หนุ่มใหญ่ขับรถยนต์ปิคอัพมาจากอำเภองาวตัวคนเดียวมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองลำปาง
พุ่งชนประสานงาพ่อค้ากบเข้าอย่างจังกลางสี่แยก ตัวกระเด็นออกจากรถกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่
ส่วนคู่กรณีรอดตายหวุดหวิด ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเวลา
05.30 น. วันที่ 19 ก.ย.57 ยัง
ร.ต.ท.เศรตรัตน์ เรือนปิงวัง พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่า
เกิดอุบัติเหตุ รถชนบริเวณแยกไฟแดงป่าขาม ถ.ลำปาง-งาว ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ราย หลังจากทราบเหตุจึงได้ประสานแพทย์
เวรฯ โรงพยาบาลลำปาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ อปพร.เทศบาลนครลำปางร่วมตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงในที่เกิดเหตุก็พบว่าจุดที่เกิดเหตุมีการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
พบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้ออิซูซุ
ดีแม็กซ์ แบบมีแค็ป สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน บท-5680 อุตรดิตถ์
ได้พุ่งชนประสานงากับรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาร์ดา สีดำ หมายเลขทะเบียน
บส-5422 ลำปาง เข้าอย่างจัง
จนทำให้รถยนต์ทั้งสองคันได้รับความเสียหายพังยับเยินเศษชิ้นส่วนของรถกระจัดกระจายเกลื่อนถนน
และพบคนขับรถยนต์ปิคอัพมิตซูบิชิได้กระเด็นออกมาจากตัวรถ
ตกลงกระแทกพื้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ
นายอมร เอกบุตร อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 132/185 หมู่ 3 ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยคนขับรถยนต์ปิคอัพอิซูซุ ดีแม็กซ์
คู่กรณีอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้คิดหลบหนีไปที่ไหน ทราบชื่อคือนายนิคม วินเนตร อายุ
23 ปี เป็นราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ
นายนิคม
วินเนตร ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า
ตนทำงานอยู่จังหวัดพิจิตร ได้ขับรถยนต์ปิคอัพมากับเพื่อนชายอีก 1 คน
โดยได้บรรทุกกบมาเต็มคันรถ เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าตามตลาดในตัวเมืองลำปาง
หลังจากได้นำกบส่งให้ลูกค้าตามตลาดในตัวเมืองลำปางจนหมดแล้ว จึงได้พากันขับกลับจังหวัดพิจิตร
ขณะที่ขับมาถึงสีแยกไฟแดงป่าขาม ถ.ลำปาง-งาว ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
จังหวะช่วงที่เป็นสัญญาณไฟกระพริบ
ตนเองจึงได้ขับรถเลี้ยวขวามุ่งหน้าเข้าถนนวชิราวุธดำเนิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
จากนั้นได้มีรถยนต์ปิคอัพมิตซูบิชิ ของนายอมร
ขับรถมาด้วยความเร็วสูงมาจากอำเภองาวมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองลำปาง
ได้พุ่งชนประสานงาเข้ากับรถตัวเองเข้าอย่างจังเสียดังสนั่นหวั่นไหว
จนรถได้รับความเสียหายพังยับเยินเศษชิ้นส่วนกระจายอยู่บนท้องถนน
และรถยนต์ทั้งสองคันได้เสียหลักไปคนละทิศคนละทาง
นายอมร ได้กระเด็นออกมาจากตัวรถตกกระแทกพื้นถนนนอนจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนตนเองกับเพื่อน
ไม่ได้รับบาดเจ็บและไม่ได้คิดหลบหนีไปที่ไหนยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวนายนิคม
และเพื่อน ไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองลำปาง ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
เพราะจุดดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้
เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบที่กล้องวงจรปิดอีกครั้งหนึ่งว่าใครผิดใครถูกกันแน่เพราะอยู่ในช่วงสัญญาณไฟกระพริบ
แล้วจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 997 ประจำวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 2557)