สู้คดีนานถึง 4 เดือน กิตติภูมิหวนคืนนายกเทศมนตรี หลังศาลพิพากษายกฟ้องใบแดง เหตุไม่พิจารณาคดีซ้ำซ้อน เมื่อเวลาประมาณ
10.00 น. วันที่ 30 ก.ค. 57 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ ได้พิจารณาคดี
นายกิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กรณีที่ กกต.กลางได้วินิจฉัยให้ใบแดง
ในการหาเสียงที่มีนโยบายเกินจริง หลอกลวง ชักจูงใจ เรื่องการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่อยู่ในเขตเรียนโรงเรียนเทศบาลจะต้องได้รับทุนส่งเสริมการเรียนจากงบประมาณเทศบาลทุกคนๆละ
1,000 ต่อปี
ซึ่งผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ปรากฏว่าได้
ยกคำร้อง นายกิตติภูมิจึงกลับมาทำหน้าที่นายกเทศมนตรีนครลำปางอีกครั้ง
นายสุคนธ์
เรือนสอน ผอ.กกต.ลำปาง กล่าวว่า ทาง กกต.ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาด้วย
ซึ่งผลออกมาว่าศาลได้ยกฟ้องคดีของนายกิตติภูมิ นามวงค์ โดย
ให้เหตุผลว่าเป็นการวินิจฉัยซ้ำซ้อน
ซึ่งหลังจากศาลตัดสินแล้ว นายกิตติภูมิ ก็สามารถกลับมาทำงานได้ทันที
เพราะตามกฎหมายระบุว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
แต่ขึ้นอยู่ที่นายกเทศมนตรีว่าจะรอหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรจากศาลมาก่อน
หรือไม่เท่านั้น
สำหรับเรื่องการฟ้องคดีใบแดงดังกล่าว
สืบเนื่องจากนายบริบูรณ์ บุญยู่ฮง สมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง ได้ยื่นร้องคัดค้านการเลือกตั้งเกี่ยวกับนโยบายการหาเสียง
เรื่องทุนส่งเสริมการเรียนคนละ 1,000 บาท
ซึ่งมูลเหตุและประเด็นดังกล่าวได้มีการร้องมา 2 ครั้ง และในประเด็นเดียวกันนี้
คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดของนางสดศรี สัตยธรรม เป็นประธาน กกต. ได้ยกคำร้องไปแล้ว แต่เนื่องจากมีการยื่นร้องคัดค้านเข้ามาอีกครั้งในคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดของนายศุภชัย
สมเจริญ เป็นประธาน กกต. จึงได้มีการหยิบยกประเด็นนี้มาพิจารณาใหม่ และ
กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 5 ข้อด้วยกัน คือ
1.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องที่หนึ่ง คือ นายกิตติภูมิ นามวงค์ 2.สั่งให้มีการเลือกตั้งนายกเทศบาลนครลำปาง
อำเภอเมืองจังหวัดลำปางใหม่
3.ให้ผู้ถูกร้องที่หนึ่งชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่
4.ดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ถูกร้องที่หนึ่ง และ
5 ยกคำร้องคัดค้านในส่วนของผู้ถูกร้องที่ 2-5 ประกอบด้วย นายแพทย์สุรทัศน์
พงษ์นิกร นายสุวรรณ นครังกูล นางชนูสี อินดาวงศ์ และนายอภิชัย สัชฌะไชย จากนั้น กกต.ได้ยื่นฟ้องคดีไปยังศาลอุทธรณ์ภาค
5 เชียงใหม่ ตามขั้นตอน
โดยตลอดระยะเวลาที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปร่วม
4 เดือน นายชัยศรี สัชฌะไชย รองนายกเทศมนตรี ได้รักษาการแทน
และยังคงทำหน้าที่ในส่วนงานของนายกเทศมนตรีได้
ซึ่งมีการเดินหน้าหลายๆโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการใกล้ใจอุ่นไอรัก โครงการปรับภูมิทัศน์ศาลหลักเมือง
โครงการพัฒนาและฟื้นฟูแม่น้ำวัง การจัดตั้งโรงพยาบาลสาขา โครงการเราช่วยกัน เป็นต้น
ซึ่งในการพิจารณาคดีครั้งนี้
ศาลเห็นว่าที่ผ่านมาก็ได้มีการวินิจฉัยแล้ว ว่านโยบายดังกล่าวสามารถกระทำได้
โดยไม่ขัดต่อมาตรา 57
ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น
ตามที่เคยยกคำร้องมาแล้ว ถึงเห็นสมควรยกคำร้อง
เมื่อวันที่
31 ก.ค.57
นายชัยศรี สัชฌะไชย และนายอภิชัย สัชฌะไชย
ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว
ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังนายชัยศรี เปิดเผยว่า
ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากรองนายกเทศมนตรีแล้วพร้อมกับนายอภิชัย สัชฌะไชย
ที่ลาออกจากเลขานายกฯ มีผลวันที่ 1
ส.ค.57
โดยส่วนตัวแล้วไมได้มีปัญหาใดๆ สาเหตุที่ลาออกเพราะเป็นมารยาททางการเมือง
ประกอบกับตนอายุมากแล้ว อยากจะพักผ่อน เดิมจะมีการยื่นหนังสือลาออกด้วยกัน 4 คน แต่ก็มีเพียงตนกับลูกชายเท่านั้น
ทั้งนี้ จากกระแสข่าวทราบว่า
ในเบื้องต้นจะจะมีผู้ที่ยื่นหนังสือลาออก 4 คนคือ นายชัยศรี สัชฌะไชย
รองนายกเทศมนตรี นายแพท์สุรทัศน์ พงษ์นิกร รองนายเทศมนตรี นางชนูสี อินดาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ และนายอภิชัย สัชฌะไชย เลขานุการนายกเทศมนตรี แต่เนื่องจากนายกิตติภูมิ นามวงค์
ได้มีการพูดคุยกันในกลุ่มขอให้นายแพทย์สุรทัศน์ และนางชนูสี ช่วยงานต่อ
จึงมีเพียงนายชัยศรี และลูกชายเท่านั้นที่ยื่นหนังสือลาออก ส่วนผู้ที่จะเข้ามาเป็นรองนายกเทศมนตรีนั้น
คาดว่าจะเป็น นายสมเกียรติ อัญชนา อดีตปลัดเทศบาลนครลำปาง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 989 ประจำวันที่ 1 - 7 สิงหาคม 2557)