง หมู่ 3 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง   เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางที่ใช้ก่อเหตุมาเป็นหลักฐานประกอบด้วย มีดทำครัว 1 เล่ม  รองเท้า ถุงมือ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ  รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีแดง หมายเลขทะเบียน กกล 226 เชียงราย  พร้อมสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์

พล.ต.ต.พรชัย  กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด โดยได้สอบถามจากพยานใกล้เคียง จนกระทั่งพบว่ามีพยานพบเห็นว่าได้นายอัครเดช หมูแสดงทอง ได้นำรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าดรีม สีแดง มาจอดไว้ใกล้กับบ้านผู้ตาย ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วรถคันดังกล่าวได้หายไป  เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันสืบสวนติดตามตัวนายอัครเดช และทราบว่าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปพักอยู่บ้านญาติในเขต ต.บ้านเอื้อม  จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเอื้อม ร่วมกับควบคุมตัวมาทำการสอบสวน  และนายอัครเดชให้การรับสภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางนิ่มนวลจริง พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

นายอัครเดช  ยอมรับสารภาพว่า  ตนเองรู้จักกับผู้ตายแต่ไม่ได้สนิทกัน เพราะเคยนำไก่มาขาย ในตอนเช้าได้ไปรับจ้างทำงานแถวบ้านผู้ตาย  และเห็นว่าในบ้านมีกล้วยกำลังออกหวีจึงจะเข้าไปขโมย แต่ผู้ตายมาเห็นและได้ต่อว่าตนเองจึงโมโหมาก ได้ออกไปหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆบ้านรอให้ผู้ตายเผลอ ขณะที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่จึงได้นำไม้พาดที่ศีรษะหลายครั้งจนสลบแต่ยังไม่เสียชีวิต  เมื่อหันเห็นมีดวางอยู่ใกล้ก็ได้คว้ามีดมาแทงอีกหลายครั้งจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว  จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ออกมาด้วย ก่อนจะกลับไปที่บ้านนำมีดมาซ่อนไว้ใต้ที่นอน และ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองย่าน ต.สบตุ๋ย  ได้เงินมา 16,200 บาท  แล้วกลับมานำเสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุไปให้ร้านซักอบรีด ก่อนจะออกไปตระเวนซื้อเบียร์ดื่มหมดเงินไป 6,000 บาท และหลบไปอยู่บ้านญาติจนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวได้


ทั้งนี้ ขณะที่แถลงข่าวนั้น นายอัครเดช ได้มีอาการมึนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง และไม่ได้มีอาการสำนึกผิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 958  27  ธันวาคม - 2 มกราคม 2557)    
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์