‘พร้อมสร้าง’ สร้างแบรนด์ รุกตลาดโกดัง-คลังสินค้า

SMEs น้องใหม่ “พร้อมสร้าง”  ชิงโอกาสคู่แข่งน้อยนำเข้าอาคารเหล็กสำเร็จรูป  วัสดุทดแทนการผูกเหล็กตะแกรงหรือไวร์เมช “ไฟเบอร์สตีล” ในงานพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลุยตลาดโกดัง คลังสินค้ารับอาเซียน 

ท่ามกลางกระแสการเริ่มฟื้นตัวและเติบโตของ SMEs ไทยหลายแขนง  บริษัท พร้อมสร้าง จำกัด SMEs น้องใหม่ของจังหวัดลำปาง ที่เติบโตจากนักธุรกิจ รุ่นทายาท โรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออกต่างประเทศของตระกูล “ศิรินุวัฒน์” แตกไลน์ธุรกิจใหม่ตอบสนองแนวโน้มการเติบโตในกลุ่มธุรกิจก่อสร้างและ อสังหาริมทรัพย์ที่กำลังพัฒนาไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยการเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ เป็นจุดแข็งสำคัญ เช่นโครงสร้างอาคารเหล็กสำเร็จรูป โกดัง คลังสินค้า จากผู้เชี่ยวชาญอาคารเหล็กประเทศออสเตรเลีย ภายใต้แบรนด์ “RANBUILD” ในเครือของ Bluescope Lysaght  นอกจากนี้ ยังเป็นเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายและนำเข้าผลิตภัณฑ์ ไฟเบอร์สตีล (Fiber Steel )สำหรับงานพื้นคอนกรีต ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ Dramix จากประเทศเบลเยี่ยม รวมถึงเคมีภัณฑ์ สำหรับงานโครงสร้างผนังอุโมงค์คอนกรีตอุโมงค์ใต้ดิน จาก บริษัท Normet  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เคมีชั้นนำที่ใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลกนับว่าเป็นก้าวใหม่ที่ท้าทายสำหรับเป้าหมายของการสร้าง SME ท้องถิ่นของลำปางให้ก้าวขึ้นไปโดดเด่นในโลกธุรกิจระดับภูมิภาคภายใต้แบรนด์  "พร้อมสร้าง" (Ready to Build)

สุวัฒน์ ศิรินุวัฒน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร้อมสร้าง จำกัด เผยว่าในยุคของการแข่งขันทุกธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับนวัตกรรมใหม่ๆและคุณภาพสินค้า ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องของการประหยัดเวลา การลดต้นทุนการก่อสร้าง และความคุ้มค่า มากกว่าเมื่อเทียบกับการใช้งบประมาณเท่ากัน จึงมองหาธุรกิจใหม่ๆที่ใช้นวัตกรรมการผลิตที่มีคุณภาพ และเป็นสินค้าที่มีการแข่งขันไม่สูงมากนัก ประกอบกับ จากประสบการณ์ทำงานด้านธุรกิจโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่งออก มีสินค้าหลายตัวที่ผลิตในรูปแบบน๊อคดาวน์  ให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปประกอบพร้อมใช้งานได้ด้วยตัวเอง มองว่าสินค้าเหล่านี้ตอบโจทย์ทางการตลาดได้ดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาบ้านเมือง โดยเฉพาะลำปางซึ่งชูนโยบาย Logistic Hub ในปัจจุบันซึ่งส่งผลให้ธุรกิจก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์เติบโตชัดเจนจึงตัดสินใจเลือกทำธุรกิจนำเข้าและรับสร้าง อาคารเหล็กสำเร็จรูปซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องของคุณภาพด้านการออกแบบที่สวย งาม ติดตั้งง่าย ประหยัดเวลาแต่มีคุณภาพสูง  แก้ปัญหาเรื่องแรงงาน ความแม่นยำในการคำนวณตามหลักวิศวกรรมให้สอดคล้องกับพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่ก่อสร้าง คุณภาพของวัสดุและมาตรฐานการก่อสร้างที่ผ่านการคำนวณจากโรงงานผู้ผลิตระดับสากล

ในส่วนของงานผลิตภัณฑ์ ไฟเบอร์สตีล (Fiber Steel) สำหรับงานพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นโรงงานอุตสาหกรรม งานถนน ที่ต้องรับน้ำหนักมาก (ตั้งแต่ 1ตัน - 70 ตัน/ตรม.) ซึ่งผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นเรื่องของการลดปัญหาเรื่องแรงงานและความสิ้นเปลืองในกระบวนการเสริมเหล็กในคอนกรีต โดยใช้ ไฟเบอร์สตีล ที่มีลักษณะเป็นลวดใยเหล็ก เทผสมในปูนซีเมนต์ ทดแทน การผูกเหล็กตะแกรงหรือการวางไวร์เมช ซึ่งมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ใช้งานง่ายลดต้นทุนแอบแฝง

ในระยะแรก ได้ทุ่มเทเรื่องของการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะ "ช่าง" และนักวิศวกรที่ดูแลควบคุมงานก่อสร้างเข้าฝึกอบรมกับบริษัทผู้ผลิตให้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบสนองกับการนำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ ซึ่งการออกแบบนั้น ได้รับรองการออกแบบโดยตรงจากทีมงานวิศวกร จากโรงงานผู้ผลิต  ก่อนลุยตลาดกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา มีผลงานและการบริการเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงาน ภาครัฐวิสาหกิจ เอกชน และ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ รวมแล้วมากกว่า 100 โครงการ เช่น อาคารคลุมเครื่องจักร บริษัท SCI ECO Service ในเครือ SCG  อาคาร และพื้นโรงงาน ITC Intercut จังหวัดลำปาง  สำหรับลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Fiber Steel  เช่น โครงการศูนย์กระจายสินค้า เทสโก้โลตัส จังหวัดทางภาคกลาง ศูนย์ขนส่งสินค้า บริษัท Mon Logistic Container Yard บริษัท Win Win Container Depot ลาดกระบัง และโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เป็นต้น 

“ในเรื่องของโอกาสและการแข่งขัน ธุรกิจนี้ยังถือว่ามีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง เพราะยังมีส่วนแบ่งตลาดทั้งในระดับท้องถิ่น จนถึงระดับภูมิภาคในแถบอาเซียน ซึ่งมีความต้องการพื้นที่โกดัง คลังสินค้า เพื่อจัดเก็บสินค้า  จากการขยายตัวทางธุรกิจ การค้าในประชาคมอาเซียน โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือการตอบโจทย์เรื่องของการแก้ปัญหาเรื่อง แรงงาน และใช้งบประมาณใกล้เคียงเมื่อเทียบกับวัสดุมาตรฐานเดียวกัน แต่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีกว่า ดังนั้นบริษัทเราเน้นขายสินค้าคุณภาพ ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก ขณะนี้ฐานที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดลำปาง เพราะมีฐานธุรกิจเดิมอยู่ที่ลำปางทำให้มีความได้เปรียบด้านต้นทุนโรงงาน ประกอบกับความคล่องตัวด้านการขนส่งในแง่ภูมิศาสตร์ของจังหวัดลำปาง ที่เชื่อมโยงภาคเหนือ และภาคอื่นๆได้สะดวกรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็มีสำนักงานอยู่ กรุงเทพฯ และมีโรงงานอยู่ที่ประทุมธานี เป็นศูนย์ภาคกลาง ซึ่งเป้าหมายของเราคือจะพัฒนาให้ SMEs เล็กๆในต่างจังหวัดมีศักยภาพในระดับประเทศและภูมิภาคในอนาคต” สุวัฒน์ กล่าว

วีรวัธน์ กฤษณรักษ์ ผู้จัดการบริษัท ไอ ที ซี อินเตอร์คัทส์ จำกัด โรงงานผู้ผลิตใบมีดและใบเลื่อย ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง หนึ่งในลูกค้าที่เลือกใช้บริการ อาคาร และพื้นโรงงานหลังใหม่ ระบุว่า เหตุผลที่เลือกใช้ อาคารเหล็กสำเร็จรูป จากบริษัทพร้อมสร้างสิ่งแรกคือความมั่นใจในนวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน มีรูปทรงสวยงาม มีจุดเด่นเรื่องการออกแบบ แก้ปัญหาเรื่องเสากลางเหมาะสำหรับพื้นที่ใช้สอยและการใช้เครื่องจักรในอาคารโรงงานได้ดี  ส่วนพื้นโรงงานก็เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ ไฟเบอร์สตีล ผสมลงในคอนกรีต สะดวกและรวดเร็ว มีความมั่นใจเรื่องความแข็งแรงของพื้นที่รับน้ำหนัก ทั้งยังลดต้นทุนแฝงและเรื่องปัญหาฝีมือแรงงาน “เทคโนโลยีเหล่านี้ ในต่างประเทศใช้กันแพร่หลายมาก เพื่อมีผู้นำเข้าและยังเป็นผู้ประกอบการลำปางด้วยกันจึงไม่ลังเลที่จะใช้บริการ ในอนาคต การก่อสร้างรูปแบบใหม่ลักษณะนี้จะแพร่หลายมากขึ้น เพราะมันคือนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงที่คุ้มค่า”  ผู้จัดการบริษัท ไอ ที ซี อินเตอร์คัทส์จำกัดกล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 996 ประจำวันที่ 19 - 25 กันยายน 2557)