วิทยุชุมชนระทมหนัก
รอออกอากาศนานนับเดือน ล่าสุดกสทช.เลื่อนประชุมไม่มีกำหนด
พร้อมตั้งเงื่อนไขอีกเพียบ
ด้านชมรมสื่อวิทยุฯลำปางเตรียมประชุมสมาชิกหาทางออก
หลังจากที่ผ่านมาสร้างความเสียหายทางด้านธุรกิจอย่างมาก
ประธานชมรมฯเผยเพียงต้องการทราบว่าจะให้ทำอย่างไร ผู้ประกอบการพร้อมรับนโยบายขอความชัดเจนเท่านั้น
ขณะที่ กสทช.โบ้ยรอคำสั่งจาก คสช.
หลังจากที่
กสท.ได้มีมติ ครั้งที่ 23/2557 ออกมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.57 เกี่ยวกับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชน
โดยผู้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ กสท.กำหนดให้ คือผู้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
ประเภทกิจการทางธุรกิจ ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1
นิติบุคคล ต่อ 1 สถานีเท่านั้น
โดยให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิติบุคคลจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่การให้บริการตลอดระยะเวลาการออกอากาศ ส่วน ประเภทกิจการบริการสาธารณะ
ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1 นิติบุคคล ต่อ 1 สถานี ต่อ 1 จังหวัด เท่านั้น
โดยจะต้องมีการจัดตั้งสาขาของนิติบุคคลในแต่ละจังหวัดที่เป็นเขตพื้นที่การให้บริการ
และประเภทกิจการบริการชุมชน ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1 สถานี ต่อ 1จังหวัด เท่านั้น
โดยให้สำนักงาน
กสทช.
ดำเนินการเสนอแนวทางการแสดงความประสงค์ขอออกอากาศวิทยุกระจายเสียงของผู้ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
ตามที่ กสท. ให้ความเห็นชอบ ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบ
ก่อนพิจารณาออกประกาศหรือคำสั่งให้ผู้ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการออกอากาศได้ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ ที่ กสท. กำหนด ดังนั้น
ในระหว่างสำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามมติ กสท. ขอให้ห้องปฏิบัติการทดสอบ
หยุดการตรวจเครื่องส่งฯชั่วคราว
เพื่อมิให้เกิดปัญหาความเสียหายอันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายตรวจเครื่องส่งฯของผู้ที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ดังกล่าว
และสำนักงาน กสทช.
กำลังดำเนินการตรวจสอบผู้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการฯตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นอย่างเร่งด่วน
และจัดทำฐานข้อมูลสถานีของผู้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการฯตามหลักเกณฑ์ฯ
สำหรับที่
จ.ลำปางนั้น เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ทหาร และ กสทช.เขต
3 ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการวิทยุชุมชนฯ ที่ได้รับใบอนุญาตและผ่านการตรวจเครื่องส่งแล้ว
นำเอกสารใบอนุญาตและหลักฐานสำคัญต่างๆที่ต้องใช้ประกอบคำร้องพิจารณาทำการออกอากาศ เข้าร่วมประชุมและยื่นเอกสาร
ณ สโมสรค่ายสุรศักดิ์มนตรี แต่ปรากฏว่าต้องเลื่อนการประชุมออกไปไม่มีกำหนด
นายสุริยะพงษ์ ศรีอิ่นแก้ว
ประธานชมรมสื่อวิทยุกระจายเสียงจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ตอนแรกทางกลุ่มวิทยุชุมชนได้รอผลจากมติในที่ประชุมของ
กสทช.อยู่ จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในกลุ่ม
ซึ่งล่าสุดได้มีการเรียกประชุมผู้ประกอบการไปพบในวันที่ 12 มิ.ย.
แต่ตอนนี้กลับมีการเลื่อนประชุมออกไปอีกแบบไม่มีกำหนด ซึ่งบอกตามตรงว่าเรารอไม่ไหวแล้วเพราะไม่รู้ว่าจะให้ทำอย่างไรกันต่อไป
ประธานชมรมสื่อวิทยุกระจายเสียงฯ
กล่าวต่อไปว่า ตามที่มติที่ประชุมทราบว่าจะให้ออกอากาศแต่สถานีวิทยุที่มีใบอนุญาตทดลองออกอากาศ
ซึ่งบางสถานีก็มีใบอนุญาตแล้ว แต่บางสถานียื่นไปแล้วแต่เรื่องติดอยู่ที่
กสทช.กรุงเทพฯ บางสถานีเครื่องก็ยังไม่ได้ตรวจ
ยังมีอีกหลายสถานีที่ยังไม่ได้ดำเนินการเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
ทางกลุ่มวิทยุชุมชนจึงอยากจะทราบนโยบายที่ชัดเจนและแน่นอนว่าจะให้ทำอย่างไร
ถ้าสถานีที่ยังไม่เรียบร้อยควรจะต้องทำอย่างไร เราอยากได้คำตอบ เพราะที่ผ่านมา
กสทช.ก็ไม่ดำเนินการอะไรเลย แต่อยู่ๆพอมีรัฐประหาร ก็มาตั้งกฎเกณฑ์หลายอย่างขึ้น
ทางกลุ่มวิทยุชุมชนปรับตัวไม่ทัน จะมาขีดเส้นให้ทำในครั้งเดียวคงทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องมีขั้นตอนและต้องใช้เวลา
อยากให้บอกพวกเราว่าจะเอาอย่างไรให้แน่นอน
เมื่อถามถึงการขับเคลื่อนของชมรมฯ นายสุริยะพงษ์ กล่าวว่า
ทางชมรมฯจะนัดทางสมาชิกเข้ามาพูดคุยปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
เพราะตอนนี้เดือดร้อนที่สุด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าอาคารทั้งหลายที่ต้องใช้จ่ายมากมาย
เมื่อไม่ได้ออกอากาศก็เก็บค่าโฆษณาไม่ได้ก็เดือดร้อนกันไปหมด
ทางชมรมจะหาข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
ด้านนายธีรัช
เพ็ชรหิน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
เขต 3 ลำปาง เปิดเผยว่า ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องเลื่อนประชุมกับกลุ่มผู้ประกอบการออกไป
คือทางทหารจะนัดทาง กสทช.เขตเข้าไปคุยทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งขณะนี้รอหนังสือแจ้งมาอย่างเป็นทางการ ในส่วนของสำนักงาน กสทช. ได้เสนอมติบอร์ดให้
คสช.เพื่อพิจารณาความเหมาะสมต่างๆ เกี่ยวกับวิทยุกระจายเสียงชุมชนว่าจะดำเนินการอย่างไร
เนื่องจาก กสทช.ได้เสนอเรื่องหลังจากประชุมวันที่ 5 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา ให้ทาง คสช.ทราบ เพื่อ คสช.จะได้ประกาศคำสั่งออกมา
ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
เมื่อไม่มีประกาศออกมาจึงยังทำอะไรไม่ได้ต้องรอกันต่อไป
สำหรับการนัดประชุมผู้ประกอบการวิทยุชุมชน จ.ลำปาง วันที่ 12
มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ทางทหารเป็นผู้นัดประชุม เมื่อทราบเรื่องทาง
กสทช.เขตก็รีบแจ้งให้ทางผู้ประกอบการทราบทันที
แต่ปรากฏว่าได้มีการเลื่อนประชุมออกไปไม่มีกำหนด
นายธีรัช
ยังได้กล่าวถึงเงื่อนไข 1 นิติบุคคล 1 สถานี 1
จังหวัด ว่า หากมีการจดทะเบียนนิติบุคคลชื่อเดียวกันแต่ออกอากาศในหลายจังหวัด
จะให้เลือกออกอากาศจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น
เช่นเดียวกับกลุ่มสาธารณะที่จะต้องออกอากาศ 1 นิติบุคคลต่อ 1 สถานีเช่นกัน ในส่วนกลุ่มชุมชน 1สถานีวิทยุชุมชนต่อ 1 จังหวัดนั้นยังไม่ทราบรายละเอียดและคำขยายความว่าจะมีการคัดเลือกอย่างไร
เพราะตอนนี้ทาง กสทช.ได้ส่งเพียงมติในที่ประชุมมาให้ทราบเท่านั้น
ผอ.กสทช.เขต 3 ยังได้กล่าวถึงเรื่องการปิดแล็ปตรวจมาตรฐานเครื่องส่งชั่วคราวว่า
ทางผู้ประกอบการไม่ต้องคิดมากเพราะจะมีการเปิดให้บริการอยู่
แต่ที่ปิดเพราะต้องเคลียร์ข้อมูลในแล็ปให้หมดก่อน
และจะเริ่มเปิดให้ตรวจเครื่องใหม่เร็วๆนี้ ขณะนี้อยากให้ทางผู้ประกอบการช่วยกันสอดส่องในเรื่องการขยายสติกเกอร์
พวกเราด้วยกันต้องช่วยเหลือกัน
ร่วมกันตรวจสอบหาคนผิด คนที่มาตอกย้ำซ้ำเติมและเอาเปรียบพวกเรา ขณะนี้ได้ให้สายข่าวตรวจสอบอยู่ที่
จ.น่าน การซื้อมีจริงแต่ไม่ทราบแหล่งที่มา
มีเพียงการแจ้งผ่านทางโทรศัพท์แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานมายืนยัน
ทาง กสทช.เข้าใจผู้ประกอบการ
ทางสำนักงานไม่ได้นิ่งดูดาย พยายามที่จะนำเสนอให้กับ คสช. แต่อยู่ที่
คสช.จะพิจารณาอย่างไร และหาทางออกแบบไหน ซึ่งในตอนแรกได้ประชุมหาทางออกและเสนอแนวทางตามที่ได้ออกเป็นข่าวไป
แต่การประชุมก็ล่ม สรุปแล้วจึงต้องรออีกสักหน่อย สำหรับเงื่อนไขต่างๆคาดว่าจะยังคงเป็นเหมือนเดิม
อาจจะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ซึ่งจะมีการประชุมระหว่าง กสทช.และ คสช.ร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ นายธีรัช กล่าว
ขณะที่ นายจักร์กฤษ
เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยว่า
ได้รับการร้องขอจากองค์กรสมาชิกบางราย
ที่ดำเนินกิจการวิทยุชุมชนควบคู่ไปกับการทำหนังสือพิมพ์ว่า จะมีแนวทางอย่างไร
ในการบรรเทาความเดือดร้อนครั้งนี้ เพราะกิจการสื่อโดยเฉพาะในต่างจังหวัด
จำเป็นต้องมีรายได้มาจุนเจือ เพื่อความอยู่รอด ประธานสภา นสพ.เห็นว่า
กสทช.ควรต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ควรแก้ปัญหาแบบเหวี่ยงแห
ที่ทำให้ผู้ประกอบการที่สุจริตเดือดร้อนไปด้วย 'ผู้ประกอบการ
ควรทำหนังสือเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ กับ คสช.โดยตรง สภา นสพ.ยินดีสนับสนุนเต็มที่
เพราะถ้าทุกอย่างคลุมเครือเช่นนี้ ก็จะเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่ไม่ซื่อตรง
ใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ได้
ทั้งนี้ สำหรับคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 15/2557,
ฉบับที่ 23/2557 และฉบับที่ 32/2557 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมการระงับออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับการอนุญาตจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายมาตั้งแต่วันที่
24 พ.ค.57 หลังจากก่อนหน้านี้มีการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ
จนถึงปัจจุบันเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของการงดออกอากาศแล้ว
ซึ่งมีเครือข่ายวิทยุชุมชนในหลายพื้นที่ออกมาเคลื่อนไหวขอให้มีพิจารณาการออกอากาศ
เพราะยังมีหลายสถานีที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมือง
ได้รับความเดือดร้อนจากการระงับการออกอากาศดังกล่าว
จนกระทั่งผู้ประกอบการมีความหวังอีกครั้ง หลังจากมติที่ประชุมของ กสทช.ออกมา
แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าและยังคงต้องรอผลสรุปกันต่อไป ซึ่งยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะออกอากาศได้