วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สลากชิงโชค คืนชีพ



ารเมืองก็ทำท่าจะเดินเข้าสู่ทางตัน เศรษฐกิจก็ตีบตัน การทำมาหากินแบบปกติ ตรงไปตรงมา เริ่มฝืดเคือง นี่เองที่อาจทำให้วิธีการได้มาด้วยการเสี่ยงโชค เป็นวิถีชีวิตใหม่ในสองเป้าหมาย หนึ่งคือเพื่อปลดเปลื้องความเครียดจากปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง สองเพื่อหวังจะได้เงินทอง สิ่งของมาแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุน ลงแรงอะไรมาก และยิ่งการพนันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว การลากดึงตัวเองเข้าไปร่วมวงการพนันผิดกฎหมายก็ไม่ยากเย็น

เพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น ทั้งที่ชนชั้นทำงานล้วนแต่ได้เงินเดือนขึ้นจากการปรับค่าแรงมาตั้งแต่ปี 2556 ชนชั้นคนทำงานจึงยังหันหน้าเข้าหาอบายมุข แสวงหาโชคทั้งใหญ่น้อย จนเด็กหลงทาง และผู้ใหญ่ก็ลืมที่จะทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี

การพนันขันต่อปฏิเสธไม่ได้ว่าอยู่ในสายเลือดของคนไทยอย่างที่ว่าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหวย ซื้อหุ้น พนันบอล แทงสนุ๊ก หรือแม้แต่เสี่ยงดวงเสี่ยงทาย ล้วนมีอยู่คู่สังคมทุกชนชั้นไม่ว่าจะไฮโซหรือโลว์โซ  ที่อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร กรุงเทพ ชัยภูมิ สุรินทร์ สระแก้ว และอีกหลายจังหวัดที่เรียกได้ว่ามีปรากฏการณ์ร่วมของ สลากชิงโชค สลากแลกเหล้า-เบียร์ หรือสลากจับเบอร์ สุดแท้แล้วแต่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรแต่ก็เป็นการกระทำผิดกฏหมายทั้งสิ้น

การมาเยือนของสลากแลกเหล้า-เบียร์ ผิดกฎหมายอย่างไร??

หลายคนอาจจะมองว่า เป็นเพียงการเสี่ยงโชคนิดหน่อยแค่ 2-3 บาท/เบอร์ คุ้มค่าหากโชคดีได้เบียร์ หรือเหล้ายี่ห้อหรูมาชุ่มลิ้น แต่รู้หรือไม่ว่าปัญหานี้ผิดกฎหมายอย่างน้อย 4 ฉบับ!! คือ ผิด พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 บัญชี ข. เมื่อมีการเล่นพนัน, ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เมื่อปล่อยปละหรือชักจูงให้เด็กเล่นพนัน, ผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เมื่อใช้เหล้า - เบียร์เป็นของรางวัลล่อใจให้เล่นพนัน, ผิด พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 เมื่อใช้บุหรี่เป็นของรางวัลแล้วให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นพนัน

สลากแผงหนึ่งมีประมาณ 3,000 เบอร์ จับสลากหนึ่งเบอร์ ราคา 3 บาท แผงหนึ่งสามารถทำเงินได้ราวๆ 9,000 บาท เมื่อเทียบกับต้นทุนเหล้า-เบียร์-บุหรี่ ที่มาล่อผีพนันแล้วหักลบกลบหนี้ แผงนึงกำไรครึ่งต่อต่อครึ่ง เมื่อเห็นช่องทางกำไรขนาดนี้ กฎหมายจะมาศักดิ์สิทธิ์เหนือความอยากรวยได้อย่างไร ยิ่งได้แบ่งเงินกันกินแบ่งกันใช้เป็นใบเบิกทาง ขบวนการสลากเถื่อนยิ่งลิงโลดเพราะธนบัตรล่องลอยไปปิดตาหลายคนจึงทำให้ผู้กระทำผิดกฎหมายหาได้มีความเกรงกลัวไม่ แก๊งค์สลากชิงเหล้า-เบียร์นี้แพร่ระบาดไปในหลายจังหวัดของประเทศไทยแล้วและที่สำคัญมีการกล่าวอ้างว่า “เคลียร์กับตำรวจแล้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว” เรื่องนี้เกิดมานานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการเข้มงวดกวดขันในการตวจสอบและจับกุมแต่อย่างใด

ลานนาโพสต์เคยติดตามข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่การแก้ปัญหาโดยผู้พิทักษ์รักษากฎหมายยังน้อยมาก ทั้งที่ปัญหานี้มีให้เห็นโดยตลอดมีการวางแผงอย่างโจ่งแจ้ง กลางตลาดอัศวิน ตลาดสนามบิน รวมไปถึงตามตลาดนัดรอบนอก ร้านขายของชำ เมื่อปัญหานี้ถูกนำมาตีแผ่ที ขบวนการสลากเหล้า-เบียร์ ก็เก็บแผงเงียบไประยะหนึ่ง

หากจะมองว่านี้คือปรากฏการณ์ร่วมที่เกิดเหตุในหลายจังหวัด จนทำให้ เฉยและ ชินชาปล่อยให้เยาวชนเข้าถึงสิ่งผิดกฎหมายและมองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ก็ต้องยอมรับให้ได้ ว่าเยาวชนจะถูกมอมเมาให้ติดการพนัน ติดเหล้าเบียร์บุรี่ที่เรา ยอมรับจากการเล่นสลากชิงโชค อาจจะบานปลายเลยเถิดจนเยาวชนติดนิสัยขี้ขโมยเงินทองเพื่อมาเล่นการพนัน จนก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้

ทั้งหมดนี้ก็ต้องโทษที่ ผู้ใหญ่ไม่เคยห้ามปราม และยังทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ผู้พิทักษ์กฎหมายไม่เคยใส่ใจจับกุมแก๊งค์สลากชิงโชค  การพนันชนิดนี้เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายมาก เพราะปะปนอยู่ในร้านค้า แผงลอย เท่าที่ แร็ค ลานนา เห็นมาร้ายกว่านั้นคือ ผู้ใหญ่จะเสี่ยงโชคก็จูงลูกหลานเข้ามาด้วย นี่ถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อจากการแสวงหากำไรหรือผลประโยชน์ของผู้ใหญ่หรือเป็นการ ไม่ปกป้องคุ้มครองเด็ก


ตราบใดที่แม่ปูยังเดินไม่ตรงทาง จะหวังให้ลูกปูเดินตรงทางได้อย่างไร


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 978 ประจำวันที่  16 - 22 พฤษภาคม 2557) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์