หลังจากเปิดตัวโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองเพื่อเข้าสู่ระบบการรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน
ในกลุ่มผู้ผลิตผ้าทอจังหวัดลำปาง มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ล่าสุดในงานแสดงผลการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2557 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว ลานนาBizweek รายงานว่า ที่ประชุมแถลงผลงานจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองจากกลุ่มทอผ้า
30 กลุ่ม
ผลปรากฏว่าเกิดการพัฒนาในเชิงบวกและมีความตื่นตัวในการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าทอในวงกว้าง
โดยได้นำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทดลองและพัฒนา เป็นผ้าทอผืนรูปแบบผ้าขาวม้า
ผ้าคลุมไหล่ หรือพันคอและตัดเย็บสำเร็จรูปที่นำออกตลาดได้จริงมาจัดแสดง โดยไฮไลท์ที่โดดเด่น
คือผ้าทอจากใยสัปปะรด และ ผ้าทอย้อมจากน้ำแร่น้ำตกแจ้ซ้อนซึ่งมีสีสันสวยงาม
นางจันทร์คำ แก้วมา
ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าฝ้ายปั่นมือ ย้อมสีธรรมชาติ ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม
จ.ลำปาง เผยว่า เริ่มแรกเมื่อเข้าร่วมโครงการนี้ยังไม่รู้ว่าทิศทางการพัฒนาจะเป็นแบบไหน
เนื่องจากที่ผ่านมาตนและชาวบ้านที่อยู่ในกลุ่มทอผ้าก็ทำกันแบบที่สืบทอดกันมา
แต่ไม่เคยเรียนหรือมีคนสอนวิธีการใหม่ๆ แต่โครงการนี้ทำให้ได้เรียนรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการทอผ้าทั้งเรื่อง
สี เส้นใย การย้อม และการทอที่มีคุณภาพ รวมถึงเรื่องความต้องการตลาดใหม่ๆ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในผู้ทดลองนำใบสับปะรดมาฟอกทำใยผ้า
และปั่นเป็นเส้นจนใช้ทอผ้าผืนได้ แม้จะทำยากแต่ได้ก็ผลว่าใยสัปปะรดสามารถนำมาทอเป็นผ้าได้จริง
และยังเป็นผลผลิตจากพืชในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากการขึ้นเครื่องบินไปดูงานที่หลวงพระบาง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยได้ผลิตผ้าทอใยสับปะรดลายเมฆ
ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาสูงกว่าผ้าทอทั่วไปหลายเท่า
นางสุทธินีย์ พู่ผกา
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า
โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดลำปาง ไปสู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยเบื้องต้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นใหม่จากการนำใยสัปปะรดมาทำเส้นใยแล้วนำมาย้อมและ นอกจากนี้ยังมีการนำน้ำแร่จากแจ้ซ้อน
มาเป็นส่วนผสมสำคัญของการย้อมสีผ้าซึ่งได้ผลที่น่าประหลาดใจทำให้สีของการย้อมสด
สวยงามได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งนี้ระบุว่า
การศึกษาพัฒนาครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาต่อเนื่อง โดย
เฉพาะการถ่ายทอดทักษะสู่คนรุ่นใหม่
เช่นเดียวกับการนำผู้เข้าร่วมโครงการไปศึกษาดูงาน ที่หลวงพระบาง สปป.ลาว
พบว่าคนทอผ้าส่วนใหญ่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนทอผ้า
ซึ่งมีส่วนทำให้การทอผ้าในลวดลายสีสันที่มีคุณภาพ
แต่คนทอผ้าของลำปางส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
ซึ่งมักจะมีปัญหาด้านสายตาและการออกแบบลวดลาย
สีสันให้ตรงกับความต้องการตลาดยุคใหม่
ทั้งนี้จะนำสินค้าทั้งหมดที่ได้ไปแสดงและจำหน่ายในงานระดับประเทศ
"จากเดิมที่เรากังวลว่าลำปาง
เป็นเมืองที่ไม่โดดเด่นชัดเจนเรื่องการทอผ้า มาถึงตอนนี้เห็นผลว่า
เริ่มมีการสร้างจุดเด่นและค้นหาตัวตน และอัตลักษณ์ของผ้าทอลำปางได้ชัดเจนขึ้น แต่อุปสรรค
คือ กลุ่มทอผ้าต่างๆ มีความต่างกันด้านฝีมือค่อนข้างมาก คนที่เก่งก็เก่งเลย
แต่คนที่ไม่เก่งต้องอาศัยการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องเชื่อว่า
จะมีผ้าทอที่โดดเด่นสร้างรายได้และชื่อเสียงของลำปางได้" ดร.ชาญชัยกล่าว
ด้าน นายศุภชัย
เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า
โครงการนี้ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ของลำปาง
ซึ่งต้องส่งเสริมให้เกิดการเกาะกลุ่มกันให้เหนียวแน่น และทบทวนพัฒนาให้นำสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างยั่งยืน
โดยจังหวัดจะสนับสนุนให้มีการพบปะกันระหว่างกลุ่มทอผ้าต่างๆ
ให้เกิดการแลกเปลี่ยนพัฒนาร่วมกันต่อเนื่องต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 992 ประจำวันที่ 22 - 28 สิงหาคม 2557)