กุลธิดา
สืบหล้า...เรื่อง
อาจดูคล้ายคำขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราหลายคนเคยพูดว่า
“ช่วยลูกช้างด้วยเถิด” แต่ช่วงฤดูฝนที่ลมแรงอย่างนี้
อยากอ้อนวอนคนที่พบเห็นลูกนกตกจากรังว่า “ช่วยลูกนกด้วยเถิด”
สำหรับนก
ฤดูฝนคือช่วงเวลาแห่งการผสมพันธุ์ สร้างรัง วางไข่ และเลี้ยงลูกอ่อน
เพราะนี่คือช่วงที่อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ เมื่อลูกนกฟักออกมาเป็นตัว
พ่อแม่นกรู้ดีว่าลูกจะมีอาหารกินอย่างเหลือเฟือ โดยเฉพาะแมลงที่หาได้ง่ายในช่วงนี้
หลายคนเข้าใจผิดว่า รังคือบ้านของนก
อันที่จริงนกไม่ได้อาศัยอยู่ในรัง มันนอนหลับตามคาคบไม้ ส่วนรังนั้น
นกจะสร้างขึ้นเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์ เพื่อใช้รองรับไข่ กกไข่ และเลี้ยงลูก
ซึ่งนกแต่ละชนิดก็จะมีรูปแบบ โครงสร้าง วัสดุที่ใช้ทำรัง ตลอดจนสถานที่สร้างรัง
แตกต่างกันไป และเราต้องไม่ลืมว่า นกใช้แต่ปากกับตีนเท่านั้นในการสร้างรัง
ที่น่าเศร้าก็คือ
รังนกกระจาบมักถูกมนุษย์ช่วงชิงมาประดับต้นไม้ หรือชายคาบ้าน
แทนที่จะได้โอบอุ้มประคับประคองให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของนกกระจาบได้เติบโต
ส่วนรังของนกกินปลีเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
มันสร้างรังให้ห้อยโตงเตงลงมาจากกิ่งไม้สูง ยากแก่การบุกรุก ภายนอกตกแต่งด้วยใบไม้
ใยแมงมุม จนดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม แถมตรงทางเข้ารังยังทำกันสาดน้อย ๆ
ยื่นออกมาน่ารักมาก
รังที่น่าทึ่งอีกรังต้องยกให้รังของนกกระจิบธรรมดา
ชื่อภาษาอังกฤษว่า Common Tailorbird หมายถึงช่างตัดเย็บ
รังของมันทำขึ้นจากใบไม้ใบเดียว หรือสองใบ
โดยขอบใบสองด้านจะถูกดึงม้วนเข้ามาบรรจบกันแล้วร้อยเย็บเข้าด้วยกัน
โดยใช้ปากยาวแหลมของมันแทนเข็ม เจาะรูตามแนวขอบใบและใช้ใยแมงมุม
หรือไหมจากดักแด้แทนด้าย ร้อยใยลอดรู แล้วบิดขยุ้มเป็นปมรั้งไว้
ทำเช่นนี้ทีละตะเข็บ ๆ ไป
รังที่ดีนอกจากต้องมั่นคงแข็งแรงแล้ว
ยังต้องปลอดภัยมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฟ้าฝนก็ไม่ปรานีใคร แม้แต่ลูกนก
มีข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่า
หากคุณพบลูกนกที่ตกจากรัง ก่อนอื่นควรดูให้ออกว่าเจ้าตัวเล็กนั่นเป็น “ลูกนกอ่อน” คือ ไม่มีขน หรือมีขนอุยปุย ๆ บินไม่ได้ ควรอยู่ในรัง แต่ตกจากรัง หรือเป็น
“ลูกนกหัดบิน” คือ มีขนเต็มตัวแล้ว
โตพอที่จะออกจากรังเพื่อหัดบิน แต่ยังบินไม่แข็ง และแย่ที่สุดก็คือ “ลูกนกกำพร้า” คือ
ลูกนกที่ไม่มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดูอีกต่อไป ดูแลตัวเองไม่ได้
ถ้าลูกนกที่พบเป็น “ลูกนกอ่อน”
ที่บังเอิญตกจากรัง ให้อุ้มไปวางคืนไว้ในรังแล้วอย่ากลับเข้าไปใกล้ ๆ
รังอีก เมื่อพ่อแม่นกเห็นว่าปลอดภัยก็จะเข้ามาดูแลเองต่อไป ทั้งนี้
พ่อแม่นกไม่ได้กลัวกลิ่นมนุษย์ติดบนตัวลูกนกอย่างที่คนโบราณเคยเข้าใจ
ท้ายสุด “ลูกนกกำพร้า” หากสังเกตลูกนกตกรังอยู่ห่าง ๆ 1-2 ชั่วโมงจนแน่ใจจริง
ๆ แล้วว่าลูกนกตัวนั้นไม่มีพ่อแม่มาหา หรือพ่อแม่ตาย บาดเจ็บ
หรือจำเป็นต้องทิ้งรังไปแล้ว ซึ่งเจ้าลูกนกต้องตายแน่ ๆ ถ้าไม่มีใครดูแลมัน
ก็ขอให้ทำดังนี้
- เตรียมลังกระดาษ หรือกล่องพลาสติกขนาดใหญ่พอที่ลูกนกจะขยับไปมาได้สะดวก จากนั้นหาเศษผ้า เศษกระดาษ หรือทิชชูสะอาดมารองกล่อง
- อุ้มลูกนกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้ววางลงในลัง คลุมลังเอาไว้หลวม ๆ ด้วยผ้าขนหนู อย่าลืมเปิดช่องให้อากาศระบาย แล้วยกลังไปไว้ในที่เงียบ ๆ มืด ๆ และอุ่น ๆ
- อย่าเพิ่งให้อาหาร อย่าหยอดน้ำ ควรรีบโทรศัพท์หาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรึกษาขอความช่วยเหลือ เราจะได้รู้ว่าลูกนกเป็นนกชนิดใด และจะได้ให้อาหารอย่างถูกต้อง