กระ
แสไอซ์บัคเก็ต ที่เริ่มต้นจาก บิล เกตส์ และ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก
ได้ถาโถมเข้ามาเป็นคลื่นลูกใหญ่สู่สังคมไทยอย่างตื่นตาตื่นใจยิ่ง
แต่หากเราฉุกคิดสักนิดว่าการบริจาคที่ต้องทำผ่านรูปแบบตามแฟชั่น
ตามก้นฝรั่งโดยแค่ทำตามๆกันไป
ไม่มีคำถาม ไม่มีเหตุผล ไม่มีสาระ ไม่มีคุณค่าอันใด
นั่นคือการสูญเสียที่เปล่าประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
หลายคนจึงปฎิเสธที่จะแห่ตามกระแสนี้ แต่อีกหลายคนก็ยังติดกับ ไอซ์บัคเก็ต
จนถอนตัวไม่ขึ้น
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
หรือ ALS
ย่อมาจาก Amyotrophic Lateral Sclerosis โรคที่หลายๆ
คนรู้จักผ่านกิจกรรม “ยอมเปียกเพื่อการกุศล” หรือ “IceBucketChallange” โครงการรณรงค์ทางสังคมเพื่อระดมเงินบริจาคสมทบมูลนิธิ
‘Amyotrophic Lateral Aclerosos’ (ALS)
‘Ice Bucket
Challenge’ เป็นกิจกรรมที่ให้เราเอาน้ำใส่น้ำแข็ง หรือน้ำแข็งเทราดตัวเองหรือทุ่มใส่หัวใครสักคน
โดยมีกติกาว่า คนที่โดนท้าทายว่ากล้าพอหรือเปล่าที่จะเอาน้ำแข็งราดน้ำตัวเอง
เหตุที่เลือกน้ำแข็งผสมน้ำเทราดตัวเอง ก็เพราะผู้ที่ถูกราดจะได้เข้าใจว่าคนป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจะมีอาการเหมือนโดนน้ำแข็งเย็นๆ
เมื่อโดนท้าทายแล้ว ผู้ถูกท้า ก็จะต้องเลือกระหว่างการเอาน้ำทุ่มใส่ตัวเองหรือคนรอบข้าง
แล้วจ่ายเงินบริจาค10 เหรียญ
หรือเลือกที่จะไม่สาดน้ำแต่ไปบริจาคเงิน 100 เหรียญให้กับ ALS
Association ในสหรัฐฯ แล้วให้ท้าทายต่อไปอีก 3 คน
สำหรับประเทศไทย
ได้มีการเปลี่ยนกติกาเล็กน้อยโดยเป็นการให้มูลนิธิเพื่อการกุศลใดก็ได้ และใช้
#IceBucketChallengeTH เป็นแฮชแท็กสำหรับกิจกรรมนี้ในประเทศไทย ซึ่งแคมเปญนี้ได้ขยายวงไปยังผู้มีชื่อเสียงชาวไทยในวงการอื่นๆ
อย่างรวดเร็วดุจไฟลามทุ่ง
ไม่
มีใครในโลกนี้ปฏิเสธว่าแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่ห่วยอย่างแน่นอน
ในทางตรงกันข้ามเคมเปญนี้ได้ช่วยระดมเงินเพื่อไปใช้ในการวิจัยและจัดหา
เครื่องมือเพื่อดูแลผู้โชคร้ายที่ป่วยด้วยโรคนี้ที่แทบจะไม่มีทางรักษา
เพราะท้ายที่สุดผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้จะหายใจลำบาก
ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และเสียชีวิตในที่สุด
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันที่เคมเปญนี้
มีโฆษณาแฝงในรูปของ
CSR ดีๆนี่เอง เพราะแต่ละองค์กรที่รับคำท้า ต่างทำคลิปเผยแพร่พร้อมด้วยการแต่งกายด้วยยูนิฟอร์ม
ติดแบนเนอร์ที่ถัง มีโลโก้ตัวใหญ่ยักษ์ หรือแม้แต่ถังก็ใช้สีขององค์กร มองปร๊าด...เดียวก็รู้ว่าคือยี่ห้ออะไร
สินค้าอะไร และยังเป็นกิจกรรมที่อยู่ในกระแส ผู้คนจึงติดตามดูและแชร์
เมื่อมีคนเห็นด้วยก็ไม่แปลกที่จะมีผู้เห็นต่างกับวิธีแต่ไม่ได้ปฏิเสธการบริจาค
หลายรายได้ดัดแปลงแก้ไขเงื่อนไขของกิจกรรมสาดน้ำและน้ำแข็ง เปลี่ยนมาเป็น ราดด้วยธนบัตรเงินสด
ราดด้วยน้ำมนต์ เอาน้ำจากลำธารเย็นๆมาราด หรือ กระโดดลงอ่างอาบน้ำ
หรือใช้เฮลิคอปเตอร์ปล่อยน้ำลงมา หรือที่เห็นล่าสุด คือ หญิงชาวอินเดีย
ใช้ถังเหล็กบริจาคข้าวสาร (RiceBucket) แก่ผู้ยากไร้ แทนที่จะเอาน้ำมาสาดกัน
นอกจากนี้ ในแต่ละประเทศยังมีการแปลงองค์การการกุศลไปได้มากมาย ทั้งเรื่องการศึกษา
การแพทย์ การสาธารณสุข หรือ เพื่อกิจกรรมทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ
ทางศาสนา ก็เป็นไปได้
จะว่าไปแล้วกิจกรรมนี้ก็มีหลายคนประท้วงอยู่
อย่างในประเทศจีน ที่มณฑลเหอหนานมีการรวมตัวเพื่อประท้วงกิจกรรมนี้เพราะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำ
เพราะเมืองที่พวกเขาอยู่นั้นกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เช่นเดียวกับ นิชคุณ แห่ง
2PM ที่ไม่ขอรับคำท้าแต่ยินดีร่วมบริจาค
แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเหล่าแฟนด่าทอ
เมื่อการช่วยผู้ที่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
มาจากสมองที่ไม่แข็งแรง ก็ทำให้เราได้เห็นแฟชั่นไอซ์ บาสเก็ต ระบาดไปทั่วโลกวันนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 993 ประจำวันที่ 29 สิงหาคม - 4 กันยายน 2557)