วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

โลกคู่ขนานบนเส้นทาง 2017 จากห้างฉัตรถึงแม่ทา


วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทางหลวงหมายเลข 11 ซึ่งมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่พลุกพล่านไปด้วยรถยนต์ คู่ขนานกันช่วงอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง มีทางหลวงชนบท ลป. 2017 ทางลาดยางขนาดสองเลนที่ทะลุออกอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูนได้ เส้นทางสายนี้ทอดยาวลัดเลาะไปตามหมู่บ้านเล็ก ๆ อันเงียบสงบ คดเคี้ยวไปตามขอบเขา และขนาบข้างด้วยทางรถไฟสายเหนือที่ไปสิ้นสุดยังจังหวัดเชียงใหม่

ตลาดเช้าอำเภอห้างฉัตรคึกคักไปด้วยบรรยากาศแห่งการซื้อ-ขาย เมื่อผ่านตัวอำเภอมารถราก็เริ่มน้อย ไม่นานนักจะถึงอุทยานประวัติศาสตร์เจ้าพ่อขุนตาน ด้านในปรากฏประติมากรรมแบบลอยตัวของเจ้าพ่อขุนตานบนหลังม้าคู่ใจ แม้บรรยากาศดูเงียบเหงา แต่โดยรอบรูปปั้นก็มีเครื่องสักการะ อาทิ มีดดาบ อยู่มากมาย บอกให้รู้ว่ามีผู้คนแวะเวียนเข้ามากราบไหว้อยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นสองฟากถนนเราจะเห็นสวนปาล์มที่รุกคืบเข้ามาพร้อมกับสวนยางพารา จนมาถึงบ้านห้วยเรียน ซึ่งมีทางเส้นเล็ก ๆ ทอดยาวไปสู่หมู่บ้านในหุบเขาทางด้านขวา

เรายังคงตรงไปตามเส้นทาง 2017 ที่บัดนี้สองข้างทางแปรเปลี่ยนเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ ป่ารอบด้านเป็นสีน้ำตาลเพราะต้นไม้เปลี่ยนสีแห้งกรอบ นาน ๆ จึงจะมีบ้านสักหลัง แต่ละหลังปลูกสร้างอย่างสมถะ บริเวณ กม. ที่ 11 ขวามือมีจุดชมวิว กม. 11 อยู่ริมถนน ลักษณะเป็นศาลาแปดเหลี่ยมเปิดโล่งรับลมเย็น มุงหลังคาด้วยหญ้าคาอย่างประณีต มีป้ายติดไว้ว่า ของว่าง-น้ำดื่ม บริการฟรี

ในศาลามีกล้วยน้ำว้าแขวนไว้เครือหนึ่ง มีน้ำดื่ม ลูกอม เครื่องดื่มประเภทนมถั่วเหลืองยูเอชทีกล่องเล็ก ๆ หนังสืออ่านเล่น และป้ายเขียนข้อความที่ชวนให้ฉุกคิดสะกิดใจ จากจุดนี้มองเห็นรางรถไฟเลียบไปตามภูเขา ไล่เลยขึ้นไปคือผืนป่าที่กำลังผลัดใบ อีกด้านหนึ่งเป็นโค้งถนน แม้จะไม่ใช่ทิวทัศน์ที่อลังการ แต่นับเป็นภาพที่ลงตัวเหมาะเจาะ ผ่อนพักสายตาได้เพลิน ๆ

ถัดจากศาลาชมวิวมีบ้านหลังหนึ่งปิดเงียบเชียบ เข้าใจว่าผู้เป็นเจ้าของคงไม่อยู่ และคงเป็นเขานั่นเองที่สร้างศาลาชมวิวแห่งนี้ แม้ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จัก แต่ก็เชื่อว่าหลายคนคงรับรู้ได้ถึงมิตรภาพและน้ำใจที่ใครสักคนมีให้คนผ่านทาง

บริเวณ กม. ที่ 13 มีทางแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท ลป. 2031 ซึ่งสามารถไปศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยและสวนป่าทุ่งเกวียนได้ แต่หากยังคงตรงไปบนเส้นทางเดิม อีก 3 กิโลเมตรเราจะถึงบ้านแม่ตานน้อย ที่นั่นมีหย่อมบ้านและร้านค้าประปราย เป็นที่ตั้งของสถานีแม่ตานน้อย จากนี้ไปถนนเหลือแค่เลนเดียวเลียบไปกับทางรถไฟ ลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน สองข้างทางเป็นสวนกล้วยและสวนลำไย เมื่อถึงบ้านปางปงปางทราย หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เรียบง่าย ดอยขุนตาลก็เหลือระยะทางอีกแค่ 10 กิโลเมตร

เมื่อถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลที่ ขต. 7 (ปางทราย) มีจุดตรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้คำแนะนำว่าต่อจากนี้ไปอีก 8 กิโลเมตรเส้นทางจะชันไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลเลยทีเดียว ซึ่งก็จริง แต่ความชันนั้นก็บรรณาการเราด้วยความเป็นธรรมชาติสองข้างทาง จนอดไม่ได้ที่จะลดกระจกลงเพื่อสดับฟังเสียงจักจั่นกรีดปีกดังไปทั่วราวป่า มองดูเหยี่ยวขนาดเล็กร่อนลมร้อน ได้กลิ่นของป่าเป็นกลิ่นของใบไม้แห้ง ๆ แตกกรอบแกรบ ขณะนี้เราอยู่ที่ความสูง 535 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ป้ายน้ำตกห้วยน้ำแป๊บอยู่ทางขวามือ เป็นน้ำตกข้างทางที่จะมีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เมื่อถึงสามแยก แยกขวาคือทางเข้าอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ส่วนแยกซ้ายตรงไปออกอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ระยะทางราว 20 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลยามนี้เงียบสงบไร้นักท่องเที่ยว ทว่าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ข้อมูลตลอดเวลา บริเวณโดยทั่วไปสะอาดสะอ้านดูเป็นระบบระเบียบ ที่นี่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสู่ยอดดอยขุนตาลระยะทาง 5.5 กิโลเมตร มีสถานที่น่าสนใจ 4 จุด ได้แก่ ย.1 มีบ้านพักของการรถไฟแห่งประเทศไทย ย.2 มีลานกางเต็นท์อยู่ในป่าสนสวย ย.3 เป็นบ้านพักมิชชันนารีในความดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ ส่วน ย.4 เป็นจุดสูงสุด ไม่มีบ้านพัก แต่ทิวทัศน์สวยงาม

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดอยขุนตาลนับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หมายถึงจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่ใช้สังเกตการณ์เขตจังหวัดลำปางและจังหวัดลำพูน บนดอยขุนตาลมีถึง ย.4 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดและเป็นฐานส่องกล้องสำคัญทางยุทธศาสตร์

หากใครรักการเดินทางแบบคลาสสิกด้วยรถไฟคงรู้จักอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟจากตัวเมืองลำปางมาสถานีขุนตานนั้นเป็นเรื่องง่าย โดยหลังจากลอดอุโมงค์ขุนตานความยาว 1,352.10 เมตร สถานีขุนตานก็ปรากฏที่ปลายอุโมงค์ และเราไม่ควรลืมที่จะค้อมคารวะอนุสรณ์สถานเล็ก ๆ ที่รำลึกถึงเอมิล ไอเซนโฮเฟอร์ วิศวกรผู้ขุดเจาะอุโมงค์แห่งนี้ ก่อนจะเดินเท้าอีก 1.2 กิโลเมตรมายังที่ทำการอุทยานฯ หรือจากสถานีขุนตานอาจใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้

ออกจากอุทยานฯ เราเข้าเขตจังหวัดลำพูนที่บ้านขุนตาน ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา ผ่านจุดตรวจหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติขุนตาลที่ ขต. 1 (ป่าตึง) ออกสู่พื้นที่สวนลำไยและไร่ข้าวโพดกว้าง ที่บ้านใหม่ทาชมภู ซ้ายมือจะมองเห็นสะพานทาชมภูอันแสนคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็อยากเห็น เป็นสะพานสีขาวรูปโค้งคันธนูงดงาม อายุไล่เลี่ยกับอุโมงค์ขุนตาน

หลังจากผ่านบ้านทาปลาดุกเส้นทางจะไปทะลุออกทางหลวงหมายเลข 11 ที่นำเรากลับเมืองลำปาง บนถนนสายหลักที่รถราขวักไขว่ เสียงเครื่องยนต์ห้อตะบึง ราวกับว่าโลกเมื่อสักครู่ได้หายวับไปแล้ว โลกใบเล็ก ๆ ในหุบดอยห่างไกล โลกที่เงียบสงบและเป็นมิตร 
           

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 970 ประจำวันที่ 21 - 27 มีนาคม 2557)  
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์