ประธานสภาเทศบาลนคร
ร้อง กทจ.ลำปาง ให้ยกเลิกมติกรณีแต่งตั้งปลัดเทศบาลนครคนใหม่ ระบุพบการไม่ชอบมาพากลในการแต่งตั้ง นายกเทศมนตรีตั้งใจปกปิดพฤติกรรมไม่เหมาะสมของปลัด
โดยการร่วมมือกับเลขานุการ กทจ.ทำข้อมูลเท็จ ขณะที่ทางจังหวัดเรียกสอบสวนแล้ว ด้านนายกฯกิตติภูมิ ปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง
นายกิตติ
จิวะสันติการ ประธานสภาเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.57 ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เพื่อขอให้ยกเลิกมติ กทจ.ลำปาง
ในการประชุมครั้งที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 18 ก.ย. กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต โมกศรี อดีตปลัดเทศบาลเมืองแพร่
เข้ารับตำแหน่งปลัดเทศบาลนครลำปาง เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ กทจ.ลำปาง
กับพวก มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยได้ทำเอกสารอันเป็นเท็จในการแต่งตั้งปลัดเทศบาลฯดังกล่าว
พร้อมกับขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยด่วน
และลงโทษผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนตามอำนาจหน้าที่โดยเด็ดขาด
นายกิตติ
จิวะสันติการ ประธานสภาเทศบาลนครลำปาง
กล่าวว่า ตามมติ กทจ.ลำปาง ให้มีการสรรหาปลัดเทศบาลตามประกาศของ กทจ.
เรื่องหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาล พ.ศ. 2545 ข้อ
139 คือ ในกรณีที่เทศบาลมีตำแหน่งบริหารและสายงานผู้บริหารสถานศึกษาว่างลง
หรือตำแหน่งว่างเนื่องจากการกำหนดขึ้นใหม่
ให้เทศบาลรายงานตำแหน่งว่างนั้นให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลทราบภายใน 7 วัน
นับแต่วันที่มีตำแหน่งว่าง และให้เทศบาลดำเนินการสรรหาบุคคล
เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ว่างภายใน 60 วัน
นับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง
แต่นายกเทศมนตรีไปปฏิบัติตามมติ
โดยใช้ข้อ 119
โดยการเสนอชื่อนายพิชิต
โมกศรี ในการแต่งตั้งปลัดเทศบาล
เมื่อมีหนังสือรับรองการประพฤติต้นสังกัดเดิมของปลัดเทศบาล
โดยนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ได้แจ้งมาว่า ปลัดเทศบาลคนนี้มีความประพฤติไม่เหมาะสม
แต่นายกฯกลับเก็บหลักฐานนี้ไว้ และร่วมกับเลขานุการ กทจ.ทำเอกสารใหม่ขึ้นมายื่นไปที่
กทจ. บิดเบือนคุณสมบัติ
โดยไม่นำหลักฐานที่นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ส่งมารายงานเข้าไปที่ประชุม กทจ.ด้วย
เหมือนเป็นการปกปิดข้อมูล
ประธานสภาเทศบาล
กล่าวต่อไปว่า เหตุที่ทราบถึงความไม่โปร่งใส
เนื่องจาก ในการประชุม กท.จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 15 ส.ค.57 ได้มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระที่ 4.17
ระหว่างประชุมเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นจังหวัดลำปาง ได้นำเอกสารแจกกรรมการจำนวน 2 รายการ ซึ่งเป็นหนังสือจากเทศบาลนครลำปาง
เรื่องขอส่งข้อมูลประวัติการทำงานของนายพิชิต โมกศรี เพิ่มเติม
โดยมีสิ่งที่ส่งมาด้วยคือ สำเนาหนังสือเทศบาลเมืองแพร่ 3
แผ่น และหนังสือจากเทศบาลเมืองแพร่
ถึงท้องถิ่นจังหวัด อีก 1 ฉบับ
และการประชุมในครั้งนั้นคณะกรรมการได้มีมติให้ชะลอการพิจารณาไปก่อนจนกว่าจะได้รับหนังสือจากท้องถิ่นจังหวัดแพร่ ทั้งนี้
จากการตรวจสอบเอกสารแนบที่เทศบาลนครลำปางส่งมาเห็นพิรุธหลายประการ
ทั้งลายเซ็นเอกสารของนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ระหว่างใบปะหน้า กับเอกสารแนบที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้เนื้อหาต่างๆ ในเอกสารแนบก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องความประพฤติของนายพิชิต
โมกศรี แต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงได้ตัดสินใจทำหนังสือไปยังเทศบาลเมืองแพร่
เพื่อขอให้ตรวจสอบเอกสารที่ออกจากเทศบาลเมืองแพร่ ทั้งใบปะหน้า เอกสารแนบ 3
แผ่นดังกล่าว ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่
ซึ่งเทศบาลเมืองแพร่ได้แจ้งเป็นหนังสือกลับมาว่า
เป็นเอกสารที่เทศบาลเมืองแพร่ออกให้จริง โดยเอกสารที่ทางเทศบาลเมืองแพร่ออกให้มี 16
แผ่น หลังจากที่ตนได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว
ก็ได้ส่งสำเนาทั้งหมดให้ท้องถิ่นจังหวัดลำปาง เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาของ
กทจ. ในการประชุมครั้งต่อไป
นายกิตติ
กล่าวอีกว่า เมื่อถึงวันที่ประชุม 18 ก.ย.
ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา เพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้ง
แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการไม่ได้นำเอกสารสำคัญที่เทศบาลเมืองแพร่ส่งมาให้
และเอกสารที่ตนนำส่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบแม้แต่แผ่นเดียว
เพียงแต่สรุปว่าทางเทศบาลเมืองแพร่ได้มีหนังสือตอบกลับมาเกี่ยวกับการพิจารณารับบุคคลเข้ารับตำแหน่งว่าสามารถทำได้ตามคุณสมบัติข้อ
119 โดยไม่มีการนำเอกสารมาแสดงต่อที่ประชุมแต่อย่างใด ทำให้คณะกรรมการไม่ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง
จึงมีมติ 13:2 ให้รับนายพิชิต โมกศรี
เข้าดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเรื่องดังกล่าวมีความไม่โปร่งใสในการแต่งตั้งปลัด
มีการบิดเบือนเอกสารหลักฐานต่างๆ ตนจึงต้องยื่นเรื่องขอให้มีการยกเลิกมติที่ประชุมดังกล่าว
พร้อมกับตรวจสอบความถูกต้องอย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ยังได้มีการส่งหนังสือต่อให้กับ
คสช. สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง
ให้ดำเนินคดีต่อนายกิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กับพวกในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร
และใช้เอกสารเท็จ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อ กทจ.ลำปาง และทางราชการ ไว้แล้ว
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้
ได้รับทราบจากแหล่งข่าวว่า ทางคณะกรรมการ
กทจ.ได้เรียกทางนายกเทศมนตรีนครลำปางเข้าชี้แจง
ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมข้อมูลต่างๆ
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวเพียงว่า ยังไม่เคยเข้าไปชี้แจงกับทางจังหวัด
และไม่รู้เรื่องมีการร้องเรียน
ไม่เห็นหนังสืออะไร ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการเข้ามาทำหน้าที่ก็ต้องทำตามระเบียบและกฎหมายอยู่แล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1003 ประจำวันที่ 7 - 13พฤศจิกายน 2557)