ปตท. จับมือรัฐ-เอกชน 5 แห่ง
ทำ MOU ลดอุบัติเหตุ ยกเลิกการต้มถังก๊าซเสี่ยงระเบิดในโรงงานเซรามิก
ผู้จัดการคลังปิโตรเลียมลำปาง เผยเตรียมศึกษาทดลองวิธีเพิ่มแรงดันก๊าซทดแทนการต้มถังในโรงงานนำร่อง
พร้อมขยายผลทุกโรงงานเร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 29 กันยายน
2557 คลังปิโตรเลียมลำปาง บริษัท ปตท.
จำกัด (มหาชน) ได้ ลงนามความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการเพื่อลดอุบัติเหตุจากการทำงานในสถานประกอบการเซรามิกในจังหวัดลำปาง
โดยมีนายพานิช จิตร์แจ้ง
อธิบดีกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน เป็นประธาน
เนื่องในโอกาสงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน
ภาคเหนือตอนบน ณ โรงแรมบุษน้ำทอง
อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามความร่วมมือ ได้แก่
ศูนย์อำนวยความปลอดภัยแรงงานเขต 5 ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิก
สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง และคลังปิโตรเลียมลำปาง
นายจักริน จั่นตระกูล ผู้จัดการคลังปิโตรเลียมลำปาง
เผยว่า
จากปัญหาเกี่ยวกับความเข้าใจผิด ในการใช้ถังแก๊ซหุงต้มในกระบวนการผลิตเซรามิกของโรงงานขนาดเล็ก
มักพบว่าส่วนใหญ่จะนำถังก๊าซไปต้ม หรือแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิ ประมาณ 30-40
องศาเซลเซียส เพื่อเพิ่มระดับแรงดันก๊าซ ทำให้ใช้ก๊าซก้นถังจนหมด
ซึ่งเป็นวิธีใช้งานที่อันตรายและถือว่าใช้งานผิดประเภท เนื่องจากการนำถังก๊าซแช่ในน้ำ
จะเกิดสนิมและชำรุด ตัวถังจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ รวมถึงมีอัตรามีความเสี่ยง นอกจากนี้ยัง
พบว่ามีถังก๊าซขนาด 48 กก.ที่ใช้ในโรงงานเซรามิก รวมแล้วหลายร้อยใบ ซึ่งโรงงานส่วนใหญ่
ไม่กล้านำถังมาเปลี่ยนที่คลัง แต่นำถังนั้นไปบรรจุก๊าซ ณ โรงบรรจุ ซึ่งไม่ปลอดภัยและเคยมีเหตุการณ์ถังก๊าซยี่ห้อหนึ่งระเบิดในโรงงานเซรามิกมาแล้ว
ดังนั้นทาง ปตท. โดยคลังปิโตรเลียมลำปาง จึงได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงทางออก
ที่จะป้องกันปัญหาความเสี่ยงจากการใช้ถังก๊าซหุงต้มในโรงงานเซรามิคดังกล่าว
“การต้มถังก๊าซเป็นวิธีผิดๆที่เกิดผลกระทบ
ทั้งอันตรายและสิ้นเปลืองงบประมาณ
ผลิตถังก๊าซใหม่ทดแทนถังที่ชำรุดจากการใช้ในโรงงานเซรามิก
เบื้องต้นเราได้ค้นหาวิธีการเพิ่มแรงดันถังก๊าซเพื่อให้ผู้ประกอบการใช้
พลังงานก๊าซก้นถังจนหมดตามความต้องการใช้ให้คุ้มค่าในการลงทุนด้านพลังงาน
โดยหานวัตกรรมใหม่ๆมาดัดแปลงใช้แทนการต้มถังก๊าซ
ซึ่งพบว่าการก่อห้องเก็บอุณหภูมิขนาดเล็กๆ สำหรับวางถังก๊าซ
แล้วนำท่อปล่อยพลังงานความร้อนที่เหลือใช้จากการเผาเข้าไปในห้องเก็บถังให้
มีอุณหภูมิประมาณ
30-40 องศาเซลเซียสตามหลักการเดิม
เป็นทางออกหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการศึกษาทดลองในโรงงานต้นแบบ
จากนั้นจึงขยายผลไปยังโรงงานอื่นๆ”
ผู้จัดการคลังปิโตเลียมลำปาง
กล่าวว่าโครงการนี้
ทางจังหวัด โดย นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ได้ให้ความสำคัญ และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายให้ทุกโรงงานเลิกใช้ระบบต้มถังก๊าซ
100 % เป็นการลดอัตราเสี่ยงในโรงงานและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของแรงงานด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของคลังปิโตเลียมลำปางจะดูแลเรื่องของนวัตกรรม
ศูนย์อำนวยความปลอดภัยแรงงานเขต 5 และสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัด ดูแลตรวจสอบและติดตั้งระบบวางถังก๊าซให้มีความปลอดภัย
สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปางและศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิก
ประสานความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงผู้ประกอบการโรงงานเซรามิกจะมีส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันให้โครงการนี้
ลุล่วงตามเป้าหมาย