ลำปางเตรียมประกาศ
“100 วันอันตราย” คนลำปาง ร่วมใจ ไม่เผา ลดปัญหาหมอกควัน
เริ่มดีเดย์ 27ม.ค. ถึง 5 พ.ค.57
เพื่อดำเนินมาตรการเชิงรุกอย่างเข้มข้น
ทั้งมาตรการทางกฎหมายและทางสังคม
นายสุรพล
สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง
ในปี 57
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยสั่งการให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปางขึ้น
ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานที่รวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ ดำเนินมาตรการเชิงรุกไม่ให้มีการเผาในพื้นที่เสี่ยง
ร่วมกับการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควันไฟป่า
ประชาสัมพันธ์ทางสื่อหลัก สื่อออนไลน์ และเครือข่ายส่วนราชการต่างๆ อีกทั้ง
ให้ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนเฝ้าระวังและลาดตระเวนอย่างเข้มข้น
ให้หน่วยงานสาธารณสุขเผยแพร่ข้อมูลและความรู้แก่ประชาชน
โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยให้ปฏิบัติตนในช่วงวิกฤตการณ์หมอกควันอย่างปลอดภัย
นายสุรพล
กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดลำปาง เมื่อปี 2556 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง
รายงานการเกิดไฟป่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.55 – 5 มิ.ย. 56 เกิดไฟป่าขึ้น
304 ครั้ง มีพื้นที่ถูกไฟไหม้เกือบ 2 พันไร่
โดยเฉพาะเดือนมีนาคมสถานการณ์จะรุนแรงและต่อเนื่อง พบการเกิด Hot Spot ขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์, ป่าสงวนแห่งชาติ
และพื้นที่การเกษตร กว่า 540 ครั้ง
พบสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
สาเหตุมาจากการลักลอบเผาพื้นที่ป่าและเผาพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร
ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 10 เกินมาตรฐาน 120
ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถึง 28 วัน
โดยค่าสูงสุด เมื่อวันที่ 25 มี.ค.56 อยู่ที่
351 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีช่วงที่ค่า PM 10 เกินมาตรฐานเกินต่อเนื่อง 11 วัน ระหว่างวันที่ 21
- 31 มี.ค. 56 และปีนี้แนวโน้มการเกิดไฟป่าจะรุนแรงขึ้น
เนื่องจากสภาพอากาศหนาวและแห้งแล้ง
จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากประชาชนชาวลำปางทุกภาคส่วน
ปลัดจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า จังหวัดลำปางได้จัดทำแผนจัดการไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2557 กำหนดประกาศช่วงห้ามเผา
“100 วันอันตราย” ระหว่างวันที่ 27 ม.ค. ถึง 5 พ.ค.57 ซึ่งจะมีการตั้ง
War Room หรือศูนย์รับแจ้งเหตุขึ้น
ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง
และที่ทำการปกครองอำเภอทั้ง 13 แห่ง
จัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรประจำตลอด 24 ชั่วโมง
ให้ผู้ปฏิบัติทุกฝ่ายทำงานอย่างจริงจัง ไม่ถือเป็นงานฝากอีกต่อไป
โดยเฉพาะพื้นที่ดอยพระบาท หลังศาลากลาง และสุสานจีน ให้เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ
โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างอำเภอเมือง อำเภอแม่เมาะ
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อติดตามสถานการณ์และรายงานทุกวัน
ส่วนช่วงถนนที่มีไฟไหม้บ่อย ๆ มอบให้หน่วยงานกรมทางหลวงเป็นเจ้าภาพ
โดยท้องถิ่นสนับสนุน ร่วมกับแขวงการทาง และนายอำเภอท้องที่
หากเกิดไฟไหม้ให้รีบดับทันที นอกจากนี้ยังได้เปิด Line เป็นช่องทางในการสื่อสารกันตลอดเพื่อให้ผู้พบเห็นถ่ายภาพ
แจ้งจุด Hot Spot เข้ามายังศูนย์รับแจ้งเหตุทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ
ปลัดจังหวัดลำปาง
กล่าวอีกว่า ในช่วง 100
วันอันตรายเป็นช่วงที่จะต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น
เนื่องจากทุกปีเกิดผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าอย่างรุนแรง
นอกจากจะใช้มาตรการทางกฎหมายแล้วยังใช้มาตรการทางสังคม โดยขอความร่วมมือ กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน และผู้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจผู้นิยมหาของป่า
เพื่อขึ้นทะเบียน และคอยสอดส่องเป็นหูเป็นตา ดูแลการเกิดไฟป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่
ส่วนในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้ทำความเข้าใจและรณรงค์นำวัชพืชมาทำปุ๋ยหมักและไถกลบ
พร้อมทั้งเสนอให้ท้องถิ่นตั้งธนาคารใบไม้
เพื่อรับแลกขยะเศษวัชพืชจากชาวบ้านไปทำปุ๋ยหมัก ซึ่งขณะนี้หน่วยงาน
กฟผ.แม่เมาะรับว่าจะนำใบไม้ไปทำเชื้อเพลิงซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันทุกฝ่าย
“จังหวัดลำปางได้ตั้งกองทุนป้องกันไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปางขึ้น
เพื่อขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน
นำไปช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่ที่ขาดแคลนและไม่มีงบดำเนินการ
โดยขณะนี้มีผู้สนับสนุนแล้วกว่า 3 แสนบาท
โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณความความจำเป็นจริงๆ
และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน” นายสุรพล กล่าว
ทั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง คาดหวังว่าจะรักษาสถานภาพจังหวัดลำปางไม่ให้ค่า PM 10 เกินมาตรฐานในปีนี้
หรือ ถ้าเกินก็ให้เกินน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
คุณภาพชีวิตของประชาชน และเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดลำปาง
จะเป็นไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือประชาชน
และส่วนงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่จะได้ช่วยกันอย่างเต็มที่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวลำปางทุกคน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 960 10 - 16 มกราคม 2557)