วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

หวัดใหญ่ลำปางพุ่ง สสจ.ยันคุมได้ไม่อันตราย


รองนายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดลำปาง ยืนยัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด H1N1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่มีรายงานพบว่าในพื้นที่จังหวัดลำปางพบมากที่สุดนั้น สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่าได้ตื่นตระหนกเพราะเป็น ไข้หวัดที่มีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเพียงแค่ 5% และในพื้นที่จังหวัดลำปางยังไม่มีการเสียชีวิตสักรายเดียว

จากกรณีที่สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยข้อมูลการเฝ้าระวังโรค เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิด H1N1  ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.57 ถึง 15 ก.ย.57  โดยจังหวัดลำปางมีอัตราการป่วยต่อแสนประชากรสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ อัตราป่วย 332.11 ต่อแสนประชากร ส่วนรองลงมา คือ ระยอง ภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ตามลำดับ  ซึ่งทางภาคเหนือส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มอายุ 7-9 ปี มากที่สุด รองลงมาคือ 10-14 ปี และ 25-34 ปี 

ในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน กล่าวว่า จากสถิติการเฝ้าระวังเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ของประเทศไทย พบว่าจังหวัดลำปางดูเหมือนจะมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างสูงในระดับประเทศ แต่ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตในจังหวัด ซึ่งการเกิดโรคนี้เป็นการเกิดไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไม่มีความรุนแรง ข้อสงสัยว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ยังไม่ปรากฏว่ามี สรุปคือถ้าดูจากสถิติการเฝ้าระวัง ซึ่งลำปางมีการเฝ้าดูอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ที่คัดกรองผู้ป่วยและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และอาจจะมีผู้ป่วยไข้หวัดที่เข้ามารับการรักษาที่โรพงยาบาล สถานพยาบาลของรัฐ มากกว่าที่อื่น จึงทำให้มีอุบัติการณ์การป่วยสูง แต่ขอย้ำว่าไม่มีความรุนแรง

สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1  มักจะเกิดในกลุ่มคนยังไม่มีภูมิต้านทาน ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็มีโอกาสที่จะเกิดการแทรกซ้อนได้มาก ในกลุ่มที่อ่อนแอ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ  มีโรคประจำตัว สถิติปีที่ผ่านมาพบว่ามีอาการป่วยรุนแรงได้ร้อยละ 5  เท่านั้น  อาการก็จะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จะมีไข้สูง 2-3  วันติดต่อกัน ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก  หากมีอาการป่วยทานยาวันสองวันแต่ไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ทันที  ในรอบปีที่ผ่านมา จ.ลำปางก็ได้มีการรณรงค์ให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลครอบคลุมตามกลุ่มเป้าหมายได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์  ดังนั้นแม้ว่าจะมีอุบัติการณ์สูงแต่ไม่มีเคสที่รุนแรง ตอนนี้ถือว่าไม่อันตราย

นพ.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า โรคไข้หวัดใหญ่มักจะเกิดในช่วงปลายฝนต้นหนาว ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงของอากาศสูง ประชาชนต้องดูแลสุขภาพตัวเอง รักษาร่างกายให้อบอุ่น ทานอาหารที่มีประโยชน์ ใครมีอาการป่วยต้องหลีกเลี่ยงการออกพบผู้คนจำนวนมาก ถ้าจำเป็นให้ใช้หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระบาดของโรค

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 997 ประจำวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม  2557) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์